พม่าสั่งเสริมกำลังเจ้าหน้าที่ ที่รัฐยะไข่ หลังเกิดเหตุจลาจลชาวพม่ามุสลิมเผาเมือง บ้านเรือนร้านค้าถูกเผาวอดกว่า 500 หลัง คาดเป็นการแก้แค้นชาวมุสลิมถูกชาวพม่าพุธฆ่าหมู่ 10 ศพเมื่อวันที่ 3 มิ.ย.
วันนี้ (9 มิ.ย.) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ทางการพม่าได้ส่งกองกำลังเสริมทั้งทหารและตำรวจ ไปยังรัฐยะไข่ ทางตะวันตกของประเทศ หลังเกิดเหตุชาวพม่ามุสลิมก่อการจลาจลในเมืองหม่องดอว์ และเมืองบูธิด่อง ตั้งแต่เมื่อวานนี้ โดยเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นรายหนึ่ง เปิดเผยว่า กลุ่มผู้ก่อจลาจลราว 1,000 คน ได้ทุบทำลายและเผาบ้านเรือนประชาชนไปแล้ว 494 หลัง ร้านค้า 19 ร้าน และชาวพม่าพุทธถูกสังหารเมื่อวันศุกร์อย่างน้อย 7 ศพ บาดเจ็บอีก 17 ราย
สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ชาวพม่าพุทธในหมู่บ้านหลายสิบแห่ง อพยพครอบครัวหนีไปยังเมืองอื่นเพื่อความปลอดภัย เจ้าหน้าที่เชื่อว่าผู้ก่อการจลาจลครั้งนี้ต้องการแก้แค้น กรณีที่ชาวมุสลิมถูกชาวพุทธรุมประชาทัณฑ์เสียชีวิต 10 ศพ บนรถบัสโดยสาร เมื่อวันที่ 3 มิ.ย.ที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังมีเด็กสาวชาวพม่าพุทธถูกฆ่าข่มขืนอีกด้วย
ขณะที่รายงานของหนังสือพิมพ์เมียนมาร์ อาห์ลิน ฉบับวันนี้ ระบุว่า กลุ่มผู้ก่อการร้าย ประมาณ 1,000 คน อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์จลาจลในเมืองหม่องดอว์ และเมืองบูธิด่อง เมื่อวันศุกร์ และวันเสาร์ โดยมีอาคารบ้านเรือนที่ถูกเผา รวมถึงโรงพยาบาลกลางหม่องดอว์ ด้วย
ทั้งนี้ รัฐยะไข่มีเขตแดนติดกับประเทศบังกลาเทศ มีประชากร 3.8 ล้านคน ในจำนวนนี้รวมถึงชาวมุสลิมโรฮิงยาจากบังกลาเทศ ประมาณ 723,000 คน ซึ่งกลุ่มคนเหล่านี้รัฐบาลพม่าไม่ยอมรับว่าเป็นพลเมืองของตน ทำให้เกิดความขัดแย้งของกลุ่มคนต่างศาสนาในรัฐยะไข่อย่างหนัก.