สยบค้ามนุษย์ข้ามชาติ ทลายแก๊งโฉด"โก-ลก" ลวง"สาวลาว"-ค้ากาม
ปัญหาการค้ามนุษย์ ถือเป็นภัยคุกคามร้ายแรงต่อสวัสดิภาพมนุษย์ และ ยังมีความเชื่อมโยงกับการก่ออาชญา กรรมอื่นๆ บางครั้งกลายเป็นช่องทางหา รายได้หรือฟอกเงินให้กับกลุ่มก่อการร้าย และองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ การเข้มงวดกวาดล้างการค้า มนุษย์อย่างจริงจัง จึงเป็นเรื่องจำเป็น อย่างมากยิ่งเหยื่อส่วนใหญ่เป็นเด็กและสตรี ยิ่งต้องเพิ่มความเข้มงวด ไม่ให้เกิดอาชญา กรรมกับเพศที่อ่อนแอและต้องการความคุ้มครองเช่นนี้ ล่า สุดเมื่อต้นเดือนธ.ค.นี้ กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ร่วมกับศูนย์ต่อต้านการค้ามนุษย์ ก็สามารถบุกทลายแก๊งค้ามนุษย์ข้ามชาติจากประเทศลาว พรากลูกเมียชาวบ้าน หลอกลวงเหยื่อสาว มาค้ากามไกลถึงสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาสสร้างความเจ็บช้ำให้กับญาติพี่น้องเป็นอย่างยิ่ง และเมื่อตรวจสอบแล้วพบว่าขบวนการค้ามนุษย์แก๊งนี้ ทำมาหากินกับสาวชาวลาวมาแล้วกว่า 5 ปี มีเหยื่อถูกหลอกลวงแล้ว กว่า 500 ราย ถือเป็นเรื่องสะเทือนขวัญ และต้องเร่งหามาตรการแก้ไขในระยะยาวให้ได้ต่อไปคดี นี้สืบเนื่องจากที่ดีเอสไอ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสุไหงโก-ลก เข้าตรวจค้นร้านบ้านคาราโอเกะ ซอย ประชาวิวัฒน์ 3 อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เมื่อเดือนธ.ค.54 โดยสามารถจับกุม นายสาธิต สารวรรณ กับพวก ฐาน ร่วมกันค้ามนุษย์ และธุระจัดหาล่อไปหรือพาไปเพื่อการอนาจารหญิงพร้อมกับช่วยเหลือเหยื่อสาวชาวลาวมาได้ 20 คน ซึ่งครั้งนั้นศาลสั่งจำคุกผู้ต้องหา 100 ปี แต่รับโทษสูงสุด 50 ปี การ สอบสวนทั้งหมดต่างให้การว่าหัวโจกของขบวนการ คือนางแหล้ สาวชาวลาวที่ทำหน้าที่นายหน้าคนสำคัญในการลักลอบนำสาวลาวมาค้าประเวณีใน ประเทศ ไทย นายปรีชา มงคลประจักษ์ หรือโกหลุย และ นายไพฑูรย์ แซ่ลิ่ม หรือโกอี๊ด ทำหน้าที่เชียร์แขก และส่งหญิงบริการไปในพื้นที่ทั้งหมดหยุดเคลื่อนไหวไปแล้วช่วงหนึ่ง แต่มาระยะหลังกลับมาทำธุรกิจแบบเดิมในพื้นที่อีก โดยเปิดเป็นร้านคาราโอเกะบังหน้าเมื่อ ได้เบาะแสดังนั้น เจ้าหน้าที่ศูนย์ ต่อต้านการค้ามนุษย์ ร่วมกับมูลนิธิเครือข่ายส่งเสริมคุณภาพชีวิตแรงงาน และมูลนิธิพิทักษ์สตรี ประสานงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ และเจ้าหน้าที่ ตำรวจ เฝ้าติดตามสถานการณ์จนได้หลักฐานแน่ชัดก่อนบุกเข้ารวบตัวหัวโจกทั้ง 3 คน โดย นางแหล้ ถูกจับคาด่านตรวจคนเข้าเมืองสุไหงโก-ลก ขณะจะข้ามแดนไปยังประเทศมาเลเซีย ในขณะที่ นายปรีชา หรือ โกหลุย ถูกเจ้าหน้าที่บุกจับตัวได้ที่ร้านคาราโอเกะ ซ.