จีนประกาศเพิ่มงบทหารกว่า 11% เอเชีย 'หวั่น' ทวีตึงเครียดภูมิภาค
เอเจนซีส์ – จีนเผยงบกลาโหมปีนี้เพิ่มขึ้นในอัตราเลข 2 หลัก นักวิเคราะห์คาดความเคลื่อนไหวนี้เพิ่มความตึงเครียดภายในภูมิภาค และผลักดันให้เพื่อนบ้านหันไปเป็นพันธมิตรกับอเมริกาแน่นแฟ้นขึ้น หลี่ เจ้าซิง โฆษกสภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติของจีน แถลงในวันอาทิตย์ (4) ว่างบประมาณด้านกลาโหมของแดนมังกรปีนี้จะเพิ่มขึ้น 11.2% อยู่ที่ 106,410 ล้านดอลลาร์ จากที่ในปี 2011 มีการเพิ่มงบด้านนี้ 12.7% หลี่อธิบายว่า งบประมาณที่แถลงล่าสุดถือว่า “ต่ำมาก” เมื่อคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ของมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) หรือหากเทียบกับของประเทศอื่นๆ เขาย้ำว่า งบประมาณก้อนนี้มีเป้าหมายเพื่อปกป้องอธิปไตย ความมั่นคงของชาติ และบูรณภาพแห่งดินแดน ไม่ใช่เพื่อคุกคามประเทศอื่นใด ทั้งนี้ ในการยื่นข้อเสนองบประมาณประจำปีงบประมาณ 2013 ต่อรัฐสภาสหรัฐฯเมื่อเร็วๆ นี้ ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ระบุว่า งบประมาณระดับพื้นฐานของกระทรวงกลาโหมควรจะอยู่ที่ 525,400 ล้านดอลลาร์ ต่ำลงมาราว 5,100 ล้านดอลลาร์จากที่รัฐสภาอนุมัติให้ในปีงบประมาณ 2012 กระนั้นพวกนักวิเคราะห์ก็ชี้ว่า พญามังกรเพิ่มการใช้จ่ายทางการทหารในอัตราเลข 2 หลักมาเกือบตลอดทศวรรษที่แล้ว ขณะที่เศรษฐกิจเติบโตอย่างรวดเร็วและขณะนี้มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลกรองจากสหรัฐฯ ที่ผ่านมา กองทัพปลดแอกประชาชนจีน (พีแอลเอ) ที่นับว่ามีขนาดใหญ่ที่สุดของโลกด้วยกำลังพลราว 2.3 ล้านนาย เก็บงำโครงการกลาโหมส่วนใหญ่ แม้ยืนกรานว่า การยกระดับเพื่อความทันสมัยมีเป้าหมายเพื่อป้องกันประเทศเท่านั้น ทว่า การสั่งสมเพิ่มพูนแสนยานุภาพอย่างรวดเร็วของจีนกลายเป็นสัญญาณเตือนภัยชาติ ต่างๆ ในเอเชีย รวมถึงสหรัฐฯ ผู้ซึ่งเพิ่งประกาศยุทธศาสตร์การทหารใหม่เมื่อเดือนมกราคม ที่มุ่งเน้นการคานอำนาจที่เพิ่มขึ้นของพญามังกรโดยตรง นักวิเคราะห์กล่าวว่า การเพิ่มงบประมาณที่น้อยเกินคาดในปีนี้เป็นความพยายามของปักกิ่งในการผ่อน คลายความกังวลของวอชิงตันและในภูมิภาคเกี่ยวกับอำนาจทางการทหารที่เพิ่มขึ้น ของตนเอง กระนั้น วิลลี หลัม ผู้เชี่ยวชาญด้านจีนของมหาวิทยาลัยจีนในฮ่องกง ตั้งข้อสังเกตว่า ประเทศส่วนใหญ่คงไม่หลงลมจีน เพราะต่างรู้ดีว่างบประมาณที่แท้จริงมีมูลค่ามากกว่าที่ประกาศออกมาอย่าง น้อยครึ่งหนึ่ง หลัมสำทับว่า การอุดหนุนการปรับปรุงกองทัพให้ทันสมัยไม่ได้รวมอยู่ในงบประมาณฉบับที่เผย แพร่ ซึ่งส่วนใหญ่ครอบคลุมเฉพาะเงินเดือนทหารและการซ่อมบำรุงอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ มีอยู่เท่านั้น ส่วนเงินสำหรับการวิจัยและพัฒนาอาวุธใหม่ๆ ได้มาจากงบประมาณส่วนอื่นๆ อาร์เธอร์ ติง ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับพีแอลเอที่อยู่ในไต้หวัน สำทับว่า งบการทหารปีปัจจุบันที่ยังถือว่ามากอยู่ดีนั้นจะผลักดันให้ประเทศต่างๆ ในเอเชียหันไปผูกมิตรกับสหรัฐฯ ใกล้ชิดยิ่งขึ้น ดังนั้น ปักกิ่งจึงต้องอธิบายและพยายามโน้มน้าวเพื่อนบ้านให้เข้าใจว่า เพราะเหตุใดจึงต้องเพิ่มงบมากขนาดนี้ ไอเอชเอส กลุ่มวิจัยระดับโลก คาดหมายทิ้งท้ายว่า งบกลาโหมของจีนจะเพิ่มขึ้นสองเท่าระหว่างปี 2011-2015 และมีมูลค่ามากกว่าการใช้จ่ายในตลาดกลาโหมสำคัญอื่นๆ ในเอเชีย-แปซิฟิกรวมกัน ญี่ปุ่นเป็นประเทศหนึ่งที่ตั้งคำถามย้ำหลายครั้งเกี่ยวกับเจตนารมณ์ทางการ ทหารของปักกิ่ง รายงานที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลญี่ปุ่นที่ออกมาเดือนที่แล้วเตือนว่า ท่าทีแข็งกร้าวของจีนในการอ้างสิทธิ์เหนือน่านน้ำแทบทั้งหมดในทะเลจีนใต้ อีกไม่นานอาจมีการเลียนแบบไปใช้ยังน่านน้ำใกล้เคียงอื่นๆ จีนและญี่ปุ่นกระทบกระทั่งทางการทูตกันอยู่เนืองๆ ที่ชัดเจนที่สุดคือปลายปี 2010 เมื่อญี่ปุ่นจับไต้ก๋งเรือประมงจีนใกล้เกาะ ที่เรียกกันว่าเซนกากุในภาษาญี่ปุ่น หรือเตียวอี๋ว์ในภาษาจีน หลังจากเรือประมงลำดังกล่าวชนกับเรือยามฝั่งของญี่ปุ่น โดยเกาะที่ว่าอยู่ระหว่างจีนกับไต้หวันในทะเลจีนตะวันออก และเป็นพื้นที่ที่โต้แย้งกันมานาน พลเรือเอกโรเบิร์ต วิลลาร์ด ผู้บัญชาการทหารของสหรัฐฯ ประจำภาคพื้นเอเชีย-แปซิฟิก ก็เพิ่งกล่าวในวันอังคาร(28ก.พ.)ที่แล้วว่า จีนจะยังคงสะสมแสนยานุภาพทางการทหารอย่างไม่ลดละ แม้ไม่ได้พิจารณาถึงความเคลื่อนไหวล่าสุดของอเมริกาในเอเชียก็ตามที