ລາວໂຮມລາວ ເພື່ອປະຊາທິປະໄຕ

ทุนกาสิโนจีนกับเกมผลประโยชน์ในลาว

Jody Jordahl ประธานกรรมการบริหารกลุ่มบริษัท Sanum Investments จาก เขตบริหารพิเศษมาเก๊าแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ได้ออกมาเปิดเผยอย่างหมดเปลือกเป็นครั้งแรกในสัปดาห์ก่อนหน้านี้ว่าบริษัทฯ ของเขาได้ถูกทางการลาวถอนสัมปทานการลงทุนในกิจการโรงแรมและบ่อนกาสิโนหลาย แห่งในลาวอย่างไม่เป็นธรรม ทั้งยังถูกหุ้นส่วนฝ่ายลาว (ST Group) ที่มีความใกล้ชิดกับกลุ่มผู้มีอำนาจในลาวเข้ายึดและครอบครองกิจการอย่างไม่ถูกต้องตามกฎหมายอีกด้วย

ทั้งนี้โดย Jody Jordahl ได้ให้การยืนยันอย่างชัดเจนว่าทางฝ่ายบริษัท Sanum Investments ของ เขาได้พยายามติดต่อเจรจากับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในลาวเพื่อเรียกร้องขอความ เป็นธรรมแล้ว โดยไม่ว่าจะเป็นการเจรจากับหุ้นส่วนฝ่ายลาว การประสานงานกับสำนักงานไกล่เกลี่ยข้อพิพาทเกี่ยวกับการลงทุนในลาวหรือแม้ แต่ศาลประชาชนลาวก็ตาม แต่ก็ไม่ได้รับการตอบสนองอย่างใดเลย นอกจากการที่ต้องออกมาจากลาวมือเปล่า และปล่อยให้กิจการทั้งหมดตกไปอยู่ภายใต้การครอบครองของหุ้นส่วนฝ่ายลาวที่มี เส้นสายทางการเมืองภายในลาวอย่างสิ้นเชิง

ยิ่งไปกว่านั้น Jody Jordahl ยังได้ระบุด้วยว่าผลประโยชน์จากการดำเนินกิจการที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ปี 2007 เป็นต้นมา ซึ่งทำให้สินทรัพย์ของบริษัทเพิ่มขึ้นจาก 85 ล้านดอลลาร์สหรัฐเป็นมากกว่า 400 ล้าน ดอลลาร์สหรัฐในปัจจุบันนี้ คือมูลเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดการดำเนินมาตรการต่างๆโดยหุ้นส่วนฝ่ายลาว ภายใต้เป้าหมายเพื่อกดดันให้หุ้นส่วนจากมาเก๊าต้องถอนตัวจากการร่วมลงทุนใน ทุกโครงการในลาว โดยมาตรการที่หุ้นส่วนฝ่ายลาวได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง เช่น การยกเลิกสัมปทานโครงการใหม่ๆที่รัฐบาลลาวได้อนุมัติให้กับทางบริษัทไปแล้ว การเรียกเก็บภาษีและค่าธรรม เนียมต่างๆ ย้อนหลัง และ การยึดทรัพย์สินต่างๆ ของบริษัท เช่น Slot Machine เป็นต้น

โดยในปัจจุบันนี้ กลุ่มบริษัท Sanum Investments เป็นหุ้นส่วนใหญ่ในกิจการโรงแรมและบ่อนกาสิโน Savan Vegas ที่แขวงสะหวันนะเขต ทั้งยังมีเรือสำราญล่องตามลำน้ำโขงไว้สำหรับต้อนรับนักพนันที่ชื่นชอบเครื่องเล่นเกมการพนันอย่าง Slot Machine ทั้งที่เมืองท่าแขกในแขวงคำม่วน เมืองปากซันในแขวงบอลิคำไซ ท่านาแล้งในเขตนครเวียงจันทน์ และบ่อนกาสิโนที่ด่านชายแดนลาว-เวียดนามที่แดนสะหวัน-ลาวบาว ทั้งยังได้ทุ่มทุนสร้างโรงแรมและบ่อนกาสิโนที่ปากช่องในแขวงจำปาสักอีกต่างหาก

