ລາວໂຮມລາວ ເພື່ອປະຊາທິປະໄຕ

ทางการลาวจับกุม"หน่อคำ" สมุนขุนส่า ผู้ต้องหาค้ายาเสพติดรายใหญ่ได้แล้ว ขณะที่ทางการไทยยังไม่ได้รับหนังสือยืนยันอย่างเป็นทางการ ด้านเฉลิม ระบุได้รับรายงานทางลับแล้ว สั่งการป.ป.ส.ประสานสถานฑูตลาวส่งตัวมาดำเนินคดียังไทย ผบ.ทบ.เผยจับได้เมื่อ 25 เม.ย. เป็นโอกาสพิสูจน์ทหารไทยเกี่ยวข้องสังหารลูกเรือจีนหรือไม่...

จากกระแส ข่าวว่าทางการลาวสามารถจับกุมนายหน่อคำ อดีตลูกน้องขุนส่า ราชายาเสพติดรายใหญ่ ซึ่งถูกตั้งค่าหัวจำนวน 2 ล้านบาท นั้น ล่าสุดร.ต.อ.เฉลิม  อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี  ระบุว่า ได้รับรายงานจากแหล่งข่าวทางลับ จากประเทศลาวในการจับกุมนายหน่อคำแล้ว โดยได้สั่งการให้ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด หรือ ป.ป.ส.  ประสานสถานทูตลาวประจำประเทศไทย เพื่อขอให้มีการส่งตัวนายหน่อคำ กลับมาดำเนินคดีในไทย

ขณะที่นายสุขุม  โอภาสนิพัทธ์  รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ส. กล่าวว่า ได้สอบถามหน่วยงานยาเสพติดของลาว แต่ยังไม่มีหนังสือตอบกลับอย่างเป็นทางการ เชื่อว่า มีการจับกุมตัวได้จริง แต่เนื่องจากนายหน่อคำ เป็นที่ต้องการตัว ของ พม่า จีน ลาว และไทย จึงอาจเป็นสาเหตุที่ทางการลาว ยังไม่ยืนยันถึงข่าวการจับกุมดังกล่าว

ด้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก  กล่าวว่า ได้รับรายงานว่าทางการลาวได้ควบคุมตัวนายหน่อคำ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 25 เม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งการควบคุมตัวได้ในครั้งนี้เนื่องจากได้มีการบูรณาการด้านการข่าวระหว่าง ไทย จีน ลาว และพม่า ที่ดูแลความปลอดภัยในพื้นที่ลุ่มแม่น้ำโขง ซึ่งน่ายินดีที่สามารถจับกุม นายหน่อคำได้ และขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบตัวในรายละเอียดอยู่ ดังนั้นต้องรอผลการสอบสวนก่อน

ทั้งนี้ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา นายหน่อคำ ถูกระบุตัวว่าเป็นหัวหน้าในการปล้นและฆ่าคนในลุ่มแม่น้ำโขงเกี่ยวกับขบวน เรือต่าง ๆ ที่ผ่านเส้นทางดังกล่าว การจับกุมได้ในครั้งนี้น่าจะทำให้สถานการณ์ในพื้นที่ลุ่มแม่น้ำโขงดีขึ้น ที่สำคัญจะได้พิสูจน์ว่าที่กล่าวอ้างมาทั้งหมดข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรกันแน่ และเรื่องที่เกิดขึ้นมีทหารเข้าไปถูกกล่าวหาว่า เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ลูกเรือ 13 ศพของจีนเสียชีวิตด้วยหรือไม่

นายสุรพงษ์  โตวิจักษณ์ชัยกุล  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งอยู่ระหว่างการประชุมระดับรัฐมนตรีอาเซียน – สหภาพยุโรป ที่กรุงบันดาร์เสรี เบกาวัน ประเทศบรูไนดารุสซาลาม กล่าวว่า ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากทางการลาว ต้องการให้ดำเนินคดีในประเทศลาว ก่อนก็ยากที่จะโต้แย้งเรื่องการขอตัวมาดำเนินคดีในประเทศไทย  อย่างไรก็ตาม การจับกุมตัวนายหน่อคำ ได้จริงจะเป็นประโยชน์ เพราะเป็นบุคคลที่มีคดีเกี่ยวกับยาเสพติดในหลายประเทศ รวมถึงการเสียชีวิตของลูกเรือประมงจีนในลุ่มน้ำโขงจำนวน 13 ศพ ที่อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ซึ่งทางจีนมีความสนใจคดีดังกล่าว และได้สอบถามเรื่องนี้จากไทยหลายครั้ง นอกจากนี้ภูมิภาคอาเซียนประกาศได้ประกาศให้เป็นเขตปลอดยาเสพติด แต่ละประเทศจึงต้องร่วมมือกันแก้ปัญหาเหล่านี้

สำหรับนายหน่อคำ อดีตทหารไทยใหญ่ กองทัพเมืองไต ลูกน้องขุนส่า ไม่มีที่อยู่ที่ชัดเจน ซึ่งได้หลบหนีไปมาระหว่างเมืองสามพลู เขตรอยต่อของประเทศพม่าและจีน โดยในบางครั้งจะอาศัยเกาะกลางแม่น้ำโขง และเคลื่อนไหวค้าขายธุรกิจใต้ดิน ในพื้นที่ อ.เชียงแสน จ.เชียงราย พื้นที่เมืองพง และเมืองโก จ.ท่าขี้เหล็ก รวมทั้งข้ามไปกบดานอยู่ในฝั่งของประเทศลาว

นอกจากนี้ ยังมีพฤติกรรมเรียกเก็บค่าคุ้มครองเรือขนส่งสินค้า บริเวณสามเหลี่ยมทองคำ และเป็นหัวหน้ากองกำลังติดอาวุธคุ้มกันยาเสพติด เป็นเจ้าพ่อยาเสพติดแห่งสามเหลี่ยมทองคำ เชี่ยวชาญในการรบ เป็นผู้ต้องหามีหมายจับของ พม่า จีน ลาว และไทยที่ได้ประกาศจับเมื่อ 7 วันที่แล้ว โดยตั้งค่าหัว 2 ล้านบาท  จากคดีสังหารลูกเรือขนส่งสินค้าจีน 13 ศพ ของเรือหยี่ชิง  8  และเรือหัวฉิง เมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว  คดีปล้นเรือบรรทุกยาเสพติด โดยตั้งแต่ปี 2551 จนถึงปัจจุบัน มีการปล้นเรือและยิงปะทะในพื้นที่ 15 เหตุการณ์ มีผู้เสียชีวิต 29 คน บาดเจ็บ 11 คน