ລາວໂຮມລາວ ເພື່ອປະຊາທິປະໄຕ

สหรัฐ"เนื้อเต้น" ทดลองสำเร็จ"ขีปนาวุธสกัดกั้น"การโจมตีทางอากาศจากศัตรู-ทำได้เป็นชาติแรก

กระทรวงกลาโหมสหรัฐแถลงว่า สหรัฐประสบความสำเร็จในโครงการระบบขีปนาวุธป้องกันภัยทางอากาศ โดยขีปนาวุธสกัดกั้น หรือจรวด"อินเตอร์เซ็พ"สามารถทำลายขีปนาวุธจำลองโจมตีสหรัฐเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่เริ่มโครงการนี้ตั้งแต่ปี 2008  โดยจรวดดังกล่าวจะส่งผลให้สหรัฐเป็นชาติเดียวในโลกที่สามารถใช้ระบบป้องกัน ภัยการโจมตีทางอากาศพิสัยไกลได้
 

ในการทดลองดังกล่าว ซึ่งมีขึ้นที่ฐานทัพอากาศแวนแดนเบิร์ก ในรัฐแคลิฟอร์เนีย เมื่อเร็วๆ  นี้ หัวจรวดของจรวดอินเตอร์เซ็พ หรือขีปนาวุธสกัดกั้น ได้แยกตัวจากขีปนาวุธ พุ่งเข้าชนและทำลายขีปนาวุธอีกลูกที่ถูกจำลองเป็นเป้าหมายโจมตีได้อย่างแม่น ยำ ขณะที่เจ้าหน้าที่ระดับสูงแห่งสานักป้องกันภัยด้วยขีปนาวุธสหรัฐระบุว่า ความสำเร็จนี้ถือเป็นขั้นตอนสำคัญที่จะพัฒนาและเพิ่มการพิ่งพาระบบป้องกัน ภัยทางอากาศ โดยกระทรวงกลาโหมสหรัฐเตรียมขยายสัญญากับบริษัทโบอิ้งเป็นมูลค่า 3,480 ล้านดอลลาร์ เพื่อให้ผลิตระบบขีปนาวุธอินเตอร์เซ็พ เพื่อเพิ่มความแม่นยำและการบำรุงรักษายิ่งขึ้น
 

ความสำเร็จนี้มีขึ้นหลังจากสหรัฐต้องล้มเหลวกับระบบขีปนาวุธป้องกันภัย ทางอากาศ  ที่ริเริ่มตั้งแต่สมัยอดีตประธานาธิบดีจอร์จ บุช เมื่อปี 2004 ที่ถูกคิดขึ้นเพื่อใช้ป้องกันภัยคุกคามด้านอาวุธนิวเคลียร์ที่เพิ่มขึ้นของ เกาหลีเหนือ โดยเมื่อปี 2013 สหรัฐได้ทดลองขีปนาวุธประเภทนี้ล้มเหลว 20 ลูก ก่อนจะมีการแก้ไขได้ก่อนสิ้นปีดังกล่าว และในการทดลองครั้งนี้ ได้มีการเตรียมใช้ขีปนาวุธ"อินเตอร์เซพ"ถึง 10 ลูกซึ่งมีการติดหัวจรวด หรือ"หัวจรวดทำลาย" (The kill vehicle) พุ่งทำลายขีปนาวุธโจมตีของฝ่ายตรงข้าม
 
อย่างไรก็ตาม ด้านนักวิจารณ์บอกว่า หัวจรวดทำลายยังคงประสบความสำเร็จเพียงบางส่วนเท่านั้น และสภาคองเกรสควรจะพิจารณาใหม่ถึงแผนที่จะซื้อหัวจรวดดังกล่าวจำนวน 14 ลูกที่มีราคาแพงถึงหัวรบละ 75 ล้านดอลลาร์ หรือรวมกันเป็นเงินกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเงินจำนวนนี้ควรจะถูกนำไปใช้กับงบประมาณด้านอื่นที่เป็นประโยชน์มากกว่า