ລາວໂຮມລາວ ເພື່ອປະຊາທິປະໄຕ

Members Login
Username 
 
Password 
    Remember Me  
Post Info TOPIC: ລັດຖະມົນຕຣີ ສປປລາວ, ທ່ານ ສຸບັນ ສະຣິດທິລາດ ສິ້ນລົມຫາຍໃຈ
Anonymous

Date:
ລັດຖະມົນຕຣີ ສປປລາວ, ທ່ານ ສຸບັນ ສະຣິດທິລາດ ສິ້ນລົມຫາຍໃຈ
Permalink   
 


รัฐมนตรี สปปลาว “สุบัน สะลิดทะลาด” สิ้นลม

555000009330101.JPEG

       นายสุบันอายุ 76 ปี ถึงแก่กรรมในตอนสายวันเดียวกันด้วยโรคประจำตัว พรรคและรัฐได้ประกาศจัดตั้งคณะกรรมการเพื่อจัดพิธีศพ โดยนางอ่อนจัน ทำมะวง รัฐมนตรีกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม เป็นประธาน มีรัฐมนตรีและกรรมการศูนย์กลางพรรค ร่วมเป็นกรรมอีกหลายคน รวมทั้งสมาชิกครอบครับสลิดทะลาดด้วย หนังสือพิมพ์ “ประชาชน” ของพรรคประชาชนปฏิวัติลาวรายงาน


555000009330104.JPEG

รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ลาว สุบัน สะลิดทิลาด กับผู้แทนพิเศษด้านการปราบปรามยาเสพติดและอาชญากรรมขององค์การสหประชาชาติ ร่วมการประชุมด้านยาเสพติดในอนุภูมิภาคแม่น้ำโขงในกรุงฮานอย เวียดนาม วันที่ 25 ก.ย.2546 หรือ 10 ปีที่แล้ว นายสุบันถึงแก่กรรมในวันอังคาร 17 ก.ค.ที่ผ่านมารวมอายุ 76 ปี พิธีฌาปนกิจมีกำหนดขึ้นวันศุกร์ 20 ก.ค.นี้ที่วัดเทพนิมิต นครเวียงจันทน์-- ภาพ: AFP PHOTO/Hoang Dinh Nam.       
       พิธีฌาปนกิจมีกำหนดขึ้นในบ่ายวันศุกร์ 20 ก.ค.นี้ ที่วัดเทพนิมิต (วัดทาดฝุ่น หรือ “วัดเจดีย์ฝุ่น”) นครเวียงจันทน์
       
       นายสุบันเป็นกรรมการศูนย์กลางพรรค 2 สมัย คือชุดที่ 7 และ 8 ก่อนจะเกษียนตัวเองออกไปในชุดที่ 9 ปัจจุบัน พร้อมกับตำแหน่งรัฐมนตรีประจำสำนักประธานประเทศ ทั้งนี้เนื่องจากปัญหาด้านสุขภาพ แต่ยังคงทำหน้าที่ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดแห่งชาติต่อมา
       
       ก่อนหน้านั้นเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศมายาวนาน เป็นหัวหน้าทีมเจรจาแก้ไขปัญหาพิพาทเขตแดนทางบกบ้านใหม่ บ้านกลางและบ้านสว่าง ด้าน จ.อุตรดิตถ์-แชวงไซยะบูลี ที่ประทุขึ้นมาในช่วงปี 2526 นำไปสู่การปะทะด้วยอาวุธครั้งรุนแรงระหว่างสองฝ่าย
       
       ความบาดหมางยังไม่ได้รับการแก้ไข ไทยกับลาวได้ดำดิ่งเข้าสู่การขัดแย้งกับการปะทะครั้งใหม่เหนือพื้นที่ราว 5 ตารางกิโลเมตรที่ชายแดนบ้านร่มเกล่า จ.พิษณุโลก-แขวงไซยะบูลี
       
       นายสุบันเป็นนำทีมเจรจากับฝ่ายไทยหลายครั้งทั้งในเวียงจันทน์และใน กรุงเทพฯ ก่อนสองฝ่ายได้ตกลงยุติการใช้อาวุธและหันมาแก้ปัญหาอย่างสันติด้วยข้อเท็จ จริง
       
