ผ่านไป 23 ปี เวียดนามขนศพทหารจากกัมพูชาเกือบ 15,000
. ASTVผู้จัดการออนไลน์ -- สงครามและการยึดครองกัมพูชาสิ้นสุดลงตั้งแต่ 23 ปีก่อน แต่การค้นหาทหารเวียดนามที่เสียชีวิตหรือสูญหายในประเทศนี้ยังดำเนินต่อไป และยากลำบากยิ่งขึ้น แต่ที่ผ่านมาได้พบและนำ "วีรชน" เหล่านี้กลับบ้านเกิดแล้วเกือบ 15,000 ศพ สองฝ่ายตั้งเป้าจะค้นหาอีกราว 800 ศพในฤดูแล้งปี 2555-2556 นี้ ได้มีการพูดถึงตัวเลขเหล่านี้ระหว่างการเยือนกัมพูชาของ นายพลโออาวุโสเหวียนแถ่งกุง (Nguyễn Thành Cung) รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมเวียดนาม และมีการเจรจาเรื่องนี้ในกรุงพนมเปญ ในวันอังคาร 12 มิ.ย.ที่ผ่านมา พล.ท.กุงซึ่งเป็นกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามและหัวหน้าคณะ กรรมการแห่งชาติเพื่อการค้นหาและนำทหารเวียดนามกลับบ้าน กำลังตระเวนเยือนสองประเทศเพื่อนบ้านลาวและกัมพูชาเพื่อภารกิจการค้นหาฯทหาร อีกนับหมื่น ที่ยังไม่ได้กลับจากสองประเทศนี้ตั้งแต่ครั้งสงคราม พล.ท.กุงได้นำคณะพบเจรจากับฝ่ายกัมพูชานำโดย พล.อ.พล สะเรือน (Pol Sareuon) ผู้บัญชาการกองทัพกัมพูชา ซึ่งเป็นหัวหน้าคณะกรรมการระดับชาติในการร่วมมือค้นหาทหารเวียดนาม หนังสือพิมพ์กวนโด่ยเญินซเวิน (Quân đội Nhân dân) หรือ "กองทัพประชาชน" ที่ตีพิมพ์เผยแพร่โดยกระทรวงกลาโหมเวียดนาม รายงานในเว็บไซต์ภาษาเวียดนามวันเดียวกัน "ด้วยการสนับสนุนของรัฐบาลเวียดนาม รัฐบาลและประชาชนกัมพูชา ในช่วงฤดูแล้ง 2554-2555 ที่ผ่านมา สองฝ่ายได้ร่วมมือกันค้นหาและสามารถส่ง (อัฐิ) ทหารอาสาสมัครและผู้เชี่ยวชาญเวียดนามกลับประเทศได้ทั้งหมด 585 ราย ทำให้จำนวนทหารอาสาและผู้เชี่ยวชาญเวียดนามที่เสียสละชีพในกัมพูชาที่ได้ส่ง มอบ เพิ่มขึ้นเป็นเกือบ 15,000 ราย" หนังสือพิมพ์ซึ่งเป็นปากและเสียงของกองทัพปกระชาชนเวียดนาม รายอ้างคำพูดของ พล.อ.พล สะเรือน สื่อของกองทัพฉบับนี้ยังรายงานด้วยว่า ในฤดูแล้ง 2554-2555 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่เวียดนามจำนวน 11 หน่วยได้ออกปฏิบัติงานค้นหาในหลายจังหวัดของกัมพูชา และ ผบ.กองทัพกัมพูชาได้เสนอให้เพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานและขยายหน่วย ปฏิบัติการให้ครอบคลุมพื้นที่ได้มากยิ่งขึ้น ในขณะที่เวลายิ่งผ่านไปเนิ่นนาน การค้นหาอัฐิและซากเศษเหลือของวีรชนเหล่านั้น ก็ยิ่งลำบากมากขึ้น ภายหลังการพบเจรจาในวันอังคาร ดังกล่าวสองฝ่ายได้เซ็นบันทึกช่วยความจำฉบับหนึ่ง เพื่อร่วมกันค้นหาและนำทหารเวียดนามอีกราว 800 คน กลับประเทศในช่วงฤดูแล้ง 2555-2556 นี้ กวนโด่ยเญินซเวิน กล่าว .