นักศึกษาลาวไปศึกษาต่อต่างประเทศเพิ่มขึ้นทุกปี การสำรวจอย่างเป็นทางการครั้งล่าสุด ได้พบว่า เวียดนามเป็นปลายทางยอดนิยมอันดับ 1 ทั้งที่ไปเรียนด้วยทุนรัฐบาลเวียดนาม และด้วยทุนส่วนตัว รองลงมาเป็นประเทศจีน กระทรวงศึกษาธิการและกีฬากล่าวว่า การบริหารจัดการเรื่องนี้มีความท้าทายมากขึ้น ผลการสำรวจโดยกรมกิจการนักศึกษา แม้ว่าจะยังได้ตัวเลขไม่ครบถ้วน แต่ก็แสดงให้เห็นว่าในปี 2556 มีนักศึกษาลาวศึกษาอยู่ในต่างประเทศ 3,010 คน เป็นหญิง 994 คน ใน 26 ประเทศ ในนั้นอยู่ในเวียดนาม 1,944 คน จีน 589 ไทย 231 ญี่ปุ่น 47 รองลงไปเป็นออสเตรเลีย การไปศึกษาต่อมีทั้งไปด้วยเงินทุนอันเป็นความตกลงระหว่างรัฐบาลต่อ รัฐบาล หรือรัฐบาลกับแขวง (จังหวัด) หรือโครงการขององค์การระหว่างประเทศกับสถาบันการศึกษา ทุนบริษัทเอกชนและทุนส่วนตัว “ในระยะหลังมีนักศึกษาไปเรียนต่อต่างประเทศด้วยทุนของตัวเองเพิ่ม ขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งไปศึกษาต่อในสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม และสาธารณรัฐประชาชนจีน” สำนักข่าวสารปะเทดลาว อ้างคำกล่าวของ ศ.ดร.คำลือซา นวนสะหวัน อธิบดีกรมกิจกรนักศึกษา ตามรายงานฉบับเดียวกันนี้ ในปี 2555 นักศึกษาที่ไปเรียนในเวียดนามด้วยทุนส่วนตัวมีจำนวนเพียง 273 คน แต่เมื่อปีที่แล้วเพิ่มขึ้นเป็น 620 คน สำหรับปีการศึกษา 2557 รัฐบาลเวียดนามให้ทุนการศึกษาแก่ลาวทั้งหมด 907 ทุน เป็นทุนระยะยาว (เรียนจนถึงระดับปริญญาเอก) 614 ทุน และทุนระยะสั้น 293 ทุน แบ่งเป็น 3 แขนงคือ การป้องกันชาติและป้องกันความสงบ การเมืองการปกครอง และวิทยาศาสตร์เทคนิค ในระดับปริญญาตรี กระทรวงฯ ได้มอบหมายให้มหาวิทยาลัย จำนวน 5 แห่ง จัดการสอบคัดเลือกเพื่อชิงทุนการศึกษาดังกล่าว โดยคัดเอานักศึกษาชั้นปีที่ 1 มีการกำหนดคุณสมบัติ และมาตรฐานคุณภาพต่างๆ ส่วนระดับปริญญาโท-ปริญญาเอก ปฏิบัติตามการชี้นำของระดับบน และมีการสอบคัดเลือกอย่างเคร่งครัดเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ทุนการศึกษาจากหลายประเทศ รวมทั้งญี่ปุ่น ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ หน่วยงานของประเทศเหล่านั้นดำเนินการจัดสอบคัดเลือก และสัมภาษณ์เอง ปัญหาในขณะนี้ก็คือ การไปศึกษาต่อยังต่างแดนด้วยตัวเองไม่ได้อยู่ภายใต้การดูแลของหน่วยงานใด เฉพาะ และมีความสลับซับซ้อนมากขึ้น หากเป็นประเทศที่ไม่มีสถานทูต หรือสถานกงสุลลาวติดต่อให้การช่วยเหลือเมื่อเกิดปัญหา ศ.ดร.คำลือซากล่าว.
