ผบช.ภาค 4 แถลงผลงาน ปปส.ร่วมกับ ตร.นครพนม จับกุมยกครัว ยึดเฮโรอีนลอตใหญ่ มูลค่ากว่า 100 ล้าน พบจับกุมครั้งแรกในรอบหลาย 10 ปี เร่งสอบสวนขยายผลจับกุมเครือ ขณะที่คนร้ายสารภาพ ซื้อยาเสพติดมาจากประเทศเพื่อนบ้านในราคากิโลกรัมละ 1 ล้านบาท ก่อนส่งขายต่อ อ.หาดใหญ่ เผยได้ค่าจ้างครั้งละ 1 ล้าน…
เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2556 ที่สถานีตำรวจภูธรอำเภอเมืองสกลนคร พล.ต.ท.กวี สุภานันท์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 พร้อมด้วย นายวิตถวัลย์ สุนทรขจิต เลขาฯ ปปส. พล.ต.ต.ชูรัตน์ ปานเหง้า ผบก.ภ.จว.นครพนม พ.ต.อ.ทินณะรัตน์ เพ็ชรพันธ์ศรี รอง ผบก.ภ.จว.นครพนม พ.ต.อ.วรพงษ์ นันทลักษณ์ ผกก.สภ.ท่าอุเทน รักษาการ ผกก.สภ.เมืองนครพนม พ.ต.อ.อนุวัตร สุวรรณภูมิ ผกก.สืบสวนตำรวจนครพนม นายภิญโญ โฆษิต เจ้าพนักงาน ปราบปรามยาเสพติด กองกำกับการปราบปรามยาเสพติด ร่วมกับตำรวจชุดสืบสวนนครพนม แถลงผลงานการจับกุมขบวนการค้ายาเสพติด เฮโลอีนลอตใหญ่ โดยจับกุม นายจิระพัฒน์ ถานะ อายุ 45 ปี พร้อมด้วย นางอุไร ประอินทร์ อายุ 32 ปี บุตรสาว นายเลิศพงศ์ ถานะ อายุ 28 ปี บุตรชาย และ บุตรเขยคือ นายมารุต ศรีหัวแฮ อายุ 30 ปี ชาว อ.เทพสถิต จ.ชัยภูมิ พร้อมของกลางยาเสพติดประเภท 1 เฮโลอีน ชนิดผงสีขาวอัดแท่ง ห่อด้วยพลาสติก จำนวน 140 แท่ง น้ำหนักแท่งละประมาณ 350 กรัม รวมน้ำหนักทั้งสิ้น ประมาณ 49 กิโลกรัม และเงินสด 1.6 แสนบาท นอกจากนี้ยังตรวจยึดรถยนต์ของกลาง ยี่ห้อ ฮอนด้า สตรีม สีเงิน ทะเบียน วร 7797 กทม. รถยนต์กระบะดีแมคซ์ สีขาว ทะเบียน ป้ายแดง ก 1140 ชัยภูมิ และรถตู้ โตโยต้า สีเทา ทะเบียน นข-6654 ขอนแก่น โดย การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากตำรวจได้สืบทราบว่า จะมีการลักลอบขนส่งยาเสพติดมาจากประเทศเพื่อนบ้าน จึงระดมกำลังวางแผนสืบสวนติดตามจับกุม จนกระทั่งทราบว่า นายจิระพัฒน์ ถานะ อายุ 45 ปี ผู้ต้องหา ที่เปิดทำธุรกิจร้านคาราโอกเกะ นติดตามแกะรอย จนกระทั่งสกัดตรวจค้นรถต้องสงสัย ยี่ห้อ ฮอนด้า สตรีม สีเงิน ทะเบียน วร 7797 กทม. ขณะขับมาจอดเพื่อส่งมอบสิ่งของ กับรถตู้อีกคัน หน้าหมู่บ้านพิมพากร ในเขตเทศบาลเมืองนครพนม ถนนเลี่ยงเมือง ขาเข้าตัว บริเวณใกล้สะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 3 นครพนม – คำม่วน บ้านห้อม ต.อาจสามารถ อ.เมือง นครพนม จะเดินทางมารับยาเสพติด ที่นำข้ามมาจาก เมืองท่าแขก สปป.ลาว ตรงข้ามตัวเมืองนครพนม จึงวางแผเมือง ตรวจค้นพบ นายเลิศพงศ์ ถานะ อายุ 28 ปี ผู้ต้องหา เป็นคนขับ มี นางอุไร ประอินทร์ อายุ 32 ปี และ นายมารุต ศรีหัวแฮ อายุ 30 ปี นั่งมาด้วย ตรวจค้นพบยาเสพติดเฮโลอีนของกลาง ซุกซ่อนในคอนโซนหน้ารถ จึงควบคุมตัวมาสอบสวน ส่วนรถยนต์ตู้อีกคัน คนขับได้ขับหลบหนีทัน จนกระทั่งมีการขยายผลทราบว่า นายจิระพัฒน์ ถานะ อายุ 45 ปี ผู้ต้องหา เป็นคนขับรถตู้ โตโยต้า สีเทา ทะเบียน นข-6654 ขอนแก่น หลบหนี แต่สามารถประสานงานสกัดจับได้ ในพื้นที่ อ.กุสุมาลย์ จ.สกลนคร ก่อนควบคุมตัวมาสอบสวนเบื้องต้นจากการสอบสวน ผู้ต้องหาทั้งหมด สารภาพว่า ได้ร่วมกันติดต่อซื้อยาเสพติดเฮโลอีน มาจากเมืองท่าแขก สปป.ลาว ในราคากิโลกรัมละประมาณ 1 ล้านบาท เพื่อส่งต่อไปขาย ที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ซึ่งจะได้ค่าจ้างครั้งละประมาณ 1 ล้านบาท ทำมาแล้ว 4 ครั้ง ซึ่งผู้ว่าจ้างจะโอนเงินให้หลังทำงานเสร็จ จนพลาดถูกจับกุม ซึ่งตำรวจจะได้สอบสวนขยายผลติดตามจับกุมผู้ร่วมขบวนการมาดำเนินคดีตามกฎหมาย ต่อไป ส่วนมูลค่าของกลางเมื่อส่งขายปลายทาง คิดเป็นเงินไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท และถือเป็นการจับกุมเฮโลอีนครั้งแรกในรอบหลาย 10 ปี ในพื้นที่ จ.นครพนม.
