ລາວໂຮມລາວ ເພື່ອປະຊາທິປະໄຕ

“ปิกอัพ” ขนต่างด้าว สปปลาว หนี ตร.แหกโค้งดับ 2 ศพ เจ็บเกลื่อน 18 ราย

สุรินทร์- ปิกอัพขนแรงงานต่างด้าวชาวลาวหลบหนีเข้าเมือง อัดแน่นมา 20 คนมุ่งหน้าเข้ากรุง ถึงเมืองช้างเจอตำรวจทางหลวง คนขับตกใจซิ่งรถฝ่าความมืดหนีเข้าถนนหมู่บ้าน แหกโค้งพลิกคว่ำ ดับคาที่ 2 ศพ บาดเจ็บนอนเกลื่อน 18 ราย อาการสาหัส 4 ราย ส่วนคนขับชาวไทยหลบหนีไปได้ ตำรวจทราบชื่อแล้ว เร่งติดตามตัวมาดำเนินคดี
       
       วันนี้ (8 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 00.51 น. ที่ผ่านมา ร.ต.ท.ยุทธพงษ์ โคขุนทด ร้อยเวร สภ.เมืองสุรินทร์ ได้รับแจ้งเหตุจากพลเมืองดีว่า พบรถยนต์กระบะแหกโค้งพลิกคว่ำทำให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก ที่บริเวณ 3 แยกโค้งหักศอก ระหว่างบ้านใหม่-คุ้มบ้านใหม่ ม.3 ต.ตระแสง อ.เมือง จ.สุรินทร์ จึงได้นำกำลังตำรวจพร้อมประสานหน่วยแพทย์ฉุกเฉินจากโรงพยาบาลสุรินทร์และ เจ้าหน้าที่อาสาสมัครกู้ภัยมูลนิธิจิบเต๊กเซี่ยง ตึ้งสุรินทร์, หน่วยกู้ภัยวีอาร์กู้ชีพ และหน่วยกู้ชีพสลักได รวม 6 คัน รุดไปยังที่เกิดเหตุเพื่อช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ
       
       เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ พบผู้บาดเจ็บซึ่งทั้งหมดเป็นแรงงานต่างด้าวชาวลาวหลบหนีเข้าเมืองผิดกฎหมาย นอนร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวดกระจัดกระจายอยู่ทั่วบริเวณ รวม 18 ราย และมีผู้เสียชีวิตคาที่ 2 ราย เป็นชายไม่ทราบชื่อ 1 ราย และหญิงไม่ทราบชื่อ 1 ราย อายุประมาณ 20 ปี ใกล้กันพบรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ แค็บ สีบรอนซ์ทอง หมายเลขทะเบียน บล 5498 อุบลราชธานี สภาพรถตกลงไปพลิกคว่ำตะแคงอยู่ข้างถนนพังยับเยิน หลังคาผ้าใบคลุมกระบะหลังหลุดกระเด็นออกจากตัวรถพังยับไม่เหลือชิ้นดี
       
       ขณะที่บริเวณใต้ซากรถกระบะดังกล่าวพบหญิงสาวชาวลาวนอนติดอยู่ด้านใน และร้องขอความช่วยเหลือด้วยความเจ็บปวด เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยได้เร่งยกซากรถยนต์กระบะออกเพื่อนำร่างผู้บาดเจ็บส่ง โรงพยาบาลสุรินทร์ช่วยชีวิตอย่างเร่งด่วน รวมจำนวนผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุครั้งนี้ทั้งหมด 18 ราย เสียชีวิต 2 ราย ในจำนวนนี้อาการสาหัส 4 ราย
       
       ทางด้าน พ.ต.ท.ประกิจ เหลืองวิลัย รอง ผกก.สภ.เมืองสุรินทร์ ได้รุดเดินทางไปตรวจสอบผู้บาดเจ็บที่โรงพยาบาลสุรินทร์ และสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งทำการสืบสวนสอบสวนและติดตามคนขับรถคัน เกิดเหตุมาดำเนินคดีอย่างเร่งด่วน หลังทราบชื่อคือ นายวันชัย พันศรี อายุประมาณ 20 ปี ชาว จ.อุบลราชธานี ซึ่งฉวยโอกาสหลบหนีไปได้หลังเกิดอุบัติเหตุสยองดังกล่าว
       
       จากการสอบถาม นายเย็น อาสมี อายุ 30 ปี ชาวสะหวันนะเขต สปป.ลาว ผู้ได้รับบาดเจ็บ บอกว่า พวกตนเป็นชาวลาว เดินทางมาจากหลายเขตพื้นที่ก่อนมารวมตัวกันเพื่อข้ามแดนเข้ามาฝั่งไทยที่ บริเวณชายแดนไทย-สปป.ลาว ด้าน จ.อุบลราชธานี ซึ่งต้องเสียค่านายหน้าให้คนไทยรายละ 2,000 บาทเพื่อเดินทางมาทำงานก่อสร้างยังกรุงเทพฯ และบางส่วนจะเดินทางไปทำงานที่ จ.ชลบุรี โดยทั้งหมดได้ขึ้นรถกระบะคันดังกล่าวเพื่อมุ่งหน้าไปยังกรุงเทพฯ ซึ่งพากันโดยสารมาบนรถอย่างแออัดยัดเยียด ทั้งบริเวณแค็บรถ และกระบะหลัง รวมทั้งหมด 20 คน แยกเป็นชาย 11 คน หญิง 9 คน และ คนขับอีก 1 คนเป็นชาวไทย
       