แต่ เนื่องจากว่ากิจการทั้งหมดเหล่านั้นต่างก็ล้วนแล้วแต่ได้ตกไปอยู่ภายใต้การ ครอบครองของหุ้นส่วนฝ่ายลาวอย่างสิ้นเชิงแล้วนั้น จึงทำให้หุ้นส่วนใหญ่อย่างกลุ่มบริษัท Sanum Investments มี ทางเลือกเหลืออยู่ไม่มากนักนอกจากการตัดสินใจยื่นฟ้องทางการลาวต่อศูนย์ แก้ไขข้อพิพาทเกี่ยวกับการลงทุนระหว่างประเทศของธนาคารโลกเท่านั้น ด้วยหวังว่าการฟ้องร้องดังกล่าวจะทำให้ทางการลาวได้หันมาให้ความสำคัญกับ ปัญหาที่เกิดขึ้นนี้อย่างจริงจัง เนื่องจากว่ารัฐบาลลาวได้ให้สัตยาบันต่อสนธิสัญญาและข้อตกลงต่างๆของสหประชา ชาติที่เกี่ยวกับการคุ้มครองการลงทุนอย่างครบถ้วนแล้วนั่นเอง

แต่อย่างไรก็ตาม Jody Jordahl ก็ คาดหวังว่าปัญหาดังกล่าวนี้จะสามารถยุติลงได้ด้วยการเจรจาเพื่อหาทางออกที่ เหมาะสมร่วมกันระหว่างหุ้นส่วนฝ่ายลาวและจีนโดยมีทางการลาวเป็นผู้ไกล่ เกลี่ย หากไม่เช่นนั้น กรณีปัญหานี้ย่อมจะส่งผลกระทบต่อเนื่องไปถึงความเชื่อมั่นของต่างชาติที่ อยากจะเข้าไปลงทุนในลาวในระยะต่อไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ทั้งนี้โดยกระทรวงแผนการและการลงทุนของลาว รายงานว่าการลงทุนโดยตรงของต่างประเทศในลาวนับตั้งแต่ปี 1988 จนถึงปลายปี 2011 มีมูลค่าสะสมมากกว่า 16,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยทางการลาวได้อนุมัติการลงทุนไปทั้งสิ้น 4,416 โครงการ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการลงทุนในภาคพลังงาน เหมืองแร่กสิกรรม-ป่าไม้ และ ภาคบริการ ตามลำดับ

ยิ่ง ไปกว่านั้น กระทรวงแผนการและการลงทุนของลาว ก็ยังได้แสดงความเชื่อมั่นด้วยว่าการลงทุนของต่างชาติในลาวจะมีมูลค่าสะสม เพิ่มขึ้นเป็นมากกว่า 20,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในสิ้นปี 2012 นี้อีกด้วย แต่เมื่อเกิดปัญหาในกรณีดังกล่าวนี้ขึ้นมาก็ย่อมที่จะส่งผลกระทบต่อการคาดหมายดังกล่าวนี้ของทางการลาวได้เช่นกัน

อย่างไรก็ตาม กรณีของกลุ่มบริษัท Sanum Investments ดัง กล่าวนี้ก็มิใช่กรณีแรกที่เกิดขึ้นในลาวแต่ที่เกิดขึ้นเมื่อต้นปีนี้ ก็คือกรณีที่ทางการลาวได้มีคำสั่งให้ปิดบ่อนกาสิโนของนักธุรกิจจีนที่ลงทุน พัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ “บ่อเต็นแดนคำ” ในแขวงหลวงน้ำทา ด้วยเหตุผลที่ว่าการดำเนินกิจการของบ่อนการพนันดังกล่าวได้ก่อให้เกิดปัญหา ภัยสังคมในลาวมากขึ้นทุกขณะ

