ทองเหมืองเซโปนใกล้หมด ปีนี้ลาวผลิตได้น้อยลง
ASTVผู้จัดการออนไลน์ -- คาดว่าสินแร่ทองคำในเขตเหมืองเซโปน เมืองวีละบูลี แขวงสะหวันนะเขต จะหมดลงในปี 2556 นี้ ซึ่งจะทำให้ปริมาณการผลิตในปีนี้ลดน้อยลง แต่ในขณะเดียวกันเหมืองสัมปทานของบริษัทจีนแห่งนี้ผลิตทองแดงได้มากขึ้น ซึ่งทำให้รัฐบาลลาวได้รับผลตอบแทนในรูปแบบต่างๆ เพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 205 ล้านดอลลาร์ เป็นจำนวนสูงที่สุดที่เคยได้รับ เงินตอบแทนครั้งล่าสุดนี้ทำให้รัฐบาลลาวมีรายได้จากเหมืองทองแห่งนี้ ทั้งหมดกว่า 800 ล้านดอลลาร์ นับตั้งแต่เริ่มมีผลิตและส่งออก สำนักข่าวของทางการกล่าว รายได้ก้อนใหม่นี้รวมทั้งส่วนแบ่งตามมูลค่าหุ้นจำนวน 15 ล้านดอลลาร์ จากหุ้น 10% ในบริษัทล้านช้างมิเนอรัลส์จำกัด (Lane Xang Minerals Co Ltd) ผู้ได้รับสัมปทานและบริหารจัดการเหมือง สำนักข่าวสารปะเทดลาวกล่าว ปี 2554 เหมืองทองเซโปนผลิตทองคำได้ทั้งหมด 74,484 ออนซ์ (หรือ 2111585.8804 กรัม หรือ 2.1 ตันเศษ) ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมาย แต่ปี 2555 คาดว่าจะลดลงเหลือระหว่าง 60,000-65,000 ตัน ตามปริมาณสินแร่ที่ลดลงและคาดว่าจะหมดลงในปี 2556 สำนักข่าวสารปะเทดลาว รายงานอ้างการเปิดเผยของนายสะหมาน อะ เนกา ผู้อำนวยการ LXML เซโปน ในปีเดียวกันเหมืองเซโปนผลิตทองแดงแผ่น (Copper Cathodes) ได้ทั้งหมด 78,859 ตัน เพิ่มขึ้น 23% เทียบกับปี 2553 ซึ่งเป็นผลจากการขยายโรงงานผลิตที่แล้วเสร็จในช่วงปลายปี ส่วนปีนี้คาดว่าจะผลิตได้ถึง 80,000 ตัน ตามแผนการของกลุ่มเอ็มเอ็มจี (Minerals and Metals Group) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ LXML ขปล.กล่าว อย่างไรก็ตาม XLML กำลังสำรวจเนื้อที่สัมปทานเพิ่มเติมเพื่อค้นหาสายแร่ต่อไปอีก ซึ่งอาจจะช่วยให้สามารถเพิ่มผลผลิตได้ในอนาคต นายสะหมานกล่าว นอกจากรัฐบาลจะได้รับผลตอบแทนในรูปเงินปันผลหุ้น ค่าภาคหลวง ภาษีเงินได้บุคคลและภาษีศุลกากรแล้ว บริษัทสัมปทานยังมีภาระช่วยพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนในท้องถิ่นนับ พันๆ คน จัดแหล่งทำมาหากิน และจัดหางานอาชีพให้ นอกจากนั้นยังจะต้องจัดสร้างระบบสาธารณูปโภคพื้นฐาน สร้างโรงเรียน โรงพยาบาล สร้างระบบไฟฟ้า น้ำประปา และสร้างถนนหนทาง สำหรับแหล่งชุมชนต่างๆ ด้วย ซึ่งจะต้องใช้เงินทุนอีกหลายล้านดอลลาร์ ตามความตกลงในสัญญาสัมปทานเหมือง .