ผีผวา น้องหนูยึดสุสานบริการโต้รุ่ง
. "ไม่ต้องกลัวหรอก ไม่มีอะไร" หญิงสาวอีกคนหนึ่งบอกเรื่องนี้ในวันต่อมา เธอบอกว่าใช้สุสานแห่งนี้ ทำธุรกิจมานานกว่า 1 ปีแล้ว ซึ่งนักข่าวรายนี้กล่าวว่าเป็นเรื่องเหลือเชื่อ ทำให้ตัดสินใจขออำลาและบอกกับเธอว่า ขอเป็นวันหลังจะไปแวะใหม่ วันนี้ตกใจมากที่ได้ยินเรื่องนี้ อยากจะขอกลับไปตั้งหลัก การใช้สุสานแทนห้องเช่าชั่วคราวเป็นที่นิยมอย่างสูงสำหรับหนุ่มๆ ที่ไปแสวงหาความสุขปนความระทึก "พวกเขาไปที่นั่นด้วยมอเตอร์ไซค์ ตกลงกันง่ายๆ ปูผ้าผืนเดียว บริการกันง่ายๆ อุปกรณ์สำคัญก็มีเพียงถุงยางอนามัยเท่านั้น" เว็บไซต์ "ข่าวการศึกษาเวียดนาม" รายงาน รายงานประกอบภาพชิ้นนี้กำลังเป็นที่โจษจันกันในหมู่ประชาคมออนไลน์ หลายคนยังไม่เชื่ออยู่ดี และขอให้ใครก็ตามที่อยู่ในโฮจิมินห์หรืออยู่ใกล้สุสานในข่าวไปพิสูจน์ความ จริงอีกสักครั้ง บางคนกล่าวว่าการยึดสุสานค้าประเวณีและยังมีคนไปใช้บริการนั้นถือว่า สังคมล้มป่วยและพรรคคอมมิวนิสต์กับรัฐบาลล้มเหลวในการปราบปรามสิ่งที่ถือ เป็นหนึ่งในสาม "ความชั่วร้ายทางสังคม" ร่วมกับ ยาเสพติดกับการคอร์รัปชั่น บางคนบอกว่า นี่เป็นผลจากการปราบปรามการค้าประเวณีแบบไร้ทิศไร้ทาง จนพวกเธอไม่มี "แหล่งทำกินปรกติ" เหลือให้เลือก.
. ASTVผู้จัดการออนไลน์ – สังคมออนไลน์ช็อกด้วยหลักฐานภาพถ่าย หญิงขายบริการในท้องที่อำเภอหนึ่งของนครโฮจิมินห์ยึดสุสานเป็นแหล่งประกอบ การด้วยราคาย่อมเยา ทำกันเป็นล่ำเป็นสันมาแรมปี ตำรวจท้องที่ไม่รู้ไม่เห็น นักข่าวหัวเห็ดของเว็บไซต์ก๋าวดึกเหวียดนาม (Báo Giáo dục Việt Nam) หรือ "ข่าวการศึกษาเวียดนาม" บุกพิสูจน์ถึงที่ ผู้สื่อข่าวกล่าวว่า ความจริงตนได้รับมอบหมายไปทำรายงานเกี่ยวกับเขตอุตสาหกรรมบี่งเติน (Bình Tân) ในท้องที่อำเภอชื่อเดียวกัน แต่บังเอิญไปได้ยินคนงานคุยกันอย่างสนุกสนานเกี่ยวกับ “ไก่เล็บแดง” ที่สุสานบี่งฮึงหว่า (Bình Hưng Hòa) ซึ่งเป็นเรื่องเหลือเชื่อ "อย่าเชื่อผมจนกว่าจะไปเห็นด้วยตา สาวๆ พวกนี้ไม่ค่อยสวยหรอก แต่ก็มีอะไรพิเศษ ตื่นเต้นดี ไม่เหมือนที่อื่น" คนงานรายหนึ่งบอกกับนักข่าวซึ่งทำให้เจ้าตัวเปลี่ยนแผน ทิ้งรายงานเกี่ยวกับการอุตสาหกรรมของประเทศ เจ้าตัวกล่าวว่า เคยเห็นแต่สาวๆ ยึดใต้สะพานสักแห่งหรือสวนสาธารณะสักที่หนึ่งเป็น "ตลาด" แต่ไม่เคยคิดว่าจะมีตลาดสยองขวัญแบบนี้ หญิงสาวกลุ่มนี้ขายบริการต่อหน้าคนตายหลายร้อยคนในหลุม ซึ่งค่านิยมของชาวเวียดนามนั้นสุสานเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยามค่ำคืน ไม่ควรจะย่างเข้าไปใกล้ เพราะถือเป็นการรบกวนคนตาย หลายคนไม่เฉียดเข้าไปเพราะกลัวผี แต่สาวๆ เหล่านี้ไม่กลัว และก็ยังมีลูกค้ากลุ่มที่ชอบผจญภัยไปใช้บริการอยู่เสมอๆ ค่ำวันหนึ่งในต้นเดือน พ.ค. นักข่าวหัวเห็ดไปที่นั่น และ ได้พบว่าสิ่งที่คนงานพูดคุยกันนั้น "เป็นความจริง" หญิงสาวหลายสิบคน ยืนอยู่ใต้แสงไฟสลัวๆ ที่ประตูทางเข้าสุสาน อีกกว่า 10 คนจับกลุ่มกันอยู่ห่างกันออกไปเล็กน้อย บ้างก็นั่ง บ้างก็ยืน อีกกลุ่มหนึ่งทำท่าบังๆ อยู่บนถนนเตินกี่เตินกวี๊ (Tân Kỳ Tân Qúy) ที่ตัดผ่านหน้าสุสาน แต่ก็มีสิ่งหนึ่งที่คนงานพูดไม่จริง หญิงสาวหลายคนหน้าตาดีทีเดียว แต่งเนื้อแต่งตัวเข้าท่า สวมกางเกงขาสั้นจู๋ จนสั้นกว่านี้ไม่ได้อีกแล้ว พวกเธอแต่งหน้าพอประมาณ แต่ปะน้ำหอมราคาถูกกลิ่นฉุน เกือบทุกคนถือหมวกกันน็อก พร้อมจะเตร่เข้าไปเสนอตัวกับหนุ่มๆ ที่นั่งมอเตอร์ไซค์แวะเวียนไปจอดที่นั่น .
. นักข่าวรายนี้แวะไปที่สุสานบี่งฮึงหว่าทุกวันเป็นเวลากว่า 1 สัปดาห์ และได้เห็นกิจกรรมอันคึกคักนี้ทุกค่ำคืน ไม่เว้นวันหยุด สาวๆ เริม “เปิดตลาด” ตั้งแต่ 6 โมงเย็นเป็นต้นไป และคืนหนึ่งเขาเตร่ไปที่นั่นตอนตี 4 ก็ยังมีหลายคนที่บริเวณประตูทางเข้าสุสาน ในที่สุดจึงตัดสินใจปลอมตัวเป็นลูกค้าปรี่เข้าไปหาข้อมูลประกอบรายงานข่าว และได้ทราบข้อเท็จจริงที่น่าทึ่งจากปากของพวกเธอเอง "ไม่ต้องไปไกลหรอก พวกหนูคิดเท่าๆ กันหมด ไม่แพง" สาววัยยี่สิบเศษๆ รายหนึ่งปรี่เข้าไปเสนอตัว "รวมแล้วเท่าไร?" นักข่าวยิงคำถามสุดยอด หญิงสาวถือวิสาสะเปิดประตูเข้าไปนั่งด้านหน้าข้างคนขับก่อนจะให้ข้อมูลว่า "ชั่วคราว 1 ค้างคืน 3" ซึ่งหมายถึง 100,000 กับ 300,000 ด่ง (5 และ 15 ดอลลาร์) ไม่รวมค่าใช้จ่ายอื่นๆ หมายความว่าลูกค้าเป็นคนจ่ายค่าห้องพักและค่าเดินทางต่างๆ ทั้งหมด หญิงสาวกล่าวว่าไม่ไกลออกไปมีห้องเช่าประเภทชั่วคราวอยู่มากมาย ด้วยค่าบริการตั้งแต่ 200,000-500,000 ด่ง สำหรับชั่วคราวและค้างคืน การสัมภาษณ์ทำให้ทราบอีกว่า พวกเธอยังมีบริการพิเศษสุดคือ ใช้มุมมืดของสุสานเป็นทางเลือกแทนห้องเช่า เพื่อช่วยลูกค้าประหยัด บริการแบบประตูเดียวครบวงจรเร็วจี๋ ด้วยราคาลดกว่า 50% นี้ ทำให้ลูกค้าจ่ายเพียง 30,000 ดง (ราว 1.5 ดอลลาร์)