ລາວໂຮມລາວ ເພື່ອປະຊາທິປະໄຕ

ສປປລາວ ຍັງອີກດົນປານໃດ ຈະແກ້ໄຂກົດໝາຍພະເດັດການ

พม่าจะอภิปรายแก้กฎหมายสมัยเผด็จการทหาร

สมาชิก รัฐสภาพม่าเข้าร่วมการเปิดสมัยประชุมสภาผู้แทนราษฎร ในกรุงเนปีดอ เมื่อวันที่ 4 ก.ค. ประธานสภาผู้แทนราษฎระบุยืนยันว่าสภาจะพิจารณาแก้ไขกฎหมาย 2 ข้อที่ใช้ปราบปรามผู้ไม่เห็นพ้องกับรัฐในสมัยอดีตรัฐบาลเผด็จการทหาร. -- AFP PHOTO/Soe Than Win.

       
เอเอฟพี - รัฐสภาพม่าเห็นชอบวันนี้ (17 ก.ค.) ที่จะอภิปรายแก้ไขกฎหมาย 2 ข้อ ที่ถูกใช้อย่างกว้างขวางในการปราบปรามผู้ไม่เห็นพ้องกับรัฐในสมัยอดีตรัฐบาล เผด็จการทหาร
       
       นายฉ่วย มาน ประธานสภาผู้แทนราษฎร ยืนยันว่ากฎหมายว่าด้วยข้อกำหนดฉุกเฉินและกฎหมายว่าด้วยสมาคมผิดกฎหมาย จะถูกพิจารณาเพื่อแก้ไข หลังสมาชิกสภายกประเด็นดังกล่าวขึ้นหารือในสภา
       
       นักรณรงค์สนับสนุนประชาธิปไตยได้กล่าวว่ากฎหมาย 2 ข้อนี้มักถูกนำมาใช้อยู่เป็นประจำเพื่อควบคุมผู้ไม่เห็นด้วยและกบฎชนกลุ่ม น้อย
       
       แม้จะยังไม่ชัดเจนว่ามีเสียงสนับสนุนมากเท่าใดในสภาต่อการเปลี่ยน แปลงข้อกฎหมายนี้ แต่การอภิปรายข้อกฎหมายนี้เป็นสัญญาณล่าสุดของการปฏิรูปในพม่าที่มุ่งไปสู่ ประชาธิปไตย
       
       กฎหมายว่าด้วยสมาคมในหลากหลายแขนงถูกใช้เพื่อลงโทษผู้ไม่เห็นด้วยกับ รัฐที่สื่อสารกับกลุ่มองค์กรลี้ภัยและกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ ของประเทศ ซึ่งทั้งสองกลุ่มนี้ถูกระบุว่า "ไม่ชอบด้วยกฎหมาย" ในช่วงที่ประเทศอยู่ภายใต้การปกครองของกองทัพทหาร
       
       เมื่อไม่นานที่ผ่านมา กลุ่มกบฎจำนวนหนึ่งได้ลงนามข้อตกลงหยุดยิงกับรัฐบาล พร้อมกระตุ้นให้สมาชิกสภาผลักดันการแก้ไขโดยกล่าวว่ากฎหมายว่าด้วยสมาคมเป็น อันตรายต่อความคืบหน้าไปสู่สันติภาพ
       
       "กฎหมายนี้เป็นอุปสรรคในกระบวนการเจรจาสันติภาพ ผู้คนจำนวนมากถูกควบคุมตัวภายใต้กฎหมายข้อนี้จากการส่งอาหาร น้ำ หรือพบปะกับญาติพี่น้องของพวกเขา" เต็ง ยุ้นต์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากพรรคประชาธิปไตยแห่งชาติใหม่ กล่าว พร้อมเพิ่มเติมว่า กฎหมายนี้เป็นสิ่งที่ตกค้างอยู่จากสมัยอาณานิคมอังกฤษซึ่งสิ้นสุดมานานกว่า 6 ทศวรรษแล้ว
       
       นาน วา นู สมาชิกสภาจากพรรคประชาธิปไตยชนชาติชาน (SNDP) ที่เป็นผู้แทนจากชนกลุ่มน้อยชาวชานในภาคตะวันออกของพม่า กล่าวสนับสนุนว่า ชาวบ้านส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบจากข้อกฎหมายนี้มากกว่ากลุ่มก่อความไม่สงบ
       
       อย่างไรก็ตาม กอ ซาน มี้นต์ รัฐมนตรีช่วยกระทรวงกิจการภายใน กล่าวว่า บางส่วนของกฎหมายยังคงสอดคล้องกับสถานการณ์ (ความไม่สงบทางชาติพันธุ์) และยังไม่ควรนำขึ้นหารือเพื่อยกเลิก
       
       ประธานาธิบดีเต็งเส่งได้ดำเนินการปฏิรูปการเมืองหลากหลายประการใน ช่วงปีที่ผ่านมา รวมทั้งการปล่อยตัวนักโทษการเมืองหลายร้อยคนและการเลือกตั้งซ่อมที่ทำให้นาง อองซานซูจีได้เข้านั่งในสภา ที่ทำให้พม่าได้รับการผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตรจากนานาประเทศ
       
       รัฐสภาที่ยังคงถูกครอบงำโดยกองทัพและพันธมิตรทางการเมืองของทหารมี วาระเร่งด่วนที่ต้องอภิปรายเป็นจำนวนมาก ทั้งการปฏิรูปเศรษฐกิจและความรุนแรงระหว่างชุมชนในพื้นที่ภาคตะวันตกของ ประเทศ.