ບໍ່ໜ້າເຊື່ອເລີຍເປັນຫຍັງເຈົ້າໜ້າທີ່ຫລືຂບວນການປາບປາມ
ຢາເສບຕິດຂອງລາວຈຶ່ງບໍ່ສາມາດຈັບກຸມພວກນີ້ໄດ້? ເຫັນ
ຂ່າວອອກມາຄັ້ງໃດກໍແມ່ນເຈົ້າໜ້າທີ່ໄທມີຜົນງານນີ້ທຸກເທື່ອ
ທັ່ງໆທີ່ຢາເສບຕິດເຫລົ່ານັ້ນທາແຕ່ຝັ່ງລາວ. ຫລືວ່າເປັນສິນ
ຄ້າຂອງຜູ້ມີອິດທິພົນໃນເມືອງລາວເປັນປູ້ສົ່ງຂ້າມເຂົ້າໄທ ຖ້າ
ບໍ່ເປັນດັ່ງນີ້ຄິດວ່າຄົງຈະບໍ່ລອດສາຍຫູສາຍຕາຂອງເຈົ້າໜ້າ
ທີ່ຂອງ ສປປລ ໄດ້ດອກ ເພາະເຈົ້າໜ້າທີ່ລາວກໍບໍ່ແມ່ນຂອງ
ຂີ້ໄກ່ ພວກເຂົາກໍມີຄວາມສາມາດບໍ່ໜ້ອຍໜ້າເຈົ້າໜ້າທີ່ໄທ
ດອກ.
ງານນີ້ຄົນລາວຮັບເງີນໄປເຕັມໆ ຄົງຈະມີກິນມີໄຊ້ໄປອີກນານ......!
ມີເງິນຊື້ລົດວິໂກ້ຄັນງາມໆຂີ່ໂຊ ປຸກເຮືອນຫຼັງໃຫຍ່ໆງາມໆຫຼູຫຼາຢູ່ຢ່າງສະບາຍສະບາຍ55555555
ພັກລັດໄດ້ໜ້າໄດ້ຕາ ອວດອ້າງຊາວໂລກອວດອ້າງລາວນອກ ວ່າດຽວນີ້ປຊຊລາວມີວິຖີຊີວິດການເປັນຢູ່
ດີຂື້ນຫຼາຍແລ້ວຍ້ອນດຸໝັ່ນຂະຫຍັນພຽນຫາຢູ່ຫາກິນ !ສະໝຸນໝາພານ ເສີມເຂົ້າໄປອີກ !ເຊີນຕາແຕກ
ພວກໝາລາວນອກມາເບີ່ງແດ່ ດຽວນີ້ປຊຊລາວເຂົາຮັ່ງເຂົາມີກ່ອນປີ1975ອີກຮ້ອຍເທົ້າພັນເທົ້າ ວ່າຊັ້ນເດ້!
ໂອ້ !ບາດໃດແທ້ມັນລະເຮັດກັນແບບນີ້ ສົມພໍຫັ້ນແຫຼ້ວ ! ໂອ້ຍ...ຖ້ຽວລະພັນລ້ານກູກາບໍ່ເອົາດອກເດີ້ !
ຮູ້ບໍ່... ຄະດີແບບນີ້ຢູ່ເມືອງໄທຕິດຄຸກບໍ່ດົນດອກ ຢ່າງນານສຸດຕິດຄຸກກາແຄ່7ມື້ ມື້ທີ8ເຂົ້າແດນປະຫານ !!!!5555ເອົາໂລດເດີ້...ໂຖ້ຍ