       ไทยและลาวได้ส่งคณะทำงานหลายชุดลงพื้นที่จริงเพื่อสำรวจเขตแดน ธรรมชาติ ซึ่งรวมทั้งแนวสันปันน้ำในกรณี 3 หมู่บ้าน และ ทางไหลของลำน้ำเหืองที่ใช้เป็นพรมแดนธรรมชาติในกรณีบ้านร่วมเกล้า ตามสนธิสัญญาฝรั่งเศส-สยาม ค.ศ.1907 และ 1909


555000009330102.JPEG       .



__________________
Anonymous

Date:
RE: ລັດຖະມົນຕຣີ ສປປລາວ, ທ່ານ ສຸບັນ ສະລິດທະລາດ ສິ້ນລົມຫາຍໃຈ
Permalink   
 


​ທ່ານ ສຸ­ບັນ ສະ​ລິດ​ທິ​ລາດ ລັດ­ຖະ­ມົນ­ຕີ​ປະ­ຈຳ​ສຳ­ນັກ­ງານ​ນາ­ຍົກ­ລັດ­ຖະ­ມົນ­ຕີ ປະ­ທານ​ຄະ­ນະ​ກຳ­ມະ­ການ​ແຫ່ງ​ຊາດ​ເພື່ອ​ກວດ­ກາ ແລະ ຄວບ​ຄຸມ​ຢາ​ເສບ​ຕິດ

555000009330104.JPEG



__________________
Anonymous

Date:
สมรภูมิรบบ้านร่มเกล้า
Permalink   
 


สมรภูมิรบบ้านร่มเกล้า

tl-hill-1428.jpg

               แม้ว่าการสู้รบอย่างดุเดือดระหว่างกองทัพไทยกับกองทัพประชาชนลาวเพื่อแย่งชิงพื้นที่พิพาทในเขตบ้านร่มเกล้า ในช่วงเดือนธันวาคม 1987 จนถึงวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 1988 จะได้สิ้นสุดลงไปด้วยการทำข้อตกลงหยุดยิงระหว่างกองทัพของทั้งสอง ประเทศนับเป็นเวลาถึง 20 ปี แล้วก็ตาม แต่จนถึงทุกวันนี้ทางการไทยและลาวนั้นก็ยังคงไม่สามารถที่จะทำการตกลงเพื่อ ปักปันเขตแดนในพื้นที่พิพาทดังกล่าวระหว่างกันได้เลย

                ทั้งนี้ก็เนื่องจากว่าเหตุผลและเอกสารต่างๆที่ทางการของทั้ง 2 ฝ่าย ได้หยิบยกขึ้นมาอ้างสิทธิของฝ่ายตนที่มีอยู่เหนือพื้นที่พิพาทดังกล่าวนับ ตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้มีโอกาสนั่งโต๊ะเจรจากันเรื่อยมาจนถึงทุกวันนี้นั้นก็ ยังคงเป็นเหตุผลและเอกสารต่างๆชุดเดียวกันที่มีความแตกต่างและขัดแย้งกัน อย่างสิ้นเชิงนั่นเอง

                กล่าว คือทางการไทยได้อ้างว่าพื้นที่พิพาทที่เรียกว่าบ้านร่มเกล้านั้น ตั้งอยู่ในเขตอำเภอชาติตระการ จังหวัดพิษณุโลก ซึ่งอยู่ห่างจากชายแดนระหว่างไทยกับลาวคิดเป็นระยะทางประมาณ 10 กิโลเมตร และอยู่ห่างจากตัวอำเภอชาติตระการไปทางทิศตะวัน ออกเฉียงเหนือประมาณ 70 กิโลเมตร

