ລາວໂຮມລາວ ເພື່ອປະຊາທິປະໄຕ

Members Login
Username 
 
Password 
    Remember Me  
Post Info TOPIC: ปล้นชาติไม่รู้จักพอ! “อื้อฉาวโจว หย่งคัง”
Anonymous

Date:
ปล้นชาติไม่รู้จักพอ! “อื้อฉาวโจว หย่งคัง”
Permalink   
 


ปล้นชาติไม่รู้จักพอ! “อื้อฉาวโจว หย่งคัง” เผยความฟอนเฟะชนชั้นนำในการเมืองจีน

557000004282701.JPEG

แม้มีกระแสข่าวการลงจากสังเวียนการเมืองของอดีตคณะกรรมการประจำกรมการเมือง แห่งพรรคฯและนายใหญ่คุมความมั่นคงภายในประเทศ คือนาย โจว หย่งคัง พ่นออกจากโรงสีข่าวลือมาเป็นเวลาหลายเดือน บรรดานักสังเกตการณ์ก็ยังไม่อาจฟันธงได้ว่าสีจะจัดการขั้นเด็ดขาดกับโจว โดยตั้งข้อหาดำเนินคดีแบบเดียวกับที่ทำกับอดีตนายใหญ่พรรคฯประจำนครฉงชิ่ง นาย ปั๋ว ซีไหล หรือไม่ สีจะแหกกฎที่มิได้จารึกลายลักษณ์อักษรของพรรคฯ คือ กฎให้ความคุ้มครองจากการดำเนินคดีแก่สมาชิกที่อยู่ในตำแหน่งหรือปลดระวางจาก คณะกรรมการประจำกรมการเมืองของพรรคฯ ซึ่งเป็นองค์กรอำนาจสูงสุดของประเทศ
       
       แต่กระแสกังขาเรื่องชะตากรรมของโจว ก็สลายไปด้วยรายงานข่าวที่ปลอดการเซนเซอร์ของสื่อจีน ที่เผยออกมาไม่นานมานี้ นั่นคือรายงานเปิดโปงรายละเอียดอันน่าตกใจเกี่ยวกับการคอรัปชั่นของสมาชิกใน ครอบครัว และเหล่าอดีตสมุนลูกน้องของโจว
       
       อาทิ รายงานในเดือนที่ผ่านมา ระบุว่าเจ้าหน้าที่ได้บุกค้นบ้านของพี่ชายหรือน้องชายของนายโจว แม้กรณีเหล่านี้ดูไม่เกี่ยวข้องโดยตรงกับนายโจว แต่ในไม่ช้าก็เร็วรัฐบาลจีนก็จะตั้งข้อหาเอาผิดกับ “เสือโจว” อย่างเป็นทางการ
       
       นอกจากนี้ยังมีรายงานข่าวแฉเรื่องน่า ขนลุก ที่ชี้ว่าโจวเคยวางแผนสังหารภรรยาคนแรกของตน และกระแสข่าวลือเขย่าวงการในช่วงปีที่แล้วระหว่างกรณีอื้อฉาวของนาย ปั๋ว ซีไหลกำลังถึงจุดลุ้นระทึก ก็คือ โจวพยายามวางแผนลอบสังหารสี จิ้นผิงที่ทำเนียบผู้นำถนนหนันจงไห่
       
       ประเมินจากรายงานฉาวโฉ่ ที่กลุ่มสื่อจีนเผยออกมา ก็ดูเป็นที่ชัดเจนแล้วว่าเรื่องอื้อฉาวของโจวจะเป็นกรณีที่น่าสะเทือนอารมณ์ ที่สุดและน่ารังเกียจที่สุดบนเวทีผู้นำอาวุโสของพรรคฯ ซึ่งทำให้ “เสือคอรัปชั่น” อย่างนายปั๋ว ซีไหล ที่เป็นพันธมิตรของโจวนั้น ดูเป็นหัวขโมยชั้นกระจอกไป
       
       ทั้งนี้นายปั๋วอดีตผู้นำดาวรุ่งที่เกือบจะไปถึงดวงดาวบนเวทีการเมือง จีนได้เข้าร่วมคณะกรรมการประจำกรมการเมืองฯอยู่แล้วนั้น กลับต้องมาสิ้นอนาคตด้วยคดีอื้อฉาวคอรัปชั่น เมื่อเดือนก.ย.ปีที่แล้ว(2556) ศาลฯได้ตัดสินจำคุกตลอดชีวิตนายปั๋วในความผิดคอรัปชั่น และแทรกแซงการดำเนินคดีฆาตกรรมชาวอังกฤษ ที่เป็นคู่หุ้นส่วนธุรกิจกับครอบครัวปั๋ว โดยมือสังหารคือ ภรรยาของปั๋ว นางกู่ ไคไหล ศาลฯตัดสินโทษประหารชีวิตโดยรอลงอาญาสองปีแก่นาง กู่เมื่อเดือนส.ค.ปี 2555
       
       ผู้นำจีนย่างสามขุมถากถางทางไปสู่การดำเนินคดีกับ “เสือโจว” โดยจัดการกับพวกพ้องที่ใกล้ชิดก่อน โดยเป้าหมายแรกคือ โจว ปิน บุตรชาย นักธุรกิจผู้มั่งคั่งจากธุรกิจที่ไม่ชอบมาพากลและอาจพัวพันกับกิจกรรม อาชญากรรม โดยไม่ยากเลยสำหรับโจว ปินผู้มีบิดากุมอำนาจใหญ่ด้านความมั่นคงภายใน จะกอบโกยผลประโยชน์มหาศาลจากทั้งบรรดาเจ้าหน้าที่รัฐและกลุ่มธุรกิจเอกชนที่ ต้องการเส้นสายการเมือง
       
       ธุรกิจของโจว ปิน มีอาทิ เป็นโบกเกอร์ขายเครื่องมืออุปกรณ์น้ำมันให้แก่อิรัก (ซึ่งก็ทำให้กลุ่มบริษัทน้ำมันของรัฐขาดทุนกันปี้ป่น), โครงการก่อสร้างสถานีพลังงานไฟฟ้าในเสฉวน ทั้งนี้โจว หย่งคังเป็นเลขาธิการพรรคฯประจำเสฉวนระหว่างปี 2542-2545, ป้อนข้อมูลด้านเทคโนโลยีให้แก่สถานีแก็สของรัฐ 8,000 แห่ง, ไปยันการลงทุนในโครงการอสังหาริมทรัพย์, การสำรวจน้ำมัน และเก็บค่าผ่านทางทางหลวง
       
       การเปิดโปงที่นำหายนะแก่โจวมากที่สุด คือ สัมพันธภาพระหว่างโจว ปินกับ นาย หลิว ฮั่น มหาเศรษฐีเหมืองแร่ในเสฉวน ขณะนี้นายหลิวกำลังถูกดำเนินคดีในข้อกล่าวหาอาชญากรรมแก๊งมาเฟียและฆาตกรรม นายหลิวสร้างความมั่งคั่งจนได้ขึ้นทำเนียบนักธุรกิจจีนผู้มั่งคั่งอันดับที่ 148 ของฟอร์บประจำปี 2002 สื่อในจีนเผย หลิว ฮั่นกินอาหารมื้อละ 10,000-20,000 หยวน ( ราว50,000-100,000 บาท) เป็นเรื่องปกติมาก บางมื้อแพงถึง 80,000 หยวน (ราวกว่า400,000 บาท) นายหลิวมั่งคั่งระดับใช้ชีวิตได้สติแตกเช่นนี้ด้วยความช่วยเหลือของนาย โจว ปิน นั่นเอง
       
       อย่างในกรณีหนึ่ง มีรายงานชี้ว่าโจวผู้บุตรได้ใช้เส้นสายทางการเมืองช่วยเหลือนายหลิวขายสถานี พลังงานไฟฟ้าสองแห่งให้แก่บริษัทพลังงานของรัฐ ฟันกำไรถึง 2,200 ล้านหยวน
       
