รัฐบาลลาวประกาศสงครามพวกค้าไม้เถื่อน ส่งทีมพิเศษตรวจรถขนไม้ทุกคันที่ขนไม้เข้าโรงเลื่อย พร้อมออกกฎเข้ม ให้การส่งออกไม้ต้องผ่านด่านนานาชาติเท่านั้น ระบุผู้ส่งออก ต้องแสดงสัญญาการซื้อไม้ของบริษัทต่างชาติและเงินค่าไม้ต้องส่งผ่านธนาคารใน ประเทศลาว หนังสือพิมพ์เวียงจันทน์ไทม์ส รายงานว่า ปฏิบัติการจัดการกับพวกค้าไม้เถื่อนเป็นคำสั่งจากนายพูเพ็ด คำพูนวง รัฐมนตรีกระทรวงการคลังของลาวที่ต้องการให้รัฐบาลได้รับ ภาษีจากการค้าไม้อย่างเต็มที่ไม่ให้มีการรั่วไหลจนมีผลกระทบต่อการจัดเก็บภาษีและการคลังของรัฐบาล นายพูเพ็ด ได้ขอให้รัฐบาลออกระเบียบในการตรวจสอบการค้าไม้อย่างเข้มงวดยิ่งขึ้น โดยสั่งการให้หน่วยงานรัฐที่ดูแลสินทรัพย์ของรัฐ มีหน้าที่ร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการค้าไม้เพื่อให้มีการตรวจสอบ รถขนไม้ทุกคันที่ขนไม้เข้าโรงเลื่อยภายในประเทศเพื่อให้มั่นใจว่ามีการเสีย ภาษีอย่างถูกต้อง นอกจากนี้กระทรวงการคลังยังได้ออกระเบียบให้การส่งออกไม้ทำได้เฉพาะด่านนานา ชาติ โดยผู้ส่งออกจะต้องแสดงสัญญาซื้อขายจากผู้ซื้อต่างประเทศ และระบบการจ่ายเงินค่าไม้ส่งออกจะต้องทำผ่านธนาคารในประเทศลาวเท่านั้น โดยในท้ายคำสั่งระบุว่า ผู้ส่งออกไม้ที่ฝ่าฝืนคำสั่งจะไม่ได้รับอนุญาตให้ส่งออกไม้แผ่นและไม้แปรรูป ไปต่างประเทศในทันที ทั้งนี้มีรายงานขององค์กรอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ (เอฟเอโอ) ว่าประเทศลาวมีโรงเลื่อยในประเทศ 161 แห่ง มีโรงงานแปรรูปไม้ 11 โรง มีโรงงานทำเฟอร์นิเจอร์ 954 แห่ง แต่ยังมีการส่งออกไม้จำนวนมาก เนื่องจากบริษัทแปรรูปไม้หลายแห่งในประเทศลาวที่มีความเชื่อมต่อกับ อุตสาหกรรมแปรรูปไม้ในประเทศเพื่อนบ้านและเป็นต้นเหตุของการหลีกเลี่ยงภาษี ในการค้าไม้ การส่งไม้ออกอย่างต่อเนื่องทำให้ประเทศลาวซึ่งครั้งหนึ่งเป็นประเทศที่มีผืน ป่าใหญ่ที่สุดในโลก โดยในปี 2483 มีรายงานว่าพื้นที่ 70%ของประเทศลาวเป็นผืนดินที่มีต้นไม้ปกคลุมคิดเป็นพื้นที่รวมถึง 17 ล้านเฮกตาร์ (ประมาณ 106.25 ล้านไร่) แต่ปรากฏว่าในปี 2553 มีพื้นที่ป่าเหลือเพียง 40 %ของพื้นที่ประเทศ โดยเชื่อว่าต้นเหตุประการหนึ่งที่ทำให้ผืนป่าหมดไปอย่างรวดเร็วในประเทศลาว คือการทำไม้เถื่อน ปัญหาจากการทำไม้เถื่อนทำให้รัฐบาลลาวสูญเสียทั้งพื้นที่ป่าและรายได้ภาษีทำ ให้ก่อนหน้านี้รัฐบาลลาวได้ออกนโยบายให้มีการเพิ่มมูลค่าไม้ก่อนที่จะส่งออก โดยพยายามไม่อนุญาตให้มีการส่งออกไม้ที่ยังไม่แปรรูปไปยังต่างประเทศ แต่ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร ธนาคารโลกได้รายงานตั้งแต่ปลายปี 2555 ว่านโยบายของลาวในการเพิ่มมูลค่าส่งออกไม้ไม่ประสบความสำเร็จในทางปฏิบัติ เนื่องจากบริษัทแปรรูปไม้ในประเทศลาว ส่วนใหญ่เป็นเครือข่ายของบริษัทแปรรูปไม้จากประเทศเพื่อนบ้านที่ต้องการไม้ เพื่อป้อนโรงงานแปรรูปของตัวเอง รายงานของธนาคารโลกระบุว่า บริษัทไม้จากต่างประเทศใช้วิธีให้เงินทุนแก่บริษัทในประเทศลาวเพื่อใช้ในการ ขอสัมปทานผลิตไม้ซุงในประเทศลาวเท่านั้น ทำให้มีการส่งออกไม้ที่ยังไม่แปรรูปออกนอกประเทศจำนวนมากแม้รัฐบาลลาวจะ ประกาศนโยบายเพิ่มมูลค่าไม้ส่งออกมาหลายปีแล้ว ธนาคารโลกประเมินว่ามีการส่งออกไม้มูลค่า 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 6,000 ล้านบาท) ในแต่ละปีโดยมีไม้ที่แปรรูปแล้วส่งออกมีมูลค่าน้อยกว่า 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯต่อปี ปัญหาดังกล่าวทำให้รัฐมนตรีกระทรวงการคลังจะต้องออกมาตรการสกัดการส่งไม้ ออกอย่างเด็ดขาดทั้งการตรวจสอบไม้ก่อนเข้าโรงเลื่อยและการกำหนดให้มีการส่ง ออกไม้ที่ด่านนานาชาติเท่านั้น
ນີ້ແມ່ນລັກຂົນໄມ້ສົ່ງໄປປະເທດໄທຍ