เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าชาวประมงหาปลาในแม่น้ำโขงแล้วไปพบพระพุทธรูป โบราณขนาดใหญ่ในแม่น้ำโขง ริมตลิ่งบ้านร่มเย็น เมืองต้นผึ้ง แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว อยู่ฝั่งตรงข้ามกับบ้านสบกก ต.บ้านแซว อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ทำให้ทางคณะกรรมการหมู่บ้านร่มเย็ยและทางการลาว ได้นำเครื่องจักรและกำลังทำการเก็บกู้มาตั้งแต่วันที่ 3 มิถุนายน ที่ผ่านมา ซึ่งในเบื้องต้นการกู้องค์พระขึ้นจากแม่น้ำโขงเป็นได้วยความลำบากเพราะกระแส น้ำไหลเชี่ยว ประกอบกับองค์พระผังอยู่ใต้หินทรายลึก จึงทำให้ไม่สามารถกู้ออกมาได้
ล่าสุด ทางการลาวได้จัดส่งกำลังคนและเครื่องที่ทันสมัยเช่นเครื่องตรวจหาวัตถุมา ช่วยในการค้นหาและนำองค์พระออกจากน้ำโขงให้ โดยเฉพาะรถแบ็คโฮนำเข้าทำการขุดโดบรอบบริเวณซึ่งมีการพบเบื้องต้นเพียงส่วน บ่าขององค์พระเท่านั้น จนสามารถนำขึ้นมาไว้บนบกได้ โดยพบว่าเป็นพระปูนปั้นขนาดใหญ่หน้าตักกว้างไม่ต่ำกว่า 6-7 เมตร ภายในเป็นดินกี่ แต่ด้วยการที่มีอายุเก่าแก่แช่อยู่ในน้ำนาน ประกอบกับการไม่พร้อมของเครื่องมือในการนำเอาพระออกทำให้องค์พระแตกแยกชิ้น ส่วนออกเป็นหลายส่วน
อย่างไรก็ตาม ยังคงเห็นสภาพว่าเป็นส่วนเศียร หน้าอก หัวเขาหรือแขน ซึ่งทันทีที่มีการนำองค์พระขึ้นมาจากน้ำได้ทำให้มีชาวบ้านที่เลื่อมใสในพระ พุทธศาสนานำดอกไม้ธูปเทียนมากราบไหว้เพื่อขอพรเป็นสิรมงคลแก่ตนเองและครอบ ครัวเป็นจำนวนมาก เมื่อเจ้าหน้าที่ได้นำเครื่องตรวจหาวัตถุมาช่วยในการค้นหาด้วยทำให้พบวัตถุ มงคลเพิ่มเติมอีกเป็นจำนวนมาก โดยส่วนใหญ่จะเป็นพระรูปแบบต่างๆ โดยเฉพาะพระปกโพธิ์ที่พบมากในสมัยเชียงแสน รวมทั้งที่เป็นส่วนเปรวรัศมีของพระพุทธนวล้านตื้อ ซึ่งเป็นพระที่มีชื่อเสียงสมัยเชียงแสน และประเทศไทยก็เคยมีเปลวรัศมีลักษณะนี้อยู่ชิ้นหนึ่งแต่มีขนาดใหญ่กว่า และเคยมีการออกค้นหาองค์พระในแม่น้ำโขงบริเวณหน้าที่ว่าการอผงเชียงแสน นานกว่า 1 สัปดาห์แต่ก็ไม่พบตัวองค์พระ ล่าสุด ทางทางของสปป.ลาวได้จัดเจ้าหน้าที่กระทรวงวัฒนธรรมเข้ามาตรวจสอบเก็บบันทึก หลักฐานที่ค้นพบทุกชิ้นเพื่อนำไปเปรียบเทียบพระเหล่านี้เป็นพระอะไรกันแน่ และสร้างขึ้นเมื่อสมัยใด