                โดยในช่วงปี 1968-1982 นั้น พื้นที่ดังกล่าวนี้ถือเป็นเขตที่มีการเคลื่อนไหวของผู้ ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์อยู่อย่างหนาแน่นมาก ซึ่งทางการไทยก็ได้จัดส่งกำลังทหารเข้าไปปฏิบัติการในพื้นที่และได้มีการ ตั้งฐานปฏิบัติการขึ้นหลายแห่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่บ้านร่มเกล้า ซึ่งในช่วงเวลานั้นก็ไม่มีการทักท้วงหรือปะทะกับกองกำลังฝ่ายลาวเกิดขึ้นแต่ อย่างใดเลย

                ครั้นภายหลังจากปี 1982 โดยกองทัพภาคที่ 3 ของ ไทยได้ทำการพัฒนาหมู่บ้านต่างๆในเขตดังกล่าวอันรวมถึงบ้านร่มเกล้าด้วย ทั้งยังได้จัดให้ราษฎรซึ่งเป็นชาวเขาเผ่า ม้ง รวมถึงผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ที่เข้ามอบตัวเป็นผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย เพื่อให้อาศัย อยู่ที่บ้านร่มเกล้าในฐานะที่เป็นหมู่บ้านป้องกันตนเองตามแนวชายแดนอีกด้วย

                แต่ อย่างไรก็ตาม ทางการฝ่ายลาวก็ได้ตอบโต้โดยอ้างว่าพื้นที่ในบริเวณดังกล่าวนี้ตั้งอยู่ใน เขตปกครองของตาแสง(ตำบล)นาบ่อน้อย เมือง(อำเภอ)บ่อแตน แขวง(จังหวัด) ไซยะบุลีของลาว และทหารลาวได้เข้าไปยึดครองตั้งแต่เดือนมิถุนายน 1987 โดยเฉพาะอย่างยิ่งการยึดเอาเนิน 1428, 1370, 1148 ฯลฯ ที่ตั้งอยู่ในเขตติดต่อระหว่างภูสอยดาว ภูเมี่ยง และ ภูขัดในฝั่งลาว

                แน่นอนว่าการโต้แย้งดังกล่าวนี้ ทางการของทั้ง 2 ฝ่ายต่างก็ยืนยันว่าเป็นไปตามสนธิสัญญาระหว่างสยามกับฝรั่งเศส ฉบับปี 1907 และ ข้อสัญญาว่าด้วยการปักปันเขตแดนต่อท้ายสนธิสัญญาฯฉบับดังกล่าวแต่ปัญหาก็ อยู่ที่ว่าการตีความตามสนธิสัญญาฯของแต่ละฝ่ายนั้นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการตีความในข้อ 2 ในข้อ สัญญาว่าด้วยปักปันเขตแดนฯ ที่มีความว่า

                ...เขต แดนเมืองหลวงพระบางนั้นตั้งแต่ทิศใต้ในแม่น้ำโขงที่ปากแม่น้ำเหืองแล้วต่อไป ตามกลางลำน้ำเหืองนี้จนถึงที่แรกเกิดน้ำนี้ที่เรียกชื่อว่าภูเขาเมี่ยง ต่อนี้เขตแดนไปตามเขาปันน้ำตกแม่น้ำโขงฝ่ายหนึ่งกับตกแม่น้ำเจ้าพระยาอีก ฝ่ายหนึ่ง จนถึงที่ในลำแม่ น้ำโขงที่เรียกว่าแก่งผาได ตามเส้นพรมแดนที่กรรมการปักปันเขตแดน ได้ตกลงกันไว้แต่ วันที่ 16 มกราคม 1906...

                ทั้ง นี้โดยทางการฝ่ายลาวได้ตีความว่าเส้นเขตแดนตรงพื้นที่พิพาทนั้นเริ่มจากแม่ น้ำเหืองไปยังแม่น้ำเหืองป่าหมันแล้วขึ้นไปตามลำน้ำนี้จนถึงบริเวณที่เรียก ว่าภูสอยดาว ในขณะที่ทางการฝ่ายไทยก็ได้โต้แย้งว่าเส้นเขตแดนที่เป็นจริงนั้นเริ่มจากแม่ น้ำเหืองไปยังแม่น้ำเหืองง่า (ลาวเรียกว่าแม่น้ำเหืองน้อย) แล้วไปตามลำน้ำสายนี้จนถึงภูเขาเมี่ยง

