ความสัมพันธ์จีนเริ่มเปลี่ยน หลังพม่าเปิดประเทศ
รอยเตอร์ - เมื่อเจ้าหน้าที่พม่ามีคำสั่งให้ นางเฉินฉิงเฟิง (Chen Ching-feng) ชาวพม่าเชื้อชาติจีน ย้ายป้ายภาษาจีนออกร้านเสื้อผ้าของเธอที่ตั้งอยู่ในเมืองมัณฑะเลย์ เมืองใหญ่ที่สุดทางภาคเหนือของพม่า นางเฉิน เพิกเฉย และเมื่อเจ้าหน้าที่กลับมาอีกครั้งหลังผ่านไป 2-3 วัน และสอบถามว่าเหตุใดป้ายจึงยังอยู่ เธอกล่าวเพียงว่า งานยุ่ง เธอถูกเจ้าหน้าที่สั่งให้นำป้ายลงทันทีและไม่ให้นำกลับขึ้นไปติดอีก ขณะเดียวกันร้านค้าที่มีป้ายภาษาจีนร้านอื่นๆ ก็ถูกสั่งให้ย้ายป้ายภาษาจีนเช่นเดียวกัน เจ้าหน้าที่รัฐบาลในกรุงเนปีดอ เมืองหลวงของพม่า ระบุว่า พม่าไม่มีคำสั่งห้ามอย่างเป็นทางการกับการโฆษณาภาษาจีน แต่เรียกร้องให้เลิกใช้ป้ายที่มีภาษาจีนในเมืองมัณฑะเลย์ที่เต็มไปด้วยพ่อ ค้าแม่ค้าชาวจีนอยู่มากมาย ซึ่งสร้างความไม่สบายใจเกี่ยวกับการขยายอิทธิพลของจีนในประเทศ ขณะที่พม่าดำเนินการปฏิรูปอย่างเต็มที่ ความสัมพันธ์ของพม่ากับจีนที่เป็นประเทศผู้ลงทุนรายใหญ่ที่สุดและเป็นประเทศ คู่ค้าใหญ่เป็นอันดับสองของพม่ากำลังเปลี่ยนไป ระหว่างที่พม่าตกอยู่ในภาวะถูกโดดเดี่ยวประเทศ พม่าพึ่งพาจีนที่เป็นพันธมิตรทางทหารและทางการทูตที่ใกล้ชิดที่สุด และจากมาตรการคว่ำบาตรจากชาติตะวันตกหลังพม่าปราบปรามการประท้วงเรียกร้อง ประชาธิปไตยในปี 2531 ยิ่งทำให้พม่ามีความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจใกล้ชิดมากยิ่งขึ้นกับจีน แต่เมื่อพม่ากลับเข้าสู่หนทางการเป็นประชาธิปไตย การถกเถียงเกี่ยวกับบทบาทของจีนก็เพิ่มเสียงชัดขึ้นเรื่อยๆ การปฏิรูปของพม่าเกิดขึ้นขณะที่การแข่งขันทางภูมิศาสตร์การเมืองระหว่าง สหรัฐและจีนดูจะชัดเจนมากยิ่งขึ้น นับตั้งแต่ที่รัฐบาลในยุคประธานาธิบดีบารัค โอบามา เดินหน้าแผ่อิทธิพลในเอเชีย หลังรับบทบาทนำในสงครามในอิรักและอัฟกานิสถานในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา อิทธิพลทางเศรษฐกิจที่ขยายตัวของจีนไม่เคยเป็นที่นิมยมชมชอบในประเทศ ที่ในอดีตมีความเคลือบแคลงสงสัยต่ออำนาจต่างชาติแห่งนี้ ฝ่ายจีนก็เช่นเดียวกัน การปะทะกันระหว่างทหารรัฐบาลพม่าและกลุ่มก่อความไม่สงบกลุ่มต่างๆ ตามแนวพรมแดนจีนทำให้มีผู้บริสุทธิ์ชาวจีนเสียชีวิตไปเป็นจำนวนมากและมีผู้ ลี้ภัยข้ามพรมแดนไปฝั่งจีนมากขึ้น “รัฐบาลพยายามที่จะห้ามอิทธิพลต่างชาติในประเทศก่อนหน้านี้ และดูเหมือนว่าสิ่งนั้นกำลังจะเกิดขึ้นอีกครั้ง” นายหู เจี่ยจี (Hu Chieh-chi) ชาวพม่าเชื้อชาติจีน เจ้าของร้านอาหารในเมืองมัณฑะเลย์ กล่าว การรณรงค์กับผู้คนในพื้นที่กำลังก่อตัวเพื่อเรียกร้องให้ระงับ โครงการก่อสร้างท่อส่งน้ำมันและก๊าซธรรมชาติคู่ขนานที่เป็นโครงการลงทุนเชิง กลยุทธ์ของจีนในพม่า ที่จะวางแนวท่อจากอ่างเบงกอลผ่านพม่าไปยังมณฑลทางภาคตะวันตกของจีนที่ยัง ด้อยพัฒนา ในการให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวรอยเตอร์ นักเคลื่อนไหวรณรงค์กล่าวว่า พวกเขามีความกล้ามากขึ้นที่จะเคลื่อนไหว หลังรัฐบาลพม่าตัดสินใจเมื่อวันที่ 30 ก.ย.ระงับโครงการก่อสร้างเขื่อนมิตโสน มูลค่า 3,600 ล้าน เพราะการกดดันของประชาชน เจ้าหน้าที่สหรัฐฯกล่าวกับรอยเตอร์ ว่า การตอบสนองต่อความต้องการของประชาชนเป็นปัจจัยสำคัญในการฟื้นคืนความ สัมพันธ์ครั้งประวัติศาสตร์ของรัฐบาลสหรัฐกับพม่าเมื่อปลายปีที่ผ่านมา นายกอ ติลา (Kyaw Thiha) อดีตนักโทษทางการเมืองที่ลงสมัครเลือกตั้งชิงที่นั่งในสภาในวันที่ 1 เม.ย.จากพรรค NLD ระบุว่า สิ่งที่จีนทำไม่ใช่ประชาธิปไตย และเขาต้องการให้รัฐบาลหยุดโครงการสร้างท่อส่งน้ำมันและก๊าซธรรมชาติความยาว 790 กม.ที่จะตัดผ่านประเทศ รวมทั้งเมืองที่เขาอาศัยอยู่ด้วย
http://www.manager.co.th/IndoChina/ViewNews.aspx?NewsID=9550000021143