ดร.ทองฤทธิ์ หลวงโคตร ผู้เชี่ยวชาญประจำกองโบราณคดีลาว กล่าวว่า ในการตรวจค้นพบเบื้องต้นยังได้ชิ้นส่วนขององค์พระไม่ครบ อย่างยิ่งส่วนที่เป็นฐานรากองค์ซึ่งจะระบุได้ว่าเป็นสมัยใด จึงบอกไม่ได้ว่าเป็นพระอะไรหรือสร้างขึ้นสมัยใด ซึ่งจะต้องนำชิ้นส่วนต่าง ๆ ทั้งพระประธาน และพระขนาดเล็กหรือวัตถุมงคลไปประกอบ ลวดลายแต่บริเวณนี้เป็นเมืองสุวรรณโคมคำหรือเมืองเชียงแสนมาก่อน ซึ่งมีอายุระหว่าง 400-800 ปี ก็น่าจะอยู่สมัยนั้น
ดร.ทองฤทธิ์ กล่าวด้วยวว่าตอนนี้ทางการลาวได้ให้นำสิ่งที่มีค้นพบได้นำไปเก็บรักษาไว้ที่ แขวงบ่อแก้วไว้ก่อน เพื่อสะดวกต่อการตรวจสอบ อีกทั้งป้องกันการถูกขโมย หากมีการตรวจพิสูจน์ได้ว่าเป็นพระอะไรและสร้างขึ้นสมัยไหน ก็จะมีการปรึกษาหารือกันหลายฝ่ายในระดับบริหารของประเทศ ซึ่งอาจต้องมีการบูรณะประกอบองค์พระขึ้นมาใหม่หรือมีการจัดสร้างเป็นรูปแบบ พิพิธภันณ์ โดยอาจจะนำมาไว้ที่บริเวณบ้านร่มเย็น ซึ่งเป็นจุดที่มีการค้นพบ เพื่อให้ประชาชนทั้งชาวลาวหรือชาวไทยมากราบไหวเป็นสิรมงคล และศึกษาทางประวัติศาสตร์ ซึ่งการขุดค้นพบครั้งนั้นจะบ่งบอกประวัติศาสตร์ในอดีตได้เป็นอย่างดี
ສື່ລາວບໍ່ໄດ້ນຳສະເໜີຈ້ອຍ
ແຕ່ຖ້າວ່າຕັ້ງໃຈຖ້າເບິ່ງອີ່ຫຼີກໍ່ອາດໄດ້ເບິ່ງ ແຕ່ກິນເວລາເປັນອາທິດ ຫຼື ຫຼາຍກວ່ານັ້ນ
ຖ້າຫົວຫນ້າສັ່ງ ສະມາຊິກພັກກະພັກສັ່ງຈັ່ງໄປສືລາວຫວາຢາກໃຫ້ວ່ອງໄວທັນເຫດການບໍມັນມີທາງ ຂ່າວໆຫນຶ່ງກ່ອນຊິເອົາລົງເອົາອອກຕ້ອງໄດ້່ຜ່ານການກັ່ນຕອງຈາກບັນນາທິການຫົວຫນ້າຫລາຍໆຂັ້ນຕອນ ຍ້ອນຢ້ານມີຜົນກະທົບຕໍ່ລະບົບ ຊ້ານເພີ່ນກະເອົາຄົນບໍລິຫານເສດຖະກິດມາບໍລິຫານປະເທດແລ້ວ ອັນນີ້ຈົບປະຖົມມັດທະຍົມກະຍັງໄດ້ເປັນຜູ້ຫລັກຜູ້ໃຫຍ່ໃນບ້ານເມືອງ ຕາມຄວາມເປັນຈິງບ້ານເມືອງຫນ້າຈະພັດທະນາໄປໄດ້ໄກກ່ອນນີ້,ສັ່ງເກດງ່າຍໆການບໍລິການຕ່າງໆຕາມຊາຍແດນລະຫວ່າງລາວກັບໄທຍມັນເຂີນກັນຍ້ອນຫຍັງຍ້ອນຄວາມສະລາດຂອງຜູ້ບໍລິຫານຫ້ານລະທ່ານ.