สวิส’ สอบสวนคดีอาญา-อายัดทรัพย์ ปธน.ยูเครนพร้อมลูกชาย

ทางการสวิตเซอร์แลนด์แถลงในวันนี้ (28 ก.พ.) ว่า กำลังเริ่มการสอบสวนทางอาญา ในคดีซึ่ง วิกตอร์ ยานูโควิช ประธานาธิบดียูเครน ผู้ถูกฝ่ายค้านปลดออกจากตำแหน่ง และบุตรชายมหาเศรษฐีของเขา ถูกกล่าวหาว่ากระทำการฟอกเงิน
       
       เวลาเดียวกันนั้น รัฐบาลสวิสยังประกาศอายัดทรัพย์สินของเจ้าหน้าที่ชาวยูเครนรวม 20 คน ในจำนวนนี้มีทั้งตัวยานูโควิช, บุตรชายของเขาที่ชื่อ โอเล็กซานเดอร์, ตลอดจนอดีตรัฐมนตรีในรัฐบาลของยานูโควิชอีกจำนวนหนึ่ง
       
       ไม่เพียงเท่านั้น ทางด้านรัฐบาลออสเตรียก็แถลงว่า ได้อายัดทรัพย์สินของชาวยูเครน 18 คนซึ่งต้องสงสัยว่ามีพฤติการณ์ละเมิดสิทธิมนุษยชนและเกี่ยวข้องพัวพันกับการ ทุจริตคอร์รัปชั่น ทว่าไม่ได้แจ้งชื่อเสียงเรียงนามของบุคคลเหล่านี้
       
       เชื่อกันว่า ยานูโควิช วัย 63 ปี ได้หลบหนีไปอยู่ที่รัสเซีย ตั้งแต่ที่ถูกรัฐสภายูเครนซึ่งเสียงส่วนใหญ่แปรพักตร์ไปอยู่กับฝ่ายค้าน ลงมติขับไล่เขาออกจากตำแหน่งประธานาธิบดี ภายหลังเกิดการประท้วงต่อต้านของพวกผู้ชุมนุมที่ฝักใฝ่ฝ่ายตะวันตก มาเป็นเวลา 3 เดือนโดยที่ช่วงหลังๆ มีการนองเลือดเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
       
       ก่อนหน้านี้ตั้งแต่วันพฤหัสบดี (27 ก.พ.) รัฐบาลสวิตเซอร์แลนด์ก็ได้ประกาศจะอายัดเงินทุนใดๆ ก็ตามที่ยานูโควิชมีอยู่ในประเทศนี้ ซึ่งเคยขึ้นชื่อลือชาในเรื่องมีกฎหมายรักษาความลับของธนาคาร จนกลายเป็นเสน่ห์ดึงดูดเงินทุนที่ไม่ชอบมาพากลทั้งในแวดวงนักการเมืองทุจริต ฉ้อฉล และในวงการธุรกิจที่ขาดความโปร่งใสของนานาชาติ
       
       ทางด้านสำนักงานอัยการในนครเจนีวาแถลงด้วยว่า อัยการผู้ว่าคดีและทีมงานด้านการเงินของตำรวจศาล ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของคณะทำงานตรวจพิสูจน์ข้อกล่าวหาเรื่องฟอกเงิน ได้บุกเข้าตรวจค้นสำนักงานหลายแห่งของบริษัทที่บริหารโดยโอเล็กซานเดอร์ เมื่อวันพฤหัสบดี (27)
       
       ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่าตัวยานูโควิชมีเงินทุนใดๆ อยู่ในสวิตเซอร์แลนด์หรือไม่ แต่สำหรับโอเล็กซานเดอร์ผู้บุตรชายนั้น ได้ไปเปิดสาขาของบริษัทบริหารจัดการทรัพย์สินของเขาที่มีชื่อว่า “มาโก” (MAKO) ในเมืองเจนีวา เมื่อปลายปี 2011
       
       ทันตแพทย์และนักธุรกิจหนุ่มใหญ่วัย 40 ปีผู้นี้ ได้สั่งสมทรัพย์สมบัติความมั่งคั่งส่วนตัวเป็นมูลค่าถึงราวๆ 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เฉพาะเพียงชั่วระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ตามรายงานชิ้นหนึ่งที่ปรากฏในนิตยสารรายสัปดาห์ “เลบโด” ของสวิส
       
       ขณะที่เครือข่ายธุรกิจในยูเครนของโอเล็กซานเดอร์นั้น มีรายงานว่าเป็นผู้ควบคุมการผลิตถ่านหินในประเทศที่เคยเป็นส่วนหนึ่งของ สหภาพโซเวียตแห่งนี้ เอาไว้ถึงเกือบๆ ครึ่งหนึ่ง รวมทั้งยังเป็นผู้ควบคุมการผลิตและการจ่ายกระแสไฟฟ้าของยูเครนประมาณ 1 ใน 3 อีกด้วย
       
       สาขาของ มาโก ในเจนีวานั้น บริหารโดยนักธุรกิจเชื้อสายอุซเบกิสถานคนหนึ่ง ซึ่งก็เป็นผู้ดำเนินการบริษัทที่ใช้ชื่อว่า ปาร์เตฟินา อีกด้วย โดยที่กิจการทั้ง 2 แห่งนี้แจ้งใช้ที่อยู่ที่เดียวกัน
       
       ตามรายงานของนิตยสารเลบโด เจ้าของตัวจริงของบริษัทปาร์เตฟินา คือ อภิมหาเศรษฐี ไรนาต อัคเมตอฟ ผู้สนับสนุนคนสำคัญคนหนึ่งของยานูโควิช โดยที่ อัคเมตอฟ ก็มีสำนักงานอยู่หลายแห่งในเมืองเจนีวา
       
       คาดหมายกันว่า ความเคลื่อนไหวของทางการสวิสคราวนี้ บังเกิดขึ้นเนื่องจากแรงบีบคั้นกดดันของฝ่ายตะวันตก ไม่เพียงเท่านั้น เมื่อวันพุธ (26) ยังมีชาวยูเครนจัดการชุมนุมเดินขบวนในกรุงเบิร์น เมืองหลวงของสวิตเซอร์แลนด์ เพื่อเรียกร้องให้ทางการสวิสอายัดทรัพย์สินของยานูโควิช
       
       สำหรับออสเตรีย เป็นสมาชิกสหภาพยุโรป (อียู) ที่ต่อต้านความพยายามของยุโรปในการปรับปรุงภาคการธนาคารให้มีความโปร่งใสมาก ยิ่งขึ้นมาโดยตลอด จนถูกจับตามองกันในกรุงเคียฟว่าเป็นแหล่งพักพิงหลบภัยทางการเงินสำหรับพวก นายทุนพวกพ้องของยานูโควิช
       
       แต่กระทรวงการคลังออสเตรียแถลงว่า การประกาศอายัดทรัพย์สินของชาวยูเครน 20 คนคราวนี้ ถือเป็นการรักษาความปลอดภัยเบื้องต้น จนกว่ามาตรการลงโทษของอียู ซึ่งลงมติเอาไว้ในวันที่ 20 กุมภาพันธ์ โดยมุ่งเล่นงานพวกเจ้าหน้าที่ยูเครนที่รับผิดชอบในการปราบปรามการประท้วง อย่างนองเลือดในกรุงเคียฟ จะเริ่มมีผลบังคับใช้