จากกรณีเหตุการณ์ประท้วงเพื่อเรียกร้อง ประชาธิปไตยบนเกาะฮ่องกง ยืดยาวเข้าสู่สัปดาห์ที่ 2 ซึ่งถือเป็นเหตุการณ์ทางการเมืองท้าทายอำนาจรัฐบาลจีนครั้งใหญ่หลังจากไม่มี ใครกล้ากระตุกหนวดพญามังกรจากเหตุการณ์ที่เทียนอันเหมินปี2532
ท่ามกลางวิกฤตการณ์