       เป้าหมายที่สองคือ อดีตสมุนมือขวาของโจว หย่งคัง เป็นกลยุทธของหน่วยปราบปรามคอรัปชั่นจีนที่จะจัดการกับเจ้าหน้าที่ระดับล่าง ที่สนิทกับเป้าหมาย โดยขู่คาดโทษถึงจำคุกตลอดชีวิต หรือขั้นโทษประหาร หากพวกเขาไม่ยอมร่วมมือด้วย ดังนั้น จึงมีกลุ่มเจ้าหน้าที่นับสิบๆคนที่เคยทำงานกับโจวในภาคพลังงานที่เสฉวน และในกระทรวงพิทักษ์สันติราษฎร์ ซึ่งโจวเป็นนายใหญ่ของกระทรวงฯนี้ระหว่างปี 2545-2550 ถูกจับกุม
       
       เมื่อรัฐบาลจีนประกาศอย่างเป็นทางการจับกุมโจว เรื่องเน่าฟอนเฟะภายในรัฐแห่งพรรคฯ ก็สร้างความตะลึงมึนตื้บแม้กับกลุ่มนักสังเกตการณ์ที่เฝ้ามองสถานการณ์มานาน ที่สุด สิ่งที่โจว ครอบครัว และพวกพ้องของเขา ทำกันลงไปนั้น ก็คือ พวกแก๊งป่าเถื่อน (gangsterism) และการปล้นสะดมที่ไม่รู้จักพอ
       
       ที่สำคัญยิ่งกว่านี้ ก็คือกรณีอื้อฉาวของโจวจะต้องเชื่อมโยงไปถึงกลุ่มเจ้าหน้าที่ระดับสูงจำนวน มากมาย เฉพาะในขณะนี้ ก็มีรัฐมนตรี 1 คน, เจ้าหน้าที่ระดับรองผู้ว่ามณฑล 2 คน, ผู้ช่วยรัฐมนตรี 1 คน, และผู้บริหารระดับสูงในกลุ่มบริษัทน้ำมันของรัฐหลายคน ถูกจับกุมตัวไปแล้ว ยังไม่หมด คาดกันว่าจะมีกลุ่มเจ้าหน้าที่อีกจำนวนมากถูกจับกุมในเร็วๆนี้
       
       สำหรับสี จิ้นผิง ผู้ที่จะต้องกุมบังเหียนรัฐมังกรไปอีกนับสิบปี (เป็นธรรมเนียมปฏิบัติที่ผู้นำสูงสุดจีนจะเป็นเก้าอี้กันสองสมัย) การเหวี่ยงตาข่ายยักษ์จับตัวโจวได้นั้น จะเสริมสร้างคะแนนนิยมของเขา และเขาก็จะสามารถแสดงให้สาธารณชนจีนที่ยังคลางแคลงได้ประจักษ์ถึงความมุ่ง มั่นทางการเมืองในการปราบเหล่า “กังฉิน” จอมเขมือบทำลายล้างชาติผู้ทรงอิทธิพลใหญ่ที่สุด
       
       ที่สำคัญยิ่งกว่าอีกคือ การปราบนักการเมืองใหญ่ที่ก่อนหน้าไม่อาจแตะต้องได้ จะขจัดสิ้นซึ่งความสงสัยเกี่ยวกับอำนาจส่วนบุคคลของสี.