ประชาวิวัฒน์ 3 อ.สุไหงโก-ลก ขณะกำลังให้บริการลูกค้า ส่วน นายไพฑูรย์ หรือ โกอี๊ด ถูกจับที่หน้าร้าน 988 คาราโอเกะ เลขที่ 30/29 ซ.ประชาวิวัฒน์ 2 อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส โดยควบคุมทั้ง 3 ลงบันทึกไว้เป็นหลักฐานที่สภ.สุไหง โก-ลก ก่อนนำตัวส่งฟ้องศาลขณะ ที่นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เผยว่า หลังจากจับกุมหัวโจกทั้ง 3 แล้ว สามารถช่วยเหลือหญิงสาวชาวลาวอีกกว่า 20 คน โดยมี 8 คนให้การชัดเจน ว่า ถูกนางแหล้นำตัวมาค้าบริการ และจากการสืบสวนพบว่านางแหล้ทำหน้าที่เป็นผู้จัดหาหญิงสาวชาวลาว มาส่งสถานบริการในพื้นที่อ.สุไหง โก-ลก ที่มีกว่า 100 แห่ง โดยคิดค่า หัวในการจัดหารายละ 1 หมื่นบาท ทำมากว่า 5 ปี คาดว่าน่าจะมีเหยื่อที่ถูกหลอกลวงมาไม่ต่ำกว่า 500 คน สำหรับ ขั้นตอนการพาตัวเข้ามาในประเทศ นางแหล้จะติดต่อทำเอกสารปลอม ให้เหยื่อสาวทั้งหมดมีอายุเกิน 18 ปี ทั้งที่จริงๆ แล้วทั้งหมดมีอายุประมาณ 12-15 เท่านั้น ส่วน ผู้ต้องหาชายอีก 2 คน ทำหน้าที่ควบคุมหญิงสาวเหล่านี้ให้ค้าประเวณี ตามที่ตกลงไว้กับสถานบริการ รวมทั้งทำหน้าที่เป็นคนเชียร์แขกด้วย "เบื้อง ต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหานางแหล้ ในข้อหาร่วมกันค้ามนุษย์ ร่วมกันเพื่อสนองความใคร่ของผู้อื่นเป็นธุระจัดหาล่อไป หรือพาไปเพื่อการอนาจารซึ่งหญิง บุคคลอายุเกิน 15 ปีแต่ยังไม่เกิน 18 ปี และเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ดำรงชีพจากรายได้ของผู้ซื้อค้าประเวณี รวมถึงร่วมกันพรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี และผู้เยาว์อายุเกิน 15 ปีแต่ไม่เกิน 18 ปีไปเสียจากบิดา มารดา เพื่อการอนาจารโดยผู้เยาว์ไม่เต็มใจ ส่วน โกหลุยและโกอี๊ด ถูกแจ้งข้อหาฐานร่วมกันเพื่อสนองความใคร่ของผู้อื่นเป็นธุระจัดหาล่อไป หรือพา ไปเพื่อการอนาจารซึ่งหญิง บุคคลอายุเกิน 15 ปีแต่ยังไม่เกิน 18 ปีและเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี และดำรงชีพจากรายได้ของผู้ซึ่งค้าประเวณีต่อไป" นายธาริตระบุ แม้ว่านางแหล้เอง จะพยายามให้การปฏิเสธ ว่าทุกคนที่พามาทำงานรับทราบหมดว่ามาค้าประเวณี โดยไม่เคยหลอกลวงใครหน้าไหนทั้งสิ้นคำแก้ตัวนี้คงไม่มีความหมายอะไร เพราะโทษทางกฎหมายที่มีก็ชี้ชัดอยู่แล้วเพียง แต่หวังว่าเจ้าหน้าที่รัฐ จะเร่งปราบปรามขบวน การค้ามนุษย์เหล่านี้ให้มากขึ้น เพื่อไม่ให้หญิงสาวที่น่าสงสารเช่นนี้ต้องตกเป็นเหยื่ออีก