ພວກທ່ານຍັງບໍ່ຮູ້ບໍມັນບໍ່ແມ່ນສົ່ງນັກສຶກສາລາວໃປຮຽນຢູ່ວຽດນາມ
ມັນສົ່ງນັກສຶກສາລາວໃປປະສົມພັນຕ່າງຫາກເພາະວ່າມັນຢາກໃຫ້ລາວເຮົາສາບສູນ
ຕ່າງຫາກເຊື້ອຊາດຕ່າງຫາກ ເຂົ້າໃຈບໍ່ພີ່ນອ້ງເອີຍ
ມັນບໍ່ແມ່ນນັກສຶກສາຄົນລາວ 100%.ແຕ່ແມ່ນພວກຫວຽດທີ່ເກີດໃຫຍ່ຢູ່ລາວເຊັ່ນ
ຫວຽດຊຽງວາງ,ຫວຽດປາກເຊ,ຫວຽດຂົວດິນ ທັງນັ້ນ.ຍ້ອນວ່າພວກນີ້ມັນມີເລືອດຫວຽດ
ແລະ ພາສາຄ່ອງກວ່າຄົນລາວ 100%.ພຽງແຕ່ມັນໄປຮຽນເອົານະໂຍບາຍຈາກແກວເໜືອ
ເພື່ອກັບມາເປັນຕົວແທນ ແລະ ເຮັດວຽກໃຫ້ແກວເໜືອເພື່ອດັບສູນປະຊາຊົນລາວບັນດາ
ເຜົ່າໃຫ້ຫາຍໄປຈາກຜືນແຜ່ນດິນແຫ່ງນີ້.ໃນໂອກາດຕໍ່ໄປເຊື້ອສາຍຂອງ ຜູ້ນຳ ພັກ-ລັດລາວ
ທີ່ບໍ່ມີເຊື້ອຫວຽດປະປົນຢູ່ ຫຼື ມີ ກໍ່ຕາມແມ່ນຈະຖືກກວດລ້າງ ຕລອດທັງຕະກຸນພົມວິຫານ
ທີ່ມີເຊື້ອສາຍແກວ.ເພາະມັນຕົກສະໄໝທີ່ຈະເອົາພວກໂງ່ເຫຼົ່ານີ້ຮັບໄຊ້ເຂົາຕໍ່ໄປອີກແລ້ວ.
ນັກຮຽນຜູ່ມີບັນຫາດ້ານການເງິນບໍ່ມີທາງເລືອກ ເມື່ອມີທຶນໄປຮຽນວຽດນາມກໍ່ຕ້ອງໄດ້ເສັງເອົາ
ໂຊກດີທີ່ເຂົາເສັງບໍ່ຍາກຈຶ່ງໄດ້ມີເງື່ອນໄຂໄປຮຽນທຸກຄົນ. ຂ້ອຍກໍ່ມີພີ່ນ້ອງໄປຮຽນວຽດນາມ
ເຊື້ອລາວສົດໆນີ້ລະບໍ່ມີເຊື້ອວຽດປົນພໍເມັດດອກ, ໃຈແທ້ສອງເອື້ອຍນ້ອງເຂົາກໍ່ຢາກໄປຮຽນ
ປະເທດອື່ນ ຫຼືບໍ່ຊັ້ນກໍ່ຮຽນຢູ່ບ້ານຕົນເອງແຕ່ບໍ່ສາມາດເສັງເຂົ້າວິທະຍາໄລໄດ້ຄືຄົນອື່ນ ອາດຈະ
ເປັນຍ້ອນເຂົາຮຽນບໍ່ເກັ່ງຈຶ່ງເສັງບໍ່ຜ່ານ ຖ້າຈະບໍ່ເສັງໄປຮຽນຕໍ່ຢູ່ວຽດນາມກໍ່ຢ້ານຍ່າງເຕະແກ້ວ
ເບັຽຕາມບ້ານ ພໍ່ແມ່ມັນຈຶ່ງສົ່ງເສີມໃຫ້ເສັງເອົາທຶນໄປຮຽນວຽດນາມ.