นางบุญมี เรืองวงภาว ชาวบ้านโนนสง่า แขวงไชยเชษฐา นครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว ซึ่งเป็นแม่ค้าที่มาแสดงและจำหน่ายสินค้าในกลุ่มประเทศอาเซียน ภายในงานเทศกาลไหม ประเพณีผูกเสี่ยวและงานกาขาดประจำปี 2555 ที จ.ขอนแก่น ได้เข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.พิสิฐ หลวงเทพ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่น หลังพบว่าผ้าไหมโบราณที่ได้นำมาแสดงและจำหน่ายในงานดังกล่าวได้หายไปเป็น จำนวนมาก หลังรับแจ้งจึงได้รายงานให้ พ.ต.อ.จรูญ นวมทอง ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น และ พ.ต.ท.สิทธิชัย โสภาเจริญรัตน์รอง ผกก.ป.สภ.เมืองขอนแก่น ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุภายในจุดแสดงและจำหน่ายสินค้าในกลุ่มประเทศอาเซียน ด้านข้างเวทีกลางงานเทศกาลไหมฯ ติดกับอนุสาวรีย์ รัชกาลที่ 5 ห่างจากจุดรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองขอนแก่นและกองอำนวยการงานไหมฯเพียง 10 เมตร โดยพบว่าในร้านที่ 2 ในกลุ่มประเทศ สปป.ลาว พบร่องรอยของการรื้อค้นในจุดที่มีการแสดงและจำหน่ายผ้าไหม ประเภทผ้าถุงและผ้าไหมสำเร็จรูปแบบทอมือในกลุ่มผ้าไหมโบราณหายากได้หายไป
นางบุญมี ผู้เสียหายให้การว่าในช่วงคืนวันที่ 4 ธ.ค. ที่ผ่านมาหลังเสร็จสิ้นการจำหน่ายสินค้าประจำวันได้ชักชวนเพื่อนพ่อค้า และแม่ค้าที่มาจำหน่ายสินค้าในงานดังกล่าว ทำการปิดร้านเพื่อรีบกลับห้องพักไปติดตามชมละคร “แรงเงา” เนื่องจากเป็นตอนอวสาน โดยได้ทำการปิดร้านตามปกติด้วยการนำผ้ามาคลุมพื้นที่จัดแสดงและนำสินค้าบาง รายการที่มีราคาแพงนำกลับไปด้วย แต่ด้วยเวลาที่ใกล้ละครจะเริ่มแสดง จึงได้นำผ้าไหมโบราณในประเภทลายต่างๆ วางปะปนไปกับผ้าไหมต่างๆเพื่อไม่ให้เกิดเป็นที่สงสัยและจับตาของกลุ่ม มิจฉาชีพก่อนที่จะเดินทางกลับ จนกระทั่งรุ่งเช้าได้มาตรวจสอบก็ยังคงไม่พบสิ่งผิดปกติอะไรมากนักจนกระทั่ง ในช่วงเช้าของวันนี้จึงได้ตรวจสอบอย่างละเอียดเพื่อตรวจนับสิ่งของสำหรับการ เช็คยอดพบว่าผ้าไหมโบราณที่มีราคาแพงและลวดลายที่สวยงามได้หายไปรวมทั้งหมด 9 ชิ้น ประกอบด้วย ผ้าไหมโบราณลายมุข ลายกะเลาะ และลายทอมือโบราณในประเภทผ้าถุงได้หายไปคิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 100,000 บาท
พ.ต.อ.จรูญ นวมทอง ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น กล่าวว่า ชุดสืบสวนสอบสวนได้ลงพื้นที่เพื่อสอบปากคำและเก็บรวบรวมข้อมูลหลักฐาน โดยเฉพาะลายผ้าไหมและหลักฐานทั้งหมดที่เจ้าของร้านได้มีการเขียนรายชื่อและ ลงรหัสเลขไว้เพื่อเร่งประสานตรวจสอบไปร้านรับซื้อของเก่า และร้านค้าที่รับซื้อผ้าไหม เผื่อคนร้ายได้นำไปจำหน่าย พร้อมกันนั้นจะมีการตรวจสอบอาสาสมัครตำรวจ ที่ได้มีการเรียกเก็บค่ารักษาความปลอดภัยดังกล่าวทั้งหมดพร้อมตรวจสอบนาย ตำรวจที่เข้าเวรในช่วงวันที่ 4-6 ธ.ค. ว่าบกพร่องในการทำหน้าที่อย่างไรจนเกิดเหตุการณ์ที่กระทบกับผู้ที่มาร่วมงาน บุญประจำปีของชาวขอนแก่นและที่สำคัญเกิดกับแขกที่ถูกรับเชิญมาจากกลุ่ม ประเทศเพื่อนบ้าน
เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นคนใกล้ตัวที่รู้ที่ซ่อนผ้าไหมราคาแพงรวมไปถึง กลุ่มมิจฉาชีพที่แฝงเข้ามาก่อเหตุในงานเทศกาลฯดังกล่าว อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นผู้บังคับบัญชาระดับสูงทุกระดับให้ความ สำคัญและเร่งติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
