จีนลุยต่อรถไฟความเร็วสูงในลาว –งานนี้ ทักษิณ จัดให้!!!

การ ที่ทางการลาวได้ให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวกในทุกๆด้านให้กับคนเสื้อแดง ที่เดินทางไปรดน้ำดำหัวในโอกาสสงกรานต์ปีใหม่ที่นครเวียงจันทน์นั้น นับเป็นสิ่งที่ได้ยังผลประโยชน์ที่คุ้มค่าอย่างยิ่งสำหรับทางการลาว ซึ่งนั่นก็เป็นเพราะว่า ทักษิณ ได้ให้การยืนยันกับผู้แทนของรัฐบาลและนักธุรกิจลาวว่าโครงการเชื่อมต่อทาง รถไฟความเร็วสูงจากจีนมาลาวและไทยนั้นยังจะดำเนินการต่อไป ทั้งๆที่โครงการนี้ส่อแววว่าจะมีการชลอโครงการออกไปอย่างไม่มีกำหนด โดยที่มีสาเหตุสำคัญมาจากการที่รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาวสุดที่รักของ ทักษิณ นั่นเองที่ได้ไปปรับเปลี่ยนแผนการก่อสร้างทางรถไฟความเร็วสูงในไทยที่รัฐบาลชุดก่อน (อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ) ได้ตกลงร่วมกับทางการจีน

กล่าวคือรัฐบาลชุดปัจจุบันของไทยภายใต้การนำของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ นั้น ได้ประกาศอย่างชัดเจนแล้วว่าโครงการก่อสร้างทางรถไฟความเร็วสูง 3 เส้นทางที่คณะรัฐบาลไทยให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกก็คือเส้นทางกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ กับ เส้นทางกรุงเทพฯ-นครราชสีมา และ เส้นทางกรุงเทพฯ-หัวหิน

ส่วน โครงการเชื่อมต่อทางรถไฟความเร็วสูงกับลาวจากนครเวียงจันทน์มากรุงเทพฯนั้น นอกจากจะยังไม่มีกำหนดเวลาที่จะลงมือก่อสร้างอย่างชัดเจนแล้ว ก็ยังปรากฏว่ารัฐบาลไทยได้ตัดสินใจที่จะดำเนินการก่อสร้างทางรถไฟตามเส้นทาง ดังกล่าวนี้ให้สั้นลงอีกด้วย กล่าวคือการก่อสร้างทางรถไฟความเร็วสูงที่เชื่อมต่อจากกรุงเทพฯถึงจังหวัด นครราชสีมา (โคราช) เท่านั้น

ซึ่ง ด้วยแผนการดังกล่าวของรัฐบาลไทย ก็ได้เป็นผลทำให้ทางการฝ่ายจีนพิจารณาเห็นว่ายังไม่มีความจำเป็นที่จะต้อง เร่งรีบดำเนินการก่อสร้างทางรถไฟความเร็วสูงในลาวในช่วงนี้ เพราะว่าการที่จะทำให้การลงทุนก่อสร้างทางรถไฟความเร็วสูงในลาวได้รับผล ประโยชน์สูงสุดนั้นจะต้องสามารถเชื่อมต่อกับไทย มาเลเซียและสิงคโปร์ได้อย่างครบวงจรด้วย นั่นก็หมายความว่าทางการจีนจะตัดสินใจลงทุนเพื่อก่อสร้างทางรถไฟความเร็วสูง ในลาวอย่างจริงๆจังๆนั้น ก็ต่อเมื่อมีความชัดเจนจากรัฐบาลไทยแล้วว่ามีแผนการที่จะเชื่อมต่อทางรถไฟ ความเร็วสูงกับลาวเมื่อใด

แต่ครั้นเมื่อ ทักษิณ ได้ให้คำมั่นเช่นว่านั้น ซึ่งก็คือการเชื่อมต่อทางรถไฟความเร็วสูงจากจีนมาลาวและไทยในเส้นทางคุนหมิง-สิบสองปันนา-หลวงพระบาง-เวียงจันทน์-หนองคาย-โคราช-กรุงเทพฯนั้นยังจะดำเนินการต่อไปอย่างแน่นอน (ในขณะที่ทางการลาวก็รู้ซึ้งว่าใผเป็นใผในการเมืองไทย) จึงถือเป็นสิ่งที่รับประกันได้ว่ารถไฟความไว(เร็ว)สูง ในลาวนั้นจะเกิดขึ้นได้อย่างแท้จริง ทั้งนี้และทั้งนั้นก็เพราะการ นำพาอันฉลาดส่องใสของพรรคประชาชนปฏิวัติลาวแต่เพียงผู้เดียวนั่นเอง