                ซึ่ง ก็ทำให้ทางการฝ่ายลาวโต้แย้งว่าแม่น้ำเหืองง่านั้น (ไหลลึกเข้าไปในเขตลาว) เป็นสาขาของแม่น้ำเหืองเท่านั้น หากแต่แม่น้ำสายเดียวกันกับแม่น้ำเหืองตั้งแต่ในอดีตกาลมาแล้วนั้นคือแม่น้ำ เหืองป่าหมัน (ไหลลึกเข้ามาในเขตไทย)

                เพราะ ฉะนั้น จึงจะเห็นได้ว่าประเด็นที่เป็นปัญหาขัดแย้งกันระหว่างทางการฝ่ายไทยกับลาวใน การตีความดังกล่าวก็คือการยึดถือตามแม่น้ำเหืองง่ากับแม่น้ำเหืองป่าหมัน (ซึ่งไม่ปรากฏอยู่ในข้อสัญญาฯ) ว่าเป็นสายน้ำเดียวกันกับแม่น้ำเหืองนั่นเอง

                ยิ่งไปกว่านั้น ทางการของทั้ง 2 ฝ่ายยังขัดแย้งกันในส่วนที่เกี่ยวกับการอ้างแผนที่ที่จะใช้บังคับกับกรณีดังกล่าวนี้อีกด้วย โดยฝ่ายไทยได้ยึดถือตามแผนที่ 3 ฉบับ ซึ่งก็คือแผนที่ประกอบสนธิสัญญาสยาม-ฝรั่งเศสฉบับปี 1907, แผนที่ภาพถ่ายทางอากาศชุดที่ L7017 ซึ่งสหรัฐฯจัดทำขึ้น และแผนที่ที่อดีตสหภาพโซเวียตจัดทำให้กับลาวในปี 1987

                แน่นอนว่าทางการฝ่ายลาวย่อมไม่เห็นด้วยกับทางการฝ่ายไทย หากแต่ได้แสดงจุดยืนที่จะยึดถือตามแผนที่ประกอบสนธิสัญญาสยาม-ฝรั่งเศสฉบับปี 1907 เท่านั้น ซึ่งทางการฝ่ายไทยก็มองว่าเป็นแผนที่ที่ล้าสมัยและไม่สามารถที่จะระบุพิกัดในเขตพิพาทได้อย่างชัดเจนเลย

                ด้วยเหตุนี้ถึงแม้ว่าทางการไทยกับลาวจะได้นั่งโต๊ะเจรจากันเพื่อตกลงปักปันเขตแดนระหว่าง 2 ประเทศตั้งแต่ปี 1996 เป็นต้นมาแล้วก็ตาม หากแต่ก็ไม่สามารถที่จะตกลงกันในส่วนที่เกี่ยวกับบ้านร่มเกล้าแห่งนี้ได้เลย

                อย่างไรก็ตาม การเจรจาระหว่างทางการไทย-ลาว หรือภายใต้คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมฯ นับตั้งแต่ปี 1996 เป็นต้นมาจนถึงทุกวันนี้ก็สามารถตกลงปักปันเขตแดนทางบกระหว่างกันได้เป็นส่วนใหญ่แล้ว

                กล่าวคือในเขตชายแดนทางบกระหว่างไทย-ลาวที่มีระยะทางยาวประมาณ 702 กิโลเมตรนั้นทั้ง 2 ฝ่ายสามารถตกลงปักปันเขตแดนระหว่างกันได้แล้วถึง 676 กิโลเมตรและได้ตั้งหลักหมายเขตแดนระหว่างกันแล้ว 190 หลัก

                แต่ในส่วนเขตแดนที่ยังคงไม่สามารถตกลงกันได้คิดเป็นระยะทางยาวประมาณ 26 กิโลเมตรนั้นต่างก็เป็นพื้นที่ที่เป็นปัญหาอย่างเดียวกันกับที่บ้านร่มเกล้าทั้งสิ้น ซึ่งในที่นี้รวมถึงพื้นที่ในเขต 3 หมู่บ้าน กล่าวคือบ้านใหม่, บ้านกลาง และ บ้านสว่างที่อยู่ในพื้นที่แนวชายแดนระหว่างจังหวัดอุตรดิตถ์กับแขวงไซยะบุลี ซึ่งไทยกับลาวก็เคยพิพาทกันจนถึงขั้นต้องทำสงครามกันในช่วงปี 1984 มาแล้วด้วย