       ก่อนเกิดเหตุได้ยินคนขับบอกว่า “เจอตำรวจ” จากนั้นคนขับจึงรีบเหยียบคันเร่งแล้วเลี้ยวซ้ายเข้าซอยและขับรถหนีไปด้วย ความเร็วสูง แต่ตนไม่ทราบว่าตำรวจได้ติดตามมาหรือไม่ พอถึงทางโค้งรถเกิดเสียหลักพลิกคว่ำดังกล่าว โดยที่พวกตนซึ่งอยู่บนรถไม่ทันตั้งตัว ต่างคนจึงกระเด็นออกจากตัวรถไปคนละทิศละทาง ทำให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจำนวนมากดังกล่าว
       
       ร.ต.ท.ยุทธพงษ์ โคขุนทด ร้อยเวร สภ.เมืองสุรินทร์ เปิดเผยว่า จากการสอบสวนในเบื้องต้นทราบว่า รถกระบะขนแรงงานต่างด้าวดังกล่าวกำลังขับมุ่งหน้าผ่าน จ.สุรินทร์ไปยังกรุงเทพฯ แต่พอมาถึงที่เกิดเหตุได้พบกับรถของตำรวจทางหลวง ด้วยความที่คนขับกลัวความผิดจึงรีบเร่งเครื่องยนต์เพื่อหลบหนีก่อนจะขับหลบ เข้ามาในซอยหมู่บ้านด้วยความเร็วสูง ประกอบกับไม่ชำนาญเส้นทางจึงทำให้รถแหกโค้งเสียหลักพลิกคว่ำดังกล่าว ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้สืบสวนสอบสวนติดตามจับกุมคนขับมาดำเนินคดีตาม กฎหมาย พร้อมทำการผลักดันชาวลาวที่หลบหนีเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมายกลับประเทศต่อไป
       
       ส่วนรถยนต์กระบะคันที่เกิดเหตุได้ตรวจทราบข้อมูลเบื้องต้น ทราบว่าเจ้าของรถอยู่ที่ จ.อุบลราชธานี และมีศักดิ์เป็นลุง คนขับคือ นายวันชัย พันศรี ซึ่งอ้างว่าเป็นหลานได้ยืมรถไปใช้แต่ไม่ทราบว่าเอารถไปทำอะไรที่ไหน และอยู่ระหว่างเดินทางมาดูรถด้วยตัวเอง
       
       สำหรับรายชื่อผู้บาดเจ็บประกอบด้วย
       
       1. ด.ญ.นุ่มนิ่ม อายุ 5 ขวบ ชาวลาว
       2. น.ส.ปอ อายุ 20 ปี อยู่แขวงสาละวัน สปป.ลาว
       3. นายกูน อายุ 18 ปี อยู่เมืองปากเซ แขวงสะหวันนะเขต สปป.ลาว
       4. นางเตี้ย แก้วอุธาไล อายุ 31 ปี อยู่เมืองชนะสมบูน แขวงจำปาสัก สปป.ลาว
       5. นายแดง อายุ 27 ปี อยู่เมืองชนะสมบูน แขวงจำปาสัก สปป.ลาว
       6. นายปอน ศรีวงศ์ไถ อายุ 20 ปี อยู่เมืองสองคอน แขวงสะหวันนะเขต สปป.ลาว
       7. นายสายัญ บุญยาทิพย์ อายุ 25 ปี อยู่เมืองสองคอน แขวงสะหวันนะเขต สปป.ลาว
       8. นางดา อายุ 21 ปี อยู่เมืองคง แขวงจำปาสัก สปป.ลาว
       9. นางน้อย อายุ 19 ปี อยู่เมืองคง แขวงจำปาสัก
       10. นางเก้อ อินทราวงศ์ อายุ 41 ปี เมืองชนะสมบูน แขวงจำปาสัก สปป.ลาว
       11. นายเย็น อาสมี อายุ 30 ปี ชาวลาว
       12. นายพาด ภทวงศ์ อายุ 20 ปี อยู่เมืองจำพร แขวงสะหวันนะเขต สปป.ลาว
       13. นายอ็อด ขวัญชัย อายุ 18 ปี อยู่เมืองคง แขวงสาละวัน สปป.ลาว
       
       และมีหญิงไม่ทราบชื่อ 2 ราย รวมทั้งชายชาวลาวไม่ทราบชื่ออีก 3 รา