ເປັນຫຍັງສາຍການບິນລາວ,ຮັບເອົາຄົນຕ່າງຊາດ ເປັນນັກບິນ ?
ขณะที่ ผู้สื่อข่าวจังหวัดอุบลราชธานีรายงานว่า อุบัติเหตุเครื่องบินตกดังกล่าว น่าจะเป็นผลพวงจากอิทธิพลของพายุไต้ฝุ่น นารี ที่ทำให้มีฝนตกในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี รวมไปถึงเมืองปากเซ แขวงจำปาสัก ทำให้สภาพอากาศปิด ทัศนวิสัยไม่ดี โดยขณะเกิดเหตุ ระหว่างเครื่องบินกำลังจะนำเครื่องลง ทางหอบังคับการบินได้แจ้งเตือนนักบินไม่ให้นำเครื่องลงเนื่องจากสภาพอากาศ ปิด มีฝนตกเนื่อง แต่นักบินซึ่งเป็นชาวกัมพูชา ได้พยายามจะนำเครื่องลง และเมื่อเครื่องกำลังจะแตะพื้นรันเวย์นักบินมองไม่เห็น จึงได้ดึงเครื่องขึ้นทำให้เครื่องบินลำดังกล่าวเสียการทรงตัว ตกลงกลางแม่น้ำโขงห่างจากสนามบินนานาชาติเมืองปากเซประมาณ 3ก.ม. ทำให้มีผู้โดยสารพร้อมลูกเรือและนักบินชาวเขมรเสียชีวิตยกลำ 42 คน โดยจุดเกิดเหตุดังกล่าว อยู่ห่างจากช่องเม็ก อ.สิรินธร จ.อุบลราชธานี ประมาณ 40 ก.ม.
นายมาก แซม อัล เลขาธิการของการบินพลเรือนของกัมพูชา ด้านความปลอดภัยและความมั่นคง ออกมาเผยว่า นายยัง ซาน นักบินชาวกัมพูชาของสายการบินลาว วัย 56 ปี ผู้ควบคุมเครื่องบินจากเวียงจันทน์ไปปากเซ ต้องพบกับสภาพอากาศที่เลวร้ายมากขณะขับเครื่องบิน
“เขาได้เซ็นสัญญากับสายการบินลาวเป็นระยะเวลา 3 ปี โดยได้ประจำการอยู่ที่ประเทศลาวมาโดยตลอด”
สำหรับนายซาน เคยประจำอยู่กองทัพอากาศในช่วงปี พ.ศ.2533 เคยได้รับการอบรมจากรัสเซียขณะประจำการ และเคยไปอบรมที่ฝรั่งเศสอย่างต่อเนื่อง โดยเจ้าหน้าที่ของประเทศลาวออกมาให้ข้อมูลว่า นักบินชาวกัมพูชาต้องเผชิญกับสภาพอากาศที่เลวร้าย
“ขณะที่เกิดลมกระโชก เจ้าหน้าที่ควบคุมทางอากาศแจ้งต่อนายซาน ให้เปลี่ยนแผนการลงจอด โดยนายซาน ได้ปฏิบัติตามคำสั่ง แต่เครื่องบินที่เผชิญกับพายุอย่างหนัก ไม่สามารถปฏิบัติตามได้”
ด้านครอบครัวของนายซาน ก่อนเกิดเหตุ ภรรยาของนายซานได้มาส่งเขาขึ้นเครื่องที่สนามบินลาว ซึ่งยังไม่ได้ออกมาพูดถึงการสูญเสียครั้งนี้ สำหรับหน่วยกู้ภัยได้ทำการค้นหาร่างผู้โดยสารตั้งแต่เมื่อวาน ซึ่งเจอเพียงบางส่วนเท่านั้น หลังเครื่องบินของสายการบินลาวแอร์ไลน์ จมหายไปในแม่น้ำ
ทั้งนี้ จำนวนผู้โดยสารที่มีการเปิดเผยจากสายการบินลาว ล่าสุด คือ มีชาวลาว 16 คน, ชาวฝรั่งเศส 7 คน, ชาวออสเตรเลีย 6 คน และชาวไทย 5 คน, ชาวเกาหลีใต้ 3 คน ชาวเวียดนาม 3 คน และมาเลเซีย สหรัฐฯ จีน ไตหวัน อย่างละ 1 คน รวมถึงนักบินชาวกัมพูชา อีก 1 คน
โดยผู้โดยสารชาวออสเตรเลีย จำนวน 2 คน คือ นายมิคาเอล เครจตัน อายุ 42 ปี ที่เดินทางไปเที่ยวพร้อมพ่อ อายุ 71 ปี ปกติทำงานประจำในกัมพูชามา 2 ปี ในหน่วยกวาดล้างระเบิดแห่งชาติของเจนีวา โดยผู้เป็นเพื่อนสนิทของนายมิคาเอล ออกมาเผยว่านายมิคาเอลเป็นเพื่อนที่ดี และความมีเพื่อนจำนวนมากที่กัมพูชา
ผู้ผลิตเครื่องบิน ATR ในยุโรป ซึ่งเป็นผู้ส่งเครื่องบินลำดังกล่าวให้กับลาวแอร์ไลน์ เผยว่า “เพิ่งมีการส่งมอบเครื่องบินใบพัด ซึ่งเป็นเครื่องใหม่ เมื่อเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา”
นายลอง ชะเฮง หัวหน้าหน่วยความมั่นคงและความปลอดภัย ออกมาเผยว่า เจ้าหน้าที่กัมพูชากำลังเตรียมตัวบินไป สปป.ลาว เพื่อช่วยสืบสวนสาเหตุของเครื่องบินตกที่เกิดขึ้น ซึ่งเขาได้กล่าวว่า “เราจะทราบรายละเอียดเพิ่มเติมหลังจากนั้น”
สำหรับ สปป.ลาว ประเทศกำลังพัฒนา มีสถิติว่าเคยเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงทางอากาศมาแล้ว 29 ครั้ง ตั้งแต่ปี พ.ศ.2493 ซึ่งล้วนแต่มีสาเหตุมาจากระบบความปลอดภัยและการสื่อสารทางด้านการบิน โดยก่อนหน้านี้ ในปี พ.ศ.2497 เคยเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงทางการบินมาแล้ว โดยผู้โดยสารที่เดินทางมากับสายการบินเวียดนาม 47 คน เสียชีวิตจากการพุ่งชนของเครื่องบิน บริเวณปากเซ เช่นเดียวกัน.