                ยิ่งไปกว่านั้น จะต้องไม่ลืมว่าไทยกับลาวยังมีเขตแดนทางน้ำระหว่างกันที่มีระยะทางยาวประมาณ 1,108 กิโลเมตร ซึ่งจนถึงทุกวันนี้ก็ยังคงไม่ได้เริ่มทำการสำรวจเพื่อทำการตกลงปักปันเขตแดนทางน้ำระหว่างกันแต่อย่างใด

                ทั้งนี้ก็เนื่องจากว่าทางการของทั้ง 2 ฝ่าย มีความเห็นที่ขัดแย้งกันในทุกเรื่อง โดยไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของร่องน้ำลึก หรือเรื่องเกาะแก่งต่างๆในแม่น้ำโขง และเรื่องของแผนที่ที่จะใช้อ้างอิงหรือใช้ประกอบการสำรวจในตลอดแนวเขตแดนทาง น้ำก็ตาม

                อย่างไรก็ตาม ทางการไทยกับลาวโดยรัฐมนตรีว่าการต่างประเทศของทั้ง 2 ฝ่ายก็ได้ตกลงร่วมกันอย่างเป็นทางการเมื่อปีที่แล้วนี้ว่าจะพยายามทำการปักปันเขตแดนทางบกให้แล้วเสร็จทั้งหมดภายในปี 2008 และในปี 2010 สำหรับการปักปันเขตแดนทางน้ำให้ได้

                ส่วนจะทำได้จริงหรือไม่นั้นก็จะต้องดูต่อไปเพราะในความเป็นจริงแล้วเป้าหมายที่ทั้ง 2 ฝ่ายจะปักปันเขตแดนระหว่างกันให้แล้วเสร็จนั้นได้มีการเลื่อนออกไปเรื่อยๆ โดยนับตั้งแต่ปี 2003 เป็นต้นมาแล้ว ทั้งนี้โดยมีสาเหตุมาจากการอ้างเหตุผลและพยานเอกสารต่างๆที่ขัดแย้งกันอย่างสิ้นเชิงนั่นเอง

                แต่ ถึงกระนั้น แม้ว่าการปักปันเขตแดนระหว่างไทยกับลาวจะสามารถดำเนินการไปได้อย่างเชื่อง ช้าก็ตาม แต่ก็ถือว่าเป็นแนวทางที่ถูกต้องแล้วที่ทางการของทั้ง 2 ฝ่ายได้เลือกเดินในเส้นทางของการเจรจาแทนการสู้รบกันเหมือนที่เคยเกิดขึ้นในอดีตที่ไม่เพียงทำให้ทหารของทั้ง 2 ฝ่าย ต้องเสียชีวิตไปหลายร้อยนายและบาดเจ็บหรือพิกลพิการไปอีกนับเป็นพันๆคนเท่า นั้น หากแต่ยังไม่มีฝ่ายใดที่ได้รับผลประโยชน์จากพื้นที่พิพาทดัง กล่าวเลยในตลอดช่วง 2 ทศวรรษมานี้!!!



__________________
Anonymous

Date:
RE: ລັດຖະມົນຕຣີ ສປປລາວ, ທ່ານ ສຸບັນ ສະລິດທະລາດ ສິ້ນລົມຫາຍໃຈ
Permalink   
 


ຂໍສະແດງຄວາມເສົ້າສະຫຼົດໃຈມາຍັງຄອບຄົວ ພີ່ນ້ອງແລະຍາດມິດຂອງທ່ານສຸບັນ ສະລິດທະລາດ ທຸກໆຄົນ ແລະຂໍໃຫ້ດວງວິນຍານຂອງທ່ານຈົ່ງໄປສູ່ສຸຂະຕິດ້ວຍເຖີ້ນ.