 



__________________
Anonymous

Date:
RE: ปล้นชาติไม่รู้จักพอ! “อื้อฉาวโจว หย่งคัง”
Permalink   
 


557000004282702.JPEG

       กล้องสอดแนมจับภาพ คฤหาสน์ ครอบครัวโจว หย่งคัง
       เซาท์ ไชน่า มอร์นิ่ง โพสต์--ขณะที่พรรคคอมมิวนิสต์จีน ดำเนินการไต่สวนโจว หย่งคัง อดีต “ซาร์” ด้านความมั่นคงภายในของจีน กลุ่มเจ้าหน้าที่พรรคคอมมิวนิสต์ก็ขุดคุ้ย ค้นหาความมั่งคั่งผิดปกติของครอบครัวและพวกพ้องโจว เมื่อไม่นานมานี้ ก็มีรายงานเปิดเผยคฤหาสน์ของครอบครัวโจว
       
       เจ้าหน้าที่ได้ส่งเฮลิคอปเตอร์ไร้คนขับขนาดย่อม ที่ติดตั้งกล้องถ่ายภาพ (Drone video) เข้าไปเก็บภาพบ้านหลังมหึมาในมณฑลเจียงซู ซึ่งเป็นบ้านของครอบครัวโจว กล้องได้บันทึกภาพสองนาที และภาพฯดังกล่าวก็ถูกนำออกเผยแพร่ในเว็บท่ารายใหญ่ เทนเซนต์ (Tencent) เมื่อต้นเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา(2557)
       
       รายงานข่าวสื่อจีนระบุว่าบ้านหลังใหญ่นี้เป็นของลูกชายของโจว คือ นาย โจว ปิน วัย 42 ปี ซึ่งเป็นนักธุรกิจใหญ่ เป็นบ้านสองชั้น ล้อมด้วยกำแพงสูงสีขาว ภายในมีสวนจีนแบบเก่า ตั้งอยู่ในหมู่บ้านซีเฉียนโถว เมืองอู๋ซี อันเป็นหมู่บ้านที่บรรพบุรุษโจวถือกำเนิด
       
       จากบทความของนิตยสาร ไฉซิน ที่โพสต์พร้อมกับวีดีโอ ระบุว่าบ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านที่น้องชายสองคนของนายโจว หย่งคัง เคยอาศัยอยู่ บ้านหลังนี้สร้างในปี 2553 โดยสร้างแทนที่บ้านเก่าที่โจวอาศัยในวัยเด็กซึ่งถูกรื้อถอน
       
       ก่อนหน้ามีรายงานสืบสวนสอบสวนของสื่อท้องถิ่นในเซี่ยงไฮ้ Oriental Morning Post เปิด เผยโดยอ้างแหล่งข่าวผู้อาศัยอยู่แถวๆนั้น ว่าพวกเขาเห็นเจ้าหน้าที่และนักธุรกิจมาที่บ้านหลังใหญ่นี้แบบหัวกระไดไม่ แห้ง แต่พักหลังก็หายหน้ากันไปหมด พวกเขายังบอกว่ามีกล้องสอดแนมติดไว้รอบบริเวณบ้านด้วย
       
       Oriental Morning Post รายงานอีกว่า บรรดาชาวบ้านเห็นโจวครั้งสุดท้ายเมื่อเดือนเม.ย.ที่แล้ว (2556) เขา (โจว) ยังได้บอกแก่ชาวบ้านว่า “นี่อาจเป็นครั้งสุดท้ายที่ผมได้มาพบกับพวกคุณ”
       
       สำหรับ นาย โจว ปิน ถูกจับกุมตัวอย่างเป็นทางการตั้งแต่เดือนธ.ค.ที่แล้ว(2556) และเป็นไปได้ว่าเขาอาจถูกไต่สวนในข้อกล่าวหาคอรัปชั่น นอกจากนี้ โจว ปิน อาจถูกตั้งข้อกล่าวหาพัวพันกับธุรกิจผิดกฎหมายในมณฑลซื่อชวน (หรือ เสฉวน) และในภาคอุตสาหกรรมน้ำมัน ซึ่งก่อนหน้าธุรกิจในมณฑลเสฉวนและภาคน้ำมันจีน เป็นฐานอำนาจของโจวผู้พ่อ



__________________
Page 1 of 1  sorted by
 
Quick Reply

Please log in to post quick replies.



Create your own FREE Forum
Report Abuse
Powered by ActiveBoard