อย่าง ไรก็ตาม โครงการนี้ก็ยังจะต้องประสบกับปัญหาล่าช้าต่อไปอีกระยะหนึ่ง เพราะยังไม่มีกำหนดเวลาที่ชัดเจนว่าทางการจีนจะเริ่มลงมือดำเนินการก่อสร้าง เมื่อใด โดยถึงแม้ว่าทางการจีนจะได้ยืนยันกับทางการลาวว่าการศึกษาความเป็นไปได้ของ โครงการ และการออกแบบก่อสร้างในขั้นสุดท้ายจะมีขึ้นในเร็วๆนี้ก็ตาม แต่ทางการจีนก็ยังไม่มีกำหนดเวลาที่ชัดเจนว่าจะดำเนินการดังกล่าวนี้ได้แล้ว เสร็จสมบูรณ์เมื่อใด ซึ่งนั่นก็เป็นเพราะว่าจีนยังรอความชัดเจนจากรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ว่าจะตอบสนองตามการยืนยันดังกล่าวของ ทักษิณ อย่างเป็นทางการเมื่อใด

แต่ ถึงกระนั้น เจียง จ้าวเหลียง ประธานธนาคารพัฒนาแห่งประเทศจีน ก็ได้ให้การยืนยันในโอกาสเข้าเยี่ยมคำนับ จูมมาลี ไซยะสอน ประธานประเทศลาว ที่นครเวียงจันทน์เมื่อไม่นานมานี้ว่ารัฐบาลจีนได้ให้ ความสำคัญอย่างยิ่งต่อโครงการเชื่อมต่อทางรถไฟความเร็วสูงจากจีนมาลาวและไทย โดยที่รัฐบาลจีนเอง ก็ได้มอบหมายให้ธนาคารพัฒนาแห่งประเทศจีนเป็นผู้รับผิดชอบในการจัดหาแหล่ง เงินทุนเพื่อให้การสนับสนุนแก่โครงการฯไปจนกว่าว่าการดำเนินงานจะเสร็จ สมบูรณ์ในทุกๆด้าน

ทาง ด้าน สมสะหวาด เล้งสะหวัด รองนายกรัฐมนตรีผู้กำกับแผนการ และ นโยบายทางเศรษฐกิจของรัฐบาลลาว ก็ได้แสดงความมั่นใจว่าลาวจะเป็นประเทศแรกในกลุ่มอาเซียนที่จะมีระบบรถไฟ ความเร็วสูง เพราะทางการลาวกับจีนได้ตกลงในบทบันทึกความเข้าใจร่วมกัน (MOU) อย่างชัดเจนนับตั้งแต่ปี 2010 ที่ ผ่านมาแล้วว่าทั้งสองฝ่ายจะร่วมกันก่อตั้งบริษัทร่วมทุนขึ้นมาเพื่อรับผิด ชอบโครงการฯร่วมกันดังที่ สมสะหวาด ได้แถลงชี้แจงความตอนหนึ่งว่า

“ใน MOU ได้ระบุว่าจีน-ลาว ร่วมกันลงทุนเพื่อก่อสร้าง คุ้มครอง บริหาร บนพื้นฐานต่างฝ่าย ต่างได้รับผลประโยชน์ และพัฒนาร่วมกัน แล้วสร้างตั้งบริษัทร่วมทุนลาว-จีน อยู่ในนี่ก็แม่นฝ่ายจีนนั้นก็จะประกอบส่วนเป็นเงินสดและอุปกรณ์ โดยถือหุ้นนี้ก็แม่น 70% ส่วนฝ่ายลาวก็จะถือหุ้น 30% ในนี้กะรวมมีค่าเวนคืนที่ดิน ค่าโยกย้ายและจัดสรรที่ดินให้ประชาชน หรือว่าค่าเก็บกู้ระเบิดบ่ทันแตก”

