นครพนม - หลากหลายเล่ห์! ชาวลาวขนยาบ้าข้ามโขง ล่าสุด ตชด.235 จับหนุ่มใหญ่ชาวลาว พร้อมยาบ้ายัดในมัดหัวหอมหวังตบตาเจ้าหน้าที่ สารภาพรับจ้างนายทุนขนส่งลูกค้าฝั่งไทยครั้งละหมื่นบาท ซ้ำทำกันทั้งครอบครัว วันนี้ (29 ก.พ.) เวลา 08.30 น. ที่หน่วย ตชด.235 อ.ธาตุพนม จ.นครพนม พ.ต.ท.ชนธัต เทียมนาก ผบ.ร้อย ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 235 อ.ธาตุพนม จ.นครพนม พร้อมด้วย พ.ต.ท.วีรพุฒ เหมือนพุฒิ สรวัตรใหญ่ สภ.หลักศิลา อ.ธาตุพนม ได้จับกุม ท้าวหวาด คอนโสภา อายุ 49 ปี ชาวบ้านบึงสาร เมืองหนองบก แขวงคำม่วน สปป.ลาว ขณะนำยาบ้า จำนวน 1,783 เม็ด ซุกซ่อนมาในถุงหัวหอม โดยท้าวหวาดนั่งเรือข้ามมาบริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขงที่บ้านแสนพัน ต.แสนพัน อ.ธาตุพนม จ.นครพนม ทำทีจะนำหัวหอมข้ามมาขายตบตาเจ้าหน้าที่ตำรวจ พ.ต.ท.ชนธัต เทียมนาก ผบ.ร้อย ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 235 เปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้เหตุการณ์เกิดขึ้นช่วงเช้า หลังเจ้าหน้าที่ดักซุ่มดูพฤติกรรมการลักลอบขนยาเสพติดมาฝั่งไทย หลังพบผู้ต้องหานั่งเรือข้ามฟากมาขึ้นฝั่งไทยแบกกระสอบขึ้นมานำถุงหัวหอมมา ขาย แต่ทางเจ้าหน้าที่เอะใจผิดปกติ ฝั่งไทยก็ปลูกเยอะตามแนวริมตลิ่งแม่น้ำโขง จึงขอตรวจค้นในที่สุดก็เจอยาบ้ายัดกลางมัดหอมดังกล่าว จากการสอบสวนของ ท้าวหวาด คอนโสภา อายุ 49 ปี ผู้ต้องหาชาวลาวให้การรับสารภาพว่า ได้รับการว่าจ้างจากนายทุนชาวลาวนำยาบ้ามาส่งให้ลูกค้าไทย เป็นเงินค่าจ้าง 10,000 บาท โดยทำมาหลายครั้ง ส่วนใหญ่จะซุกซ่อนมากับผัก ทำทีนำผักข้ามมาขาย จนกระทั่งถูกจับกุมได้ ท้าวหวาดยังบอกอีกว่า ที่บ้านทำกันหลายคนทั้งครอบครัว ซึ่งเมื่อวานนี้หลานชาย 2 คนก็นำยาบ้าข้ามมาส่งและถูกจับกุมได้ พร้อมของกลางเกือบ 200 เม็ด
จังหวัดศรีสะเกษตรวจค้นรถยนต์กระบะพบซุกยาบ้ามา 3990 เม็ดขณะลักลอบขนส่งคนลาวหนีเข้าไทย
วันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2555 ที่ถนนสายโชคชัยทางหลวงแผ่นดินสาย 24 ก่อนถึงสามแยกอำเภอขุขันธ์ตำรวจชุดเฉพาะกิจปราบปรามยาเสพติดภาค 3 ได้ติดตามเอเย้นค้ายาบ้ารายใหญ่ จังหวัดอุบลราชธานีจึงได้ประสานกับพันตำรวจเอกอภิรัฐคำหอมผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรขุขันธ์ จังหวัดศรีสะเกษร่วมกับสกัดตรวจค้นรถยนต์กระบะอีซุซุดีแม็คสีดำหมายเลข ทะเบียนถ ณ 2273 กรุงเทพมหานครฯ ขณะลักลอบขนคนลาวมาจากช่องเม็กจำนวน 4 คนหลบหนีเข้าประเทศไทย พบยาบ้าซุกอยู่ท้ายกระบะรถยนต์จำนวน 3,990 เม็ดทราบชื่อนายมานิจส่งนอกอายุ 40 ปีอยู่บ้านเลขที่ 80 หมู่ที่ 5 ตำบลไชยมงคลอำเภอเมืองจังหวัดนครราชสีมา
โดยพลตำรวจตรีประชาศรีพจธรรม เดินทางมาร่วมสอบสวนนายมานิจส่งนอกซึ่งให้การรับสารภาพว่า จังหวัดอุบลฯ เพื่อเดินทางเข้ามากรุงเทพฯและเมื่อนำคนลาวไปส่งในกรุงเทพฯก็จะมีคนโทรศัพท์หาตน ซึ่งตนทำมาเป็นครั้งที่สอง เลย ก่อนที่จะมารับส่งยาบ้าด้วย
ภายหลังการสอบสวน ก่อนที่นายมานิจส่งนอกให้กับร้อยตำรวจประยงจานชิน ในข้อหามียาเสพติดประเภท 1 ยาบ้าไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและเป็นธุระจัดหา โดยไม่ได้รับอนุญาตด้วย