รวบเสี่ยโรงงานผักดองใช้เด็กลาวทำงานเยี่ยงทาส ขู่หนีจะยิงตาย
ปคม.ดำเนินคดีเจ้าของโรงงานผักกาด ดองบังคับแรงงานชาวลาวทำงานเยี่ยงทาส ทั้งดุด่าทุบตี ข่มขู่ใครคิดหนีจะตามไปยิงให้ตาย ทำงานเสร็จจะถูกขังไว้ในห้องไม่ให้ออกไปไหน เผย เคยมีหญิงชาวลาวหลบหนีแต่ถูกนายจ้างจับตัวกลับมาได้ถูกตบตีและเตะเข้าที่ใบ หน้า วันนี้ (23 มี.ค.) เมื่อเวลา 13.00 น.ที่ บก.ปคม. พ.ต.อ.วรพงษ์ ทองไพบูลย์ ผกก.2 บก.ปคม. พ.ต.ท.ชูศักดิ์ เคทอง รอง ผกก.2 บก.ปคม.เรียกตัว นายเสกสรร หรือ ยิ่ง จตุรงคสัมฤทธิ์ อายุ 61 ปี อยู่บ้านเลขที่ 145/6 หมู่ที่ 11 แขวงและเขตตลิ่งชัน กทม.นายจักรพงษ์ หรือ อาต้น จตุรงคสัมฤทธิ์ อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 21/137 หมู่ที่ 10 ต.บางแม่นาง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี และ น.ส.เบญจวรรณ หรือ ติ๊ก จตุรงคสัมฤทธิ์ อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 145/6 หมู่ที่ 11 แขวงและเขตตลิ่งชัน กทม.โดยผู้ต้องหาทั้งหมดเป็นญาติกัน มารับทราบข้อกล่าวหาร่วมกันค้ามนุษย์โดยแสวงหาประโยชน์จากการบังคับใช้แรง งานโดยกระทำกับบุคคลอายุไม่เกิน 15 ปี ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขัง ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นและร่วมกันกระทำการทารุณกรรมต่อร่างกาย หรือจิตใจเด็ก พ.ต.อ.วรพงษ์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากเด็กหญิงชาวลาวอายุระหว่าง 13-20 ปี ว่า ถูกหลอกมาบังคับขายแรงงานในโรงงานผักกาดดอง เลขที่ 8/8 หมู่ที่ 4 ต.หนองเงาพราย อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี โดยขณะที่ทำงานอยู่ในโรงงานนั้นถูกกลุ่มผู้ต้องหาบังคับให้ทำงานเยี่ยงทาส พร้อมทั้งดุด่าทุบตี และข่มขู่ว่าหากใครคิดหนีไปจะตามไปยิงให้ตาย เมื่อทำงานเสร็จก็จะถูกขังไว้ในห้องไม่ให้ออกไปไหน ก่อนหน้านี้ เคยมีหญิงชาวลาวหลบหนีไปแต่ถูกนายจ้างจับตัวกลับมาแล้วถูกตบตีและเตะเข้าที่ ใบหน้า จึงเรียกมาดำเนินคดี พร้อมทั้งช่วยเหลือหญิงสาวชาวลาวออกมาได้ จากนั้นนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน บก.ปคม.ดำเนินคดีต่อไป