เจ้าหน้าที่ลาวรุดหารือไทยหาแนวทางนำช้างป่ากลับถิ่นฐาน
นาย คำพัน นันทะวง อธิบดีกรมคุ้มครองทรัพยากรป่าไม้สปป.ลาว พร้อมด้วยนายสีสมพอน สุทธิจัก
หัวหน้าแขวงคุ้มครองทรัพยากรป่าไม้ แขวงคำม่วน สปป.ลาว และคณะ เดินทางมาตรวจสอบติดตามนำช้างป่าของลาวที่หลงเข้ามาในจ.นครพนม กลับคืนสู่ถิ่นฐาน
นครพนม - เจ้าหน้าที่รัฐบาลลาวรุดตรวจสอบช้างป่าหนีเข้าไทย ล่าสุดพบอยู่บริเวณรอยต่อ อ.บึงโขลงหลง จ.บึงกาฬ เผยพอใจเจ้าหน้าที่ไทยให้การดูแลความปลอดภัย พร้อมหาวิธีต้อนช้างข้ามแม่น้ำโขงกลับสู่ถิ่นฐานด้วยวิธีธรรมชาติ วันนี้ (14 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าความคืบหน้ากรณีช้างป่าจากสาธารณรัฐ ประชาธิปไตยประชาชนลาวหนีข้ามแม่น้ำโขงมาฝั่งไทย และอาศัยหากินที่ อ.บ้านแพง จ.นครพนม โดยเจ้าหน้าที่ด่านตรวจสัตว์ป่านครพนม พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สำนักบริหารอนุรักษ์ที่ 10 อุดรธานี ฝ่ายปกครอง ได้จัดเจ้าหน้าที่ชุดติดตามความเคลื่อนไหว เพื่อป้องกันไม่ให้กลุ่มผู้ไม่หวังดีล่าเอางา หรือชาวบ้านทำร้าย ซึ่งขณะนี้ได้พบว่าช้างได้เข้าไปอยู่ในป่าเขตบ้านเหล่าหลวง ต.ดงบัง อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ รอยต่อ อ.บ้านแพง ล่าสุด นายคำพัน นันทะวง อธิบดีกรมคุ้มครองทรัพยากรป่าไม้ สปป.ลาว นายสีสมพอน สุทธิจัก หัวหน้าแขวงคุ้มครองทรัพยากรป่าไม้ แขวงคำม่วน และคณะได้เดินทางลงพื้นที่ติดตามความเป็นอยู่ของช้างป่า มีนายสว่าง เฟื่องกระแส ผู้อำนวยการสำนักบริหารอนุรักษ์ที่ 10 อุดรธานี พร้อมนายกฤษฎา สาครวงศ์ หัวหน้าด่านตรวจสัตว์ป่านครพนม และร่วมตรวจสอบ ทั้งนี้ ทางการลาววางแนวทางช่วยเหลือช้างกลับคืนสู่ป่าธรรมชาติ ด้วยวิธีการต้อนให้ลงแม่น้ำโขงข้ามกลับไป โดยระบุว่าเป็นช้างป่าที่อาศัยอยู่ในอุทยานภูงู เมืองปากกระดิ่ง กับเมืองหินบูน แขวงบอลิคำไซ ตรงข้าม อ.บ้านแพง ซึ่งทางการลาวต้องการให้ช้างกลับไปอยู่ร่วมกับครอบครัวอีก 4 ตัว นายคำพันกล่าวว่า รู้สึกดีใจมากที่ได้เดินทางมาติดตามความเป็นอยู่ของช้างป่า ในฐานะตัวแทนรัฐบาลลาวได้หารือกับเจ้าหน้าที่ไทย เพื่อหาแนวทางนำช้างกลับคืนถิ่น ซึ่งช้างป่าตัวนี้เป็น 1 ใน 5 ตัวที่อาศัยอยู่ในภูงู และเป็นหัวหน้าโขลง ทุกปีจะออกมาหาอาหารตามแนวแม่น้ำโขง แต่ปีนี้บังเอิญข้ามมาถึงฝั่งไทย อาจหลงทางหรือเดินตามเส้นทางที่มีอาหาร ที่สำคัญต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยที่ได้ดูแลความปลอดภัยของช้าง ซึ่งเท่าที่ดูพบว่ายังมีสุขภาพแข็งแรง ส่วนแผลบาดเจ็บบริเวณงวงนั้นเป็นแผลเก่าที่เคยมีอยู่แล้ว เป็นอุบัติเหตุจากการหากินอาหารตามธรรมชาติ “อย่างไรก็ตามจะได้ประสานฝ่ายไทยเพื่อทำความเข้าใจในการดูแล ทั้งสองฝ่าย ซึ่งฝ่ายไทยยินดีให้ความร่วมมือ ปัญหาของช้างหนีข้ามมานั้นอาจเป็นเรื่องของธรรมชาติ หรือหาแหล่งอาหาร แต่เรื่องการไล่ล่านั้นไม่มี เพราะทางการมีกฎหมายในการปราบปรามการล่าช้างหรือสัตว์ป่าเช่นกัน”
ຕົວະອີກແລ້ວ ພະນັກງານພັກລັດ ສປປລາວ, ຖ້າບໍ່ມີຄົນຕາມລ້າມັນ, ມັນຈະໜີຕາຍ
ລອຍຂ້າມຂອງໄປເຮັດຫຍັງ?