ทาง การลาวเชื่อมั่นว่าจะได้รับผลประโยชน์อย่างมหาศาลจากโครงการดังกล่าวนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสมสะหวาด นั้นถึงกับได้แถลงยืนยันว่าโครงการก่อสร้างทางรถไฟความเร็วสูงเชื่อมต่อ ระหว่างลาวกับจีนนี้จะส่งผลดีต่อการพัฒนาทางเศรษฐกิจของลาวในระยะยาว

ทั้ง นี้ก็เนื่องจากว่าการเชื่อมต่อทางรถไฟความเร็วสูงกับจีนดังกล่าวนี้ไม่เพียง จะเป็นการตอบสนองต่อแผนการพัฒนาให้ลาวไปเป็นศูนย์กลางของการเชื่อมต่อทาง ด้านคมนาคม-ขน ส่งในเขตลุ่มแม่น้ำโขงเท่านั้น หากยังจะทำให้ลาวเป็นประเทศแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีระบบรถไฟความ เร็วสูงอีกด้วย ดังที่ สมสะหวาด ได้กล่าวว่า

“โครงการสร้างทางรถไฟเชื่อมต่อลาว-จีน นี่เป็นเส้นทางที่มีความหมายประวัติศาสตร์อันจะนำเอาผลประโยชน์มาสู่ประเทศ เราอย่างมหาศาล พร้อมกันนั้น กะเป็นการเฮ็ดให้ประเทศลาวเป็นใจกลางของการเชื่อมต่อกับบรรดาประเทศในอนุภาค พื้นให้ปรากฏเป็นจริง ด้านหนึ่งอีก กะเป็นการยกสูงบทบาทอิทธิพลของประเทศเรา เพราะว่าประเทศเราจะเป็นประเทศตำอิดอยู่ในเอเชียอาคเนย์ที่มีรถไฟความไวสูง ตามมาตรฐานสากล”

แต่ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากว่าการก่อสร้างทางรถไฟส่วนใหญ่ในลาวนั้น จะต้องผ่านเขตภูเขาสูง จึงทำ ให้ต้องมีการเจาะอุโมงก์คิดเป็นระยะทางรวมถึง 190 กิโลเมตรและยังจะต้องก่อสร้างสะพานอีกหลายแห่งที่มีความยาวรวมกันถึง 90 กิโลเมตรด้วยนั้น ซึ่งคาดว่าการก่อสร้างทางรถไฟความเร็วสูงเฉพาะที่อยู่ในเขตลาวนี้จะต้องใช้เงินลงทุนมากถึง 7,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ กล่าวคือทางการลาวจะต้องร่วมลงทุนด้วยคิดเป็นมูลค่าถึง 2,100 ล้าน ดอลลาร์สหรัฐ โดยเชื่อว่าทางการลาวนั้นจะได้มาจากการกู้ยืมจากทางการจีน และการตีราคาจากที่ดินในลาวที่จะนำมาใช้เป็นสถานที่ก่อสร้างทางรถไฟและสถานี รถไฟในตลอดเส้นทางนั่นเอง

ทั้งนี้โดยการก่อสร้างทางรถไฟเฉพาะในเขตลาวนั้นจะมีระยะทางยาวกว่า 420 กิโลเมตร โดยเริ่มจากชายแดนระหว่างลาวกับจีนที่ด่านบ่อเต็นในแขวงหลวงน้ำทาเรื่อยลงมา จนถึงนครเวียงจันทน์ ซึ่งตามแผนการที่วางไว้นั้นจะมีการก่อสร้างสถานีใหญ่ 5 แห่งคือที่ด่านบ่อเต็น อุดมไซ หลวงพระบาง วังเวียง และนครเวียงจันทน์ นอกจากนั้น ก็ยังจะมีสถานีย่อยอีก 16 แห่งที่อยู่ระหว่างสถานีใหญ่ทั้ง 5 แห่งดังกล่าวอีกด้วย