โดย เฉพาะอย่างยิ่ง การที่นักลงทุนจีนได้ฝ่าฝืนระเบียบกฎหมายด้วยการอนุญาตให้คนลาวเข้าไปเล่น การพนันในบ่อนได ทั้งๆที่กฎหมายของลาวไม่อนุญาตให้คนลาวเข้าไปเล่นการพนันในบ่อนอย่างเด็ดขาด ดังที่เจ้าหน้าที่ระดับสูงในกระทรวงแถลงข่าว วัฒนธรรมและท่องเที่ยวของลาว ได้ให้การอธิบายถึงสภาพปัญหาที่เกิดขึ้นดังกล่าว ว่า

“กระทรวง แถลงข่าววัฒนธรรมฯแม่นได้มีนิติกรรมที่จำเป็นเพื่อเฮ็ดให้การคุ้มครองบรรดา แหล่งบันเทิงและการพนันเหล่านั้น โดยทั่วไปแล้วแม่นเพื่อบ่ให้เกิดมีผลในทางลบ เช่นว่าผู้ที่บ่ถึงอายุเกษียณ ชาวหนุ่มหั่นกะบ่ให้เข้า หรือว่าอยู่ตามร้านกาสิโนหั่น ทุกๆร้านแม่นกะได้มีป้ายติดใส่ว่าบ่ให้คนลาวเข้าใช้บริการ แต่ว่าอันที่พาให้เกิดผลในทางลบขึ้นมาได้ก็ย้อนการละเมิดนิติกรรมเหล่านั้น”

โดย สำหรับกรณีของบ่อนกาสิโนที่บ่อเต็นแดนคำนั้นไม่เพียงจะได้มีการฝ่าฝืนกฎ ระเบียบดังกล่าวเท่า นั้น แต่ยังมีรายงานด้วยว่าบ่อนกาสิโนแห่งนี้ได้ทำการกักขังและทำร้ายร่างกาย บรรดานักพนันจากจีนที่ไม่ยอมชำระหนี้ให้กับทางบ่อนอีกต่างหาก ซึ่งด้วยเหตุนี้ จึงทำให้ทางการลาวต้องมีคำสั่งให้ปิดบ่อนกาสิโนดังกล่าวแล้วในเวลานี้ ทั้งยังจะไม่อนุญาตให้ดำเนินกิจการบ่อนกาสิโนอีกต่อไปโดยจะอนุญาต ให้ดำเนินกิจการได้เฉพาะในด้านการค้า บริการและท่องเที่ยวเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม ในลาวก็ยังมีบ่อนกาสิโนที่ทางการลาวอนุญาตให้นักธุรกิจต่างชาติดำเนินกิจการต่อไปได้ตามปกติอีก 3 แห่ง ก็คือบ่อนแดนสะหวันกาสิโนที่เขื่อนน้ำงืมในแขวงเวียงจันทน์ ซึ่งดำเนินกิจการโดยนักธุรกิจเชื้อสายจีนจากมาเลเซีย ส่วนอีก 2 แห่ง นั้นเป็นการลงทุนของนักธุรกิจจากจีน ซึ่งตั้งอยู่ในแขวงสะหวันนะเขตหรือที่เรียกว่า “สะหวันเวกัสกาสิโน” ที่กำลังมีปัญหาขัดแย้งอยู่ในเวลานี้แต่ก็ยังคงสามารถดำเนินกิจการต่อไปได้ ตามปกติและอีกแห่งหนึ่งที่สามเหลี่ยมทองคำในแขวงบ่อแก้วที่เรียกว่า King Roman Casino ตามลำดับ