__________________
Anonymous

Date:
Permalink   
 

ຂໍໃຫ້ດວງວິນຍານຂອງທ່ານໄປສູ່ສຸຂະຕິເຖີນ....!!

ບັນດາທ່ານຜູ້ນຳທີ່ຍັງມີຊີວິດຢູ່ກະໃຫ້ຄິດວ່າ ຊັບສິນເງິນທອງມີຫຼາຍກກໍ່ເທົ້ານັ້ນແຫຼະຕາຍແລ້ວກະເອົາໄປນຳບໍ່ໄດ້ ດັ່ງນັ້ນ ຢ່າໂກງຊາດໂກງປຊຊອີກເລີຍ...!ຈະເຮັດຫຍັງເພື່ອປຊຊກະຮີບເຮັດສາຈັກໜ້ອຍໝົດໂອກາດໄດ.



__________________
Anonymous

Date:
RE: ລັດຖະມົນຕຣີ ສປປລາວ, ທ່ານ ສຸບັນ ສະຣິດທິລາດ ສິ້ນລົມຫາຍໃຈ
Permalink   
 


ມະຕິ​ຕົກລົງ​ວ່າ​ດ້ວຍ​ການ​ແຕ່ງຕັ້ງຄະນະ​ຮັບຜິດຊອບ
​ງານ​ຊາ​ປະ​ນະ​ກິດ​ສົບ​ສະຫາຍ ສຸບັນ ສຣິດທິຣາດ

   ເພື່ອສະແດງເຖິງຄວາມຮູ້ບຸນຄຸນ ແລະ ອາໄລອາວອນຢ່າງສຸດຊຶ້ງຕໍ່ສະຫາຍ ສຸບັນ ສຣິດທິຣາດ ອະດີດກຳມະການສູນກາງພັກສະໄຫມທີ
VII ແລະ VIII, ອະດີດລັດຖະມົນຕີຊ່ວຍວ່າການກະຊວງການຕ່າງປະເທດ, ອະດີດຫົວຫນ້າຫ້ອງວ່າການສຳນັກງານປະທານປະເທດ; ປະທານ
ຄະນະກຳມະການແຫ່ງຊາດ ເພື່ອກວດກາ ແລະ ຄວບຄຸມຢາເສບຕິດ
, ທີ່ເສຍຊີວິດໃນເວລາ 9 ໂມງ 10 ນາທີວັນທີ 17 ເດືອນ 7 ປີ 2012.
ເພື່ອເຮັດໃຫ້ວຽກງານຊາປະນະກິດສົບຂອງສະຫາຍ ສຸບັນ ສຣິດທິຣາດ ໄດ້ຮັບການຈັດຕັ້ງປະຕິບັດຢ່າງສົມກຽດ ແລະ ມີຄວາມເປັນລະບຽບຮຽບ
ຮ້ອຍ
.

ຄະນະເລຂາທິການສູນກາງພັກຕົກລົງ:

ມາດຕາ 1:ແຕ່ງຕັ້ງຄະນະຮັບຜິດຊອບງານຊາປະນະກິດສົບສະຫາຍ ສຸບັນ ສຣິດທິຣາດ ປະກອບດ້ວຍບັນດາສະຫາຍດັ່ງນີ້:

1. ສະຫາຍ ນ. ອ່ອນຈັນ ທຳມະວົງ ກຳມະການສູນກາງພັກ, ລັດຖະມົນຕີວ່າການກະຊວງແຮງງານ ແລະ ສະຫວັດດີການສັງຄົມເປັນປະ
ທານ
.

2. ສະຫາຍ ດຣ. ສິນລະວົງ ຄຸດໄພທູນ ກຳມະການສູນກາງພັກ,ຫົວຫນ້າຫ້ອງວ່າການລັດຖະບານເປັນຮອງປະທານ.

3. ສະຫາຍ ໄຊສີ ສັນຕິວົງ ກຳມະການສູນກາງພັກ, ຮອງຫົວຫນ້າຄະນະຈັດຕັ້ງສູນກາງພັກເປັນກຳມະການ.

