กองทัพอากาศจีนประกาศ "เตรียมพร้อมสูงสุด" พร้อมส่งเครื่องบินลาดตระเวน
เข้าสู่น่านฟ้า ที่จีนกำหนดให้เป็นเขตป้องกันทางอากาศแห่งใหม่
โฆษกกองทัพปลดปล่อย ประชาชนจีน "นายเฉิน เจี้ยนเก๋อ" แถลงผ่านทางเว็บไซต์ของกระทรวงกลาโหมว่า จีนยังอยู่ในสถานะเตรียมพร้อมสูงสุด และจะดำเนิน มาตรการต่าง
เพื่อรับมือกับภัยคุกคามทางอากาศต่างๆ ใน "น่านฟ้า" ของประเทศ และว่า ก่อนหน้านี้ กองทัพอากาศได้ส่งเครื่องบินรบออกไปลาดตระเวนแล้วเป็นการเตือนเบื้องต้น
ท่าทีดังกล่าวสอดคล้องกับรายงานก่อนหน้านี้ของกระทรวงกลาโหม ที่ระบุว่า จีนได้เริ่มส่งเครื่องบินลาดตระเวนออกไปตั้งแต่เมื่อวันที่ 23 พ.ย.ที่ผ่านมา ในวันเดียวกับที่รัฐบาลจีนออกมาประกาศน่านฟ้าใหม่
นายเฉิน ยืนยันว่า การลาดตระเวนข้างต้น เป็นแค่การดำเนินมาตรการป้องกัน และสอดคล้องกับมาตรฐานสากล
ขณะที่สำนักข่าวเกียวโดของญี่ปุ่น รายงานว่า นักการทูตผู้คร่ำหวอดของจีน "นายถัง เจี่ยซวน" ได้ให้คำแนะนำต่อสภาชิกสภานิติบัญญัติญี่ปุ่น ทั้งเก่า และใหม่ว่าทั้ง 2 ฝ่ายควรจัดตั้งกลไกใหม่
ที่มีเป้าหมายเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุใดๆ ขึ้นมาระหว่างกองทัพของ 2 ประเทศ
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 29 พ.ย. ว่าพันเอก สตีฟ วอร์เรน โฆษกกระทรวงกลาโหมสหรัฐ ( เพนตากอน ) แถลงว่า
กองทัพอากาศสหรัฐประจำภูมิภาคแปซิฟิกจะยังคงปฏิบัติภารกิจฝึกซ้อมบินในเขต "น่านฟ้าสากล" บริเวณมหาสมุทรแปซิฟิกตามปกติต่อไป ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวรวมถึงบริเวณที่จีนประกาศให้เป็น "เขตหวงห้าม" ด้วย
ทางการจีนประกาศเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว กำหนดให้น่านฟ้าส่วนใหญ่ในทะเลจีนตะวันออก เหนือหมู่เกาะเตียวหยู หรือที่ชาวญี่ปุ่นเรียกว่า เซนกากุ ซึ่งเป็นข้อพิพาทเรื้อรังระหว่างทั้งสองประเทศ
ให้เป็น "เขตพิสูจน์ฝ่ายการป้องกันภัยทางอากาศ" ( เอดีไอแซด ) ที่อากาศยานทุกประเภทต้องรับการพิสูจน์ทราบจากปักกิ่งก่อนบินผ่าน มิเช่นนั้นอาจมีการโต้ตอบด้วยกำลังทางทหาร
ท่าทีของเพนตากอนมีขึ้นหลังเครื่องบินทิ้งระเบิดทางยุทธศาสตร์แบบ บี-52 จำนวน 2 ลำของกองทัพอากาศสหรัฐขอ "ท้าทาย" ด้วยการบินผ่านเอดีไอแซดของจีนเมื่อวันพุธ
โดยไม่แจ้งให้อีกฝ่ายทราบล่วงหน้า ซึ่งหลังจากนั้นเกาหลีใต้และญี่ปุ่นได้ปฏิบัติตามด้วย
ในเวลาไล่เลี่ยกัน พันเอก เฉิน จิ๋นเคอะ โฆษกกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน ( พีแอลเอ ) แถลงถึงการส่งเครื่องบินขับไล่ขึ้นบินสกัดเครื่องบินลาดตระเวนของสหรัฐ 2 ลำ
และเครื่องบินขับไล่ของญี่ปุ่น 10 ลำ รวมถึงเครื่องบินแบบ เอฟ-15 ที่บินรุกล้ำเข้ามาในเขตน่าฟ้าหวงห้ามของปักกิ่ง