โดยสำหรับ King Roman Casino ที่ เขตสามเหลี่ยมทองคำนั้น นับเป็นบ่อนกาสิโนขนาดใหญ่และได้มาตรฐานสากลที่สุดในลาว ทั้งก็ยังเป็นบ่อนกาสิโนที่ตั้งอยู่ในเขตเศรษฐกิจพิเศษที่มีการพัฒนาอย่าง รวดเร็วที่สุดในลาวอีกด้วย โดยล่าสุดกระทรวงโยธาธิการและขนส่งของลาวก็ได้อนุญาตให้กลุ่มทุนจีนดำเนิน การก่อสร้างสนามบินนานาชาติในเขตเศรษฐกิจพิเศษ “สามเหลี่ยมคำ” ดังกล่าวอย่างเป็นทาง การแล้ว ซึ่งคาดว่าจะต้องใช้เงินลงทุนสร้างมากกว่า 500 ล้าน ดอลลาร์สหรัฐ โดยกลุ่มธุรกิจจีนจะเป็นฝ่ายลงทุนและดำเนินการก่อสร้างให้ก่อน ส่วนรัฐบาลลาวก็มีพันธะที่จะต้องชำระคืนทุนและดอกเบี้ยให้กับกลุ่มธุรกิจจีน ในภายหลัง

ทั้ง นี้โดยถึงแม้ว่าจะยังคงไม่มีการเปิดเผยว่ารัฐบาลลาวจะต้องชำระคืนเงินต้นและ ดอกเบี้ยดังกล่าวในอัตราเท่าใดก็ตา แต่กลุ่มทุนจีนก็มีเวลาอย่างเกินคุ้มที่จะตักตวงผลประโยชน์จากเขตเศรษฐกิจ พิเศษสามเหลี่ยมคำแห่งนี้ เนื่องจากว่าเป็นการลงทุน 100% โดยกลุ่มบริษัทดอกงิ้วคำจากจีน โดยที่รัฐบาลลาวได้อนุมัติสัมปทานที่ดินที่กว้างถึง 3,000 เฮกตาร์ (18,750 ไร่) ให้กลุ่มทุนจีนเช่านับเป็นระยะเวลา ที่ยาวนานถึง 99 ปีเลยทีเดียว

เพราะ ฉะนั้น ถึงแม้ว่าบ่อนกาสิโนสะหวันเวกัสจะมีปัญหาขัดแย้งผลประโยชน์กันระหว่างหุ้น ส่วนฝ่ายลาวกับฝ่ายจีน และบ่อนกาสิโนที่บ่อเต็นแดนคำก็ถูกปิดเป็นการถาวรแล้วในเวลานี้ก็ตาม แต่ก็ถือเป็น การสูญเสียผลประโยชน์เพียงส่วนน้อยเท่านั้นของกลุ่มทุนจีน เนื่องจากว่า King Roman Casino นั้นยังสามารถที่จะแสวงหาผลประโยชน์ได้อีกอย่างยาวนาน

นอก จากนี้ ก็ยังมีอีกหนึ่งโครงการยักษ์ใหญ่ที่เชื่อว่าไม่รอดพ้นเงื้อมมือของกลุ่มทุน จีนอีกเช่นกัน นั่นก็คือเขตเศรษฐกิจพิเศษ “คอนพะเพ็ง” ที่ตั้งอยู่ในเขตสี่พันดอนแห่งลุ่มน้ำโขงในแขวงจำปาสัก (ถิ่นฐานบ้านเกิดของอดีตผู้นำสูงสุดของลาวอย่าง คำไต สีพันดอน) โดย ถึงแม้ว่าจะต้องใช้เงินทุนก้อนใหญ่แต่ก็เชื่อได้เลยว่า “บ่อนกาสิโน” คือแหล่งทำเงินที่มีประสิทธิผลมากที่สุดของจีนในลาว และแน่นอนว่าผู้ที่จะขนเงินไปเข้าบ่อนกาสิโนในลาวมากที่สุด ก็คือ “นักพนันจากไทย” นั่นเอง!!!