4. ສະຫາຍ ນ. ສູນທອນ ໄຊຍະຈັກ ກຳມະການສູນກາງພັກ, ລັດຖະມົນຕີຊ່ວຍວ່າການກະຊວງການຕ່າງປະເທດ, ຮອງຫົວຫນ້າຄະນະພົວ
ພັນຕ່າງປະເທດສູນກາງພັກເປັນກຳມະການ
.

5. ສະຫາຍ ເຈີຢິ້ງ ຫວ່າງ ຮອງຫົວຫນ້າຫ້ອງວ່າການປະທານປະເທດເປັນກຳມະການ.

6. ສະຫາຍ ກຸ ຈັນສີນາ ຮອງປະທານຄະນະກຳມະການແຫ່ງຊາດ ເພື່ອກວດກາ ແລະ ຄວບຄຸມຢາເສບຕິດເປັນກຳມະການ.

7. ສະຫາຍ ພັ/ອ ດວງປີ ດາມະນີວົງ ຮອງຫົວຫນ້າກົມໃຫຍ່ການເມືອງ ປກສ ກະຊວງປ້ອງກັນຄວາມສະຫງົບເປັນກຳມະການ.

8. ສະຫາຍ ພັ/ອ ດຣ. ສີນວນ ມະຫາວົງ ຫົວຫນ້າກົມນະໂຍບາຍກົມໃຫຍ່ການເມືອງກອງທັບ, ກະຊວງປ້ອງກັນປະເທດເປັນກຳມະການ.

9. ສະຫາຍ ຄຳເຜີຍ ແກ້ວກິນນາລີ ຫົວຫນ້າກົມບໍລິຫານ ແລະ ພິທີການຫ້ອງວ່າການລັດຖະບານເປັນກຳມະການ.

10. ສະຫາຍ ອຸ່ນແສງ ວິໄຊ ຫົວຫນ້າຫ້ອງການຄະນະກຳມະການແຫ່ງຊາດເພື່ອກວດກາ ແລະ ຄວບຄຸມຢາເສບຕິດເປັນກຳມະການ.

11. ສະຫາຍ ໄວໂຍລິນ ພຣະສະຫວັດ ຮອງຫົວຫນ້າຫ້ອງການກະຊວງຖະແຫລງຂ່າວ-ວັດທະນະທຳ ແລະ ທ່ອງທ່ຽວເປັນກຳມະການ.

12. ສະຫາຍ ສົມລິດ ສຸກສົມຫວັງ ຫົວຫນ້າພະແນກສາສະຫນາກົມສາສະຫນາ, ສູນກາງແນວລາວສ້າງຊາດເປັນກຳມະການ.

13. ສະຫາຍ ດຣ. ຕານ້ອຍ ສຣິດທິຣາດ ຕາງຫນ້າຄອບຄົວເປັນກຳມະການ.

ມາດຕາ 2: ມອບໃຫ້ຄະນະຮັບຜິດຊອບງານຊາປະນະກິດສົບດັ່ງກ່າວ ປະຊຸມປຶກສາຫາລືກັນຢ່າງລະອຽດ ແລະ ມີການແບ່ງງານ, ແບ່ງ
ຄວາມຮັບຜິດຊອບຢ່າງຈະແຈ້ງ
.

ມາດຕາ 3: ຂໍ້ຕົກລົງສະບັບນີ້ມີຜົນສັກສິດນັບແຕ່ມື້ລົງລາຍເຊັນເປັນຕົ້ນໄປ.



__________________
Anonymous

Date:
Permalink   
 

ຄວາມຕາຍທຸກຄົນຫລີກລຽ້ງບໍ່ໄດ້,ມີເກີດກໍຕ້ອງມີຕາຍ,ສິ່ງສໍາຄັນກ່ອນຕາຍໄດ້ສ້າງຄວາມດີໄວ້

ເມື່ອຕາຍໄປວິນຍານກໍຈະໄດ້ໄປຂຶ້ນສວັນຄືບຸນນັ້ນເອງ,ຊຶ່ງຊາດແລະປຊຊໄດ້ຈໍາລຶກຄຸນງາມຄວາມ

ດີໄວ້.ໃຜໄດ້ສ້າງຄວາມຊົ່ວສໍ້ບ້ານໂກງເມືອງ,ເມື່ອຕາຍໄປວິນຍານກໍຈະໄປຕົກນາລົກຄືບາບນັ້ນເອງ

ຊຶ່ງຊາດແລະປຊຊໄດ້ສາບແຊ່ງໄວ້.