ก่อนหน้านี้ ก็มีรายงานว่าทางการจีนได้เริ่มลงมือก่อสร้างทางรถไฟตามโครงการเชื่อมต่อทางรถไฟกับลาวนับตั้งแต่ปลายปี 2010 เป็นต้นมาแล้ว ซึ่งเป็นการเริ่มก่อสร้างจากเขตสิบสองปันนาในมณฑลยูนนานเพื่อที่จะต่อมายังชายแดนลาวที่ด่านบ่อเต็นในระยะต่อไป

แต่ สำหรับการก่อสร้างทางรถไฟความเร็วสูงในเขตประเทศลาวนั้นก็ยังไม่เริ่มลงมือ ก่อสร้างแต่อย่างใด ซึ่งนอกจากจะมีสาเหตุมาจากการประกาศแผนการดังกล่าวของรัฐบาลไทยแล้ว ก็ยังมีสาเหตุที่สำคัญอีกประการหนึ่งมาจากการที่ทางการลาวกับจีนยังไม่ สามารถตกลงกันเกี่ยวกับที่ดินที่ทางการลาวต้องจัดสรรให้กับโครงการฯได้จนถึง ปัจจุบันนี้

กล่าวก็คือฝ่ายจีนต้องการที่จะได้ที่ดินที่มีหน้ากว้างถึง 2 กิโลเมตรในตลอดเส้นทางที่มีระยะทางยาวกว่า 420 กิโลเมตรดังกล่าว ซึ่งหมายความว่าทางการลาวจะต้องจัดสรรที่ดินให้กับโครงการฯ คิดเป็นเนื้อที่รวมกว้างกว่า 840 ตารางกิโลเมตร (ใหญ่กว่าสิงคโปร์) ในขณะที่ทางการลาวก็เห็นว่าที่ดินหน้ากว้าง 800 เมตรในตลอดเส้นทางนั้นก็น่าจะเพียงพอแล้ว ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้ทั้งสองฝ่ายยังไม่สามารถตกลงกันได้ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา

อย่าง ไรก็ตาม ด้วยความสัมพันธ์ในฐานะหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ในการพัฒนาอย่างรอบด้านที่ลาวกับ จีนมีอยู่ร่วมกัน เมื่อประกอบกับการที่ทางการลาวเองก็ได้เจรจากับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องอย่าง ไม่หยุดหย่อนรวมถึงการเจรจากับ ทักษิณ เพื่อให้ส่งสาส์นมาที่รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ด้วยนั้นก็ทำให้ทางการลาวมีความเชื่อมั่นว่ารถไฟความเร็วสูงขบวนแรกของอาเซียนจะเกิดขึ้นในลาวอย่างแน่นอน

ส่วน ทางการจีนนั้นก็มองเห็นอย่างชัดเจนอยู่แล้วว่าการลงทุนสร้างทางรถไฟความเร็ว สูงเพื่อเชื่อมต่อกับลาวและไทยดังกล่าวนี้ก็ย่อมจะทำให้จีนมีแต่ได้กับได้ โดยไม่ว่าจะเป็นการได้รับสิทธิในการบริหารและจัดการที่ดินตลอดสองฝั่งของทาง รถไฟในลาวเป็นเวลาถึง 99 ปีติดต่อกัน การขนส่งสินค้าจากจีนลงมาที่ลาว-ไทยและอาเซียน การขนส่งวัตถุดิบจากลาวและไทยไปตอบสนองโรงงานอุตสาหกรรมในจีน และการเชื่อมต่อการท่องเที่ยวในลุ่มน้ำโขงก็ตาม

ยิ่งไปกว่านั้น ก็ยังจะมีของแถมอีกอย่างหนึ่งที่จีนจะได้รับจากนโยบายของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ น้อง ทักษิณ ซึ่งก็คือทางรถไฟความเร็วสูงอีกเส้นทางหนึ่งที่เชื่อมต่อจากคุนหมิง-สิบสองปันนามาที่ด่านบ่อเต็นและคู่ขนานมาตามถนนเลข 3 ในแขวงหลวงน้ำทา-บ่อแก้วแล้วข้ามน้ำโขงมาที่เชียงของในจังหวัดเชียงราย ก่อนที่จะมาเชื่อมต่อกับเส้นทางเชียงใหม่-กรุงเทพฯ ซึ่งอยู่ในแผนของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ของ ทักษิณ อยู่แล้วนั่นเอง!!!