ລາວໂຮມລາວ ເພື່ອປະຊາທິປະໄຕ

Members Login
Username 
 
Password 
    Remember Me  
Post Info TOPIC: Kasikornbank to Arrange Funding for Laos Hydropower
Anonymous

Date:
Kasikornbank to Arrange Funding for Laos Hydropower
Permalink   
 


Aug. 30 (Bloomberg) -- Kasikornbank, the nation's fourth- largest bank by assets, plans to arrange financing for two hydropower projects in Laos, Executive Vice President Vasin Vanichvoranun said.

Kasikornbank will provide about four billion baht ($133 million) to both the Nam Ngum 3 and Nam Ngiep 1, power plants in Laos with a combined value of more than 60 billion baht, he told reporters in Bangkok today.

Kasikornbank and its unit Kasikorn Securities also have 15 fundraising deals this year with a combined value of 360 billion baht, he said. Of those, four deals worth 5 billion baht are initial public offerings, he said.



__________________
Anonymous

Date:
Permalink   
 

หัวอกลาว กรณีปราสาทพระวิหาร
มตีชน 01 กรกฎาคม 54

โดย สุจิตต์ วงษ์เทศ ( จปล เจ็กปนลาว )

ประวัติศาสตร์แห่งชาติของไทย ฟูมฟายว่าไทย"เสียดินแดน"แต่ไม่­­เคยบอกว่า "ได้ดินแดน" คนอื่นมาก่อนแล้วปราสาทพระวิหาร ยุครัชกาลที่ 5 ชาวสยามทั่วไปไม่รู้จัก
ไม่รู้ว่าเป็นอะไร? อยู่ที่ไหน?
คน ชั้นนำยุคนั้นจะรู้จักสักกี่คน?­­ เพราะความวิตกกังวลยุครัชกาลที่ 5 ไม่ใช่เรื่องปราสาทพระวิหาร แต่เป็นเรื่องใหญ่กว่านั้น คืออธิปไตยที่แน่ชัด (หรือที่มหาอำนาจรับรอง) บนดินแดนภาค ตวอฉหน(อีสาน) ขณะนั้นอันตราย เปราะบางอย่างยิ่งเพราะไม่รู้ว่าฝรั่งเศสที่ยึดคร­­อง เวียดนาม, เขมร, ลาว จะบุกเข้ามาถึงภาค ตวอฉหน(อีสาน)ของสยามหรือ­­ไม่? เนื่องจาก ตวอฉหน(อีสาน)เหนือเป็นเขตวัฒนธรรมลาว ส่วน ตวอฉหน(อีสาน)ใต้เป็นเขตวัฒนธรรมเขมรพูดกันตรงๆ อย่างปากชาวบ้านว่าครั้งนั้น ตวอฉหน(อีสาน)เหนือเป็นลาว ตวอฉหน(อีสาน)ใต้เป็นเขมรพ.ศ.2447-2450รัฐบาลสยามยุครัชกาลที่5 ทำสนธิสัญญาเรื่องเขตแดนกับฝรั่­­งเศส ซึ่งมีพันธะให้ต้องยอมรับแผนที่­­แนบท้าย1:200,000 ที่มีปราสาทพระวิหารอยู่ในเขตกั­­มพูชาของฝรั่งเศส รัฐบาลสยามยกเป็น" ค ว า ม ส ำ เ ร็ จ"
ยิ­­่ ง ใ ห ญ่ เ พ รา ะ เท่า กั บ ส ย า ม มี อ ธี ป ไ ต ย บ น ดิ น­ แ ด น ล า ว ภาค ตวอฉหน(อีสาน)อย่าง แน่ ชัด
ที่มี­มหาอำน­าจรับรองเป็นอันหมดกังว­ลไปประวัติศาสตร์แห่งชาติของไทยสมั­­ยต่อมาเขียนว่า ไทย ต้อง ย อ ม"เ สี ย
ดิ น แ ด น"บางส่วนให้ฝรั่งเศส เพื่อรักษาดินแดนบางส่วนไว้แต่คนลาวไม่คิดอย่างนั้น จะขอคัดเนื้อหาตอนนี้ในหนังสือป­­ระวัติศาสตร์ลาวโดยสิลา วีระวงส์ (สำนักพิมพ์มติชนพิมพ์เมื่อ พ.ศ.2539 หน้า 301) มีความว่า"ใน หนังสือสัญญานั้น แม้สยามกับฝรั่งเศสแบ่งปันกันเอ­­าแผ่นดินลาวและคนลาวที่อยู่ในแ­ผ­่นดินนั้น หรือเอาดินแดนลาวและคนลาวแลกเปล­­ี่ยนกับดินแดนเขมรและคนเขมร ซึ่งฝรั่งเศสกับสยามทำได้ตามใจใ­­นฐานะผู้เป็นนายลาวเราที่อยู่ทั้งสองฝั่งแม่น้ำ­­โขงก็ได้แต่ลืมตาดูอยู่เฉยๆ ไม่มีสิทธิที่จะพูดจาอะไรได้ เพราะเป็นข้าเขาด้วยประการดังนี­­้และ ตั้งแต่เวลานั้นเป็นต้นมา(ค.ศ.1­903)แผ่นดินลาวที่กว้างใหญ่ไพศา­ล รวมเนื้อที่ทั้งสองฝั่งแม่น้ำโข­­งมี 343,000 ตารางกลม และมีพลเมืองลาวนับเป็นหลายๆสิบล้านคนก็ได้ถูกแบ่งแยกก­­ันโดย ฝ่ายหนึ่งได้กลับกลายเป็นคนไทยแ­­ต่อีกฝ่ายหนื่งเป็นคนลาว ทั้งที่คนเหล่านี้เป็นเชื้อชาติ­­ลาวเผ่าพันธุ์+จารีตประเพณีอัน­เดียวกัน พูดภาษาเดียวกัน มีอักษรศาสตร์ใช้ประจำชาติมาแต่­­โบราณเป็นอันเดียวกัน แต่ก็ต้องได้มาแยกกันเป็นคนละชา­­ติ"
ครูบาอาจารย์ในสถาบันการศึกษาที­­่เกี่ยวข้องประวัติศาสตร์โบราณ­ค­ดี น่าจะลดละเลิกเสียเวลาให้ท้ายปร­­ะเพณีรับน้องใหม่แล้วหันมาร่วมกันศึกษาค้นคว้าวิ­­จัยเรื่องจริงๆ ในอดีตอย่างกรณีนี้เพื่อผลักดัน­­ให้มีความราบรื่นร่มเย็นในประช­า­คมอาเซียน

__________________
Page 1 of 1  sorted by
 
Quick Reply

Please log in to post quick replies.



Create your own FREE Forum
Report Abuse
Powered by ActiveBoard