__________________
Anonymous

Date:
Permalink   
 

ພາລະຕໍ່ໄປ ກໍ່ແມ່ນ ໄປຊອກຫາ ລຸງພາ ແລະ ລຸງສອນ ຊຶ່ງຖືກຈອ່ງຈໍາຢູ່ອະເວຈີຊັ້ນທີເກົ້າ.





__________________
Anonymous

Date:
Permalink   
 

ບັນດາຜູ້ນຳ ສປປລາວທັງຫລາຍຈົ່ງຟັງ

ທັມມະສອນໃຈ ທັງເຊົ້າແລະແລງ ຈະມີອາຍຸຍາວນານ





__________________
Anonymous

Date:
Permalink   
 

Anonymous wrote:

ພາລະຕໍ່ໄປ ກໍ່ແມ່ນ ໄປຊອກຫາ ລຸງພາ ແລະ ລຸງສອນ ຊຶ່ງຖືກຈອ່ງຈໍາຢູ່ອະເວຈີຊັ້ນທີເກົ້າ.




 ພໍ່ເຈົ້າກະຢູ່ຫັນບໍ່ຈັງຮູ້



__________________
Anonymous

Date:
Permalink   
 

Anonymous wrote:
Anonymous wrote:

ພາລະຕໍ່ໄປ ກໍ່ແມ່ນ ໄປຊອກຫາ ລຸງພາ ແລະ ລຸງສອນ ຊຶ່ງຖືກຈອ່ງຈໍາຢູ່ອະເວຈີຊັ້ນທີເກົ້າ.




 ພໍ່ເຈົ້າກະຢູ່ຫັນບໍ່ຈັງຮູ້


 ----ບັກນ້ຳເມຶອກເຂົາຍາມມື້ເຊົ້າ ---------------------------------------------------------

 

ພໍ້ແລ້ວ ລຸ່ງພາ ກັບ ລູງສອນ

towersofsilence8.jpg

 

 

towersofsilence10.jpg

ນອນຮຽງກັນຢ່າງອອ້ຍຊອ້ຍ ລຸງພາ ກັບ ລຸງສອນ

towersofsilence9.jpg



__________________
Anonymous

Date:
Permalink   
 

Anonymous wrote:
Anonymous wrote:
Anonymous wrote:

ພາລະຕໍ່ໄປ ກໍ່ແມ່ນ ໄປຊອກຫາ ລຸງພາ ແລະ ລຸງສອນ ຊຶ່ງຖືກຈອ່ງຈໍາຢູ່ອະເວຈີຊັ້ນທີເກົ້າ.




 ພໍ່ເຈົ້າກະຢູ່ຫັນບໍ່ຈັງຮູ້


 ----ບັກນ້ຳເມຶອກເຂົາຍາມມື້ເຊົ້າ ---------------------------------------------------------

 

ພໍ້ແລ້ວ ລຸ່ງພາ ກັບ ລູງສອນ

towersofsilence8.jpg

 

 

towersofsilence10.jpg

ນອນຮຽງກັນຢ່າງອອ້ຍຊອ້ຍ ລຸງພາ ກັບ ລຸງສອນ

towersofsilence9.jpg


 ໂອຍອັນນີມັນແມ່ນບັກຜຸຍ ສະນະນິກອນ ກັບບັກວັງປາວ ບັກຮວກກູ່ມີເວລາຕອນນີ້ ມັນເປັນເວລາເລີກວຽກກູ້



__________________
Page 1 of 1  sorted by
 
Quick Reply

Please log in to post quick replies.



Create your own FREE Forum
Report Abuse
Powered by ActiveBoard