สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานจากกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา เมื่อวันที่ 9 ส.ค.ว่า รัฐบาลกัมพูชาได้เคลื่อนยานยนต์หุ้มเกราะ และทหารในกรุงพนมเปญ เพื่อป้องกันความรุนแรงที่อาจเกิดขึ้น หากมีการชุมนุมประท้วงใหญ่ หลังการเลือกตั้งเดินหน้าต่อไป โดยการเคลื่อนย้ายยานยนต์หุ้มเกราะตามท้องถนนในกรุงพนมเปญ ที่แทบไม่เคยเห็นเกิดขึ้นบ่อยนัก มีขึ้นหลังจากกลุ่มสิทธิมนุษยชน ระบุว่า มีกองกำลังรักษาความมั่นคงหลายร้อยนาย ตรึงกำลังอยู่ในเมืองหลวง ขณะที่ สื่อท้องถิ่น ก็ถ่ายภาพให้เห็นยานยนต์หุ้มเกราะจำนวนมากพร้อมอาวุธหนักในบริเวณชานกรุง พนมเปญ
เคง ติโต โฆษกสารวัตรทหาร ให้สัมภาษณ์ว่า การประจำการทหารและยานยนต์หุ้มเกราะดังกล่าว ไม่ได้หมายความว่าเพื่อข่มขู่คุกคามประชาชน เป็นเพียงมาตรการสร้างความมั่นใจ เพื่อป้องกันสถานการณ์เลวร้ายที่อาจเกิดขึ้น พร้อมปฏิเสธจำนวนของทหารที่ส่งเข้าประจำการด้วย
ติโต กล่าวอีกว่า การเคลื่อนไหวดังกล่าว เพื่อรักษาความมั่นคงและความสงบเรียบร้อยของประชาชน และกองกำลังติดอาวุธ จะยังคงอยู่ในเมือง จนกว่าจะมีการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่เสร็จ เพื่อยุติภาวะชะงักงันทางการเมือง ซึ่งเกาะกุมประเทศ หลังเสร็จสิ้นการเลือกตั้งเมื่อเดือนที่แล้ว ที่ยังเต็มไปด้วยปัญหา
พรรคประชาชนกัมพูชา หรือซีพีพี ของนายกรัฐมนตรีฮุน เซน ที่เป็นรัฐบาลมาอย่างยาวนาน อ้างชัยชนะในการเลือกตั้งครั้งนี้ ซึ่งเป็นการเลือกตั้งที่แข่งขันดุเดือดที่สุดอีกครั้งหนึ่งในประเทศ แต่พรรคกู้ชาติกัมพูชา หรือซีเอ็นอาร์พี ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านของนายสม รังสี กล่าวว่า พรรคซีเอ็นอาร์พี คือผู้ชนะที่แท้จริง พร้อมปฏิเสธผลการเลือกตั้งของพรรคซีพีพี ด้วยเหตุผลว่ามีการทำผิดกฎหมายการเลือกตั้งอย่างแพร่หลาย
นายสม รังสี ให้คำมั่นว่าจะจัดการประท้วงครั้งใหญ่ทั่วประเทศ จนกว่าจะมีการตรวจสอบจากหน่วยงานอิสระที่มีสหประชาชาติ หรือยูเอ็น เข้าร่วมด้วย