รวบสองผัวเมียเปิดคาราโอเกะบังหน้า ค้ากามเด็กลาว
วันที่ 21 ก.ย. ร.ต.ท.เสรี ทวีทรัพย์ รอง.สว กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.) ได้เดินทางไปประสานกับ สำนักงานพัฒนาความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด(พมจ.)สกลนคร มีนายสาคร เสียงเพราะ เจ้าหน้าที่ พมจ.สกลนครและเจ้าหน้าที่จากศูนย์ประชาบดีจังหวัดสกลนคร ซึ่งได้รับการร้องเรียนว่ามีการบังคับให้มีการขายบริการแก่แขกที่มาเที่ยว คาราโอเกะแห่งหน่งในอำเภอวานรนิวาส จึงเดินทางไปตรวจค้นที่บ้านเลขที่ 32/ 2 บ้านนาคำ หมู่ 4 ต.นาคำ อ.วานรนิวาส จ.สกลนคร ซึ่งเปิดเป็นร้านคาราโอเกะบังหน้า “ชื่อร้านมิตรภาพริมคลองคาราโอเกะ” ตั้งอยู่บริเวณหลังโรงเรียนบ้านนาคำ เมื่อบุกเข้าไปพบ 3 สาว ชาวลาว อายุ 14-17 ปี 3 คน มาจากสปป.ลาว. ให้การว่าได้เดินทางมากับคนไทยที่ไปติดต่อมาทำงานร้านอาหาร โดยทราบว่าจะมีรายได้วันละกว่า 100 บาท จากนั้นได้มีนายสมชายหรือจรัส พานเหนือ เจ้าของร้านไปรับขึ้นฝั่งและเดินทางมาที่ร้านดังกล่าว จากนั้นต้องขายบริการเพราะอยากได้เงิน โดยจะไปกับแขกที่รีสร์อทข้างนอก เงินค่าตัวทางร้านเป็นผู้รับ ทำตั้งแต่ 4 โมงเช้า ถึง ตี 3 ทุกวัน จนร่างกายผอม อยากกลับบ้านแต่ก็กลับไม่ถูก เงินก็ไม่มี ข้าวได้กินวันละครั้งเดียว ออกไปไหนไม่ได้ จนกระทั่งมีแขกมาเที่ยวและบอกเขาว่าอยากกลับบ้านแต่ไม่มีเงิน คิดถึงบ้าน อยู่อย่างทรมาน โดยทั้งหมดให้การว่า เจ้าของร้านคือนายสมชายหรือจรัส พานเหนือ อายุ 44 ปี และนางอุไรวรรณ สุรินราช ภรรยา เป็นเจ้าของ
ต่อมานายสมชายหรือ จรัส พานเหนือและภรรยา ได้เดินทางมาพบเจ้าหน้าที่และอ้างว่าได้ขออนุญาตถูกต้อง ส่วนเด็กหญิงทั้งสามคน ก็มีคนมาฝากไว้ทำงาน ไม่ได้กักขังตามที่กล่าวหากัน เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวมาลงบันทึกที่ สภ.วานรนิวาส เพื่อดำเนินคดีต่อไป ส่วนเด็กหญิงทั้งสามคนส่งให้เจ้าหน้าที่ศูนย์ประชาบดีจังหวัดสกลนครช่วย เหลือต่อไป
ร.ต.ท.เสรี รอง สว.บก.ปคม.หัวหน้าชุดเข้าจับกุมกล่าวว่า สำหรับพฤติกรรมของนายสมชายหรือจรัส พานเหนือ ไปรับสาวลาวมาด้วยตนเอง และให้ขายบริการ ซึ่งการกระทำดังกล่าวเป็นขบวนการ จึงแจ้งขอหา ตามพ.ร.บ.การรับคนงานต่างด้าว ตาม ม.27 รับคนงานต่างด้าวโดยไม่ได้รับอนุญาต และ พ.ร.บ.ป้องกันปราบปรามค้ามนุษย์ พ.ศ.2551 มาตรา 6 ซึ่งมีโทษสูง จำคุก 6-10 ปี ในกรณีหญิงอายุ 15-18 ปี