ปคม.จับโอเกะค้ากามเด็กลาว-รวบเขมรพาเด็กเร่ขอเงินบริจาค
ตำรวจ ปคม.รวบเจ้าของร้านคาราโอเกะแก่งคอยลักลอบค้าประเวณีเด็กสาวชาวลาว นอกจากนี้ยังจับกุมชาวเขมรพาเด็กสวมชุดนักเรียนเร่ขอบริจาคเงินการศึกษาและ ลากคอหนุ่มโสมขาวแสบหลอกหญิงไทยไปทำงานเกาหลีใต้ วันนี้ (15 ธ.ค.) ที่ กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.) เมื่อเวลา 10.00 น. พล.ต.ต.ชวลิต แสงพืชน์ ผบก.ปคม. แถลงข่าวผลจับกุม นายอนันต์ ทัดสอน อายุ 44 ปี และนายวีระเดช สีมาตร อายุ 31 ปี เจ้าของและพนักงาน ร้านคาราโอเกะ ยูเทิร์น สองแสนเก้า อ.แก่งคอย จ.สระบุรี ผู้ต้องหาค้าประเวณีเด็กชาวลาว อายุระหว่าง 16-19 ปี ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า ร้านดังกล่าวลักลอบค้าประเวณี เมื่อลูกค้าเข้ามาในร้าน ผู้ต้องหาจะติดต่อหาเด็กสาวชาวลาวมานั่งคุยกับแขกในร้าน หากสนใจจะซื้อบริการก็พาเข้าไปด้านหลังร้าน และต้องจ่ายเงินให้กับเจ้าของร้าน 1,500 บาท จึงควบคุมตัวมาสอบสวน ทั้งนี้ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ ก่อนควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองไปดำเนินคดีต่อไป อีกรายจับกุม นางแซมโบ สก อายุ 54 ปี สัญชาติกัมพูชา ผู้ต้องหาลักลอบพาเด็กชาวกัมพูชา ขอรับบริจาคเงินเป็นทุนการศึกษา ตามสถานีรถไฟฟ้า ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ ปคม. ได้รับแจ้งจากประชาชนว่ามีเด็กกัมพูชาแต่งชุดนักเรียน ยืนถือกล่องรับบริจาค มีข้อความว่า "รับบริจาคเงินเพื่อการศึกษา" ที่สถานีรถไฟฟ้าสยามสแควร์ จึงเข้าไปสอบถามพบว่า ด.ช.หนึ่ง (นามสมมุติ) อายุ 13 ปี เป็นชาวกัมพูชา ให้การว่า นางแซมโบ ได้ซื้อตนมาจากยายที่ประเทศกัมพูชา ในราคา 100 ดอลล่าร์สหรัฐฯ และพาเข้าทางด่านผ่านแดนจังหวัดสุรินทร์ พร้อมกับหาชุดนักเรียนให้ ก่อนเข้าพักที่อพาร์ทเม้นท์แห่งหนึ่ง ในตำบลบางเขน อำเภอเมืองนนทบุรี จากนั้นได้ถูกบังคับให้ถือกล่องรับบริจาค ตั้งแต่ 7:00 - 17:00 น ทุกวัน โดยวันหนึ่งจะได้เงินบริจาคประมาณ 1-2 พันบาท และนางแซมโบจะคอยเดินเก็บเงินในกล่องกระดาษที่มีผู้บริจาค อีกทั้ง ไม่ได้แบ่งเงินให้กับเด็ก จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ โดยอ้างว่าเป็นญาติกับเด็กและพามาหาทุนเพื่อใช้เป็นค่าเล่าเรียนหนังสือที่ กัมพูชา เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหา ค้ามนุษย์โดยใช้เด็กเป็นเครื่องมือ ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ นอกจากนี้ ยังจับกุมนายลี ยัง โช อายุ 37 ปี ชาวเกาหลีใต้ ผู้ต้องหาหลอกลวงหญิงไทยไปทำงานที่ร้านอาหารประเทศเกาหลีใต้ สืบเนื่องจากช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา มีผู้หญิงไทย 2 ราย ได้รู้จักกับนายลี ยัง โช ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ถนนพระราม 3 ได้ชักชวนไปทำงานเป็นพนักงานเสิร์ฟอาหารที่ประเทศเกาหลีใต้ โดยจะได้ค่าจ้างเดือนละ 3 หมื่นบาท และมีเงินค่าล่วงเวลาอีกประมาณ 1 หมื่นบาท แต่ต้องเสียค่าใช้จ่ายก่อน ซึ่งผู้เสียหายหลงเชื่อและจ่ายเงินให้ รายละ 4 หมื่นบาท แต่ปรากฏว่าไม่ได้ไปทำงานจริง จึงสอบสวนติดตามจับกุมได้ที่ย่านพระราม 3 สอบสวน ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าหลอกลวงหญิงไทยไปทำงานที่ประเทศเกาหลีใต้จริง และมีผู้หลงเชื่อหลายราย รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 8 หมื่นบาท เจ้าหน้าที่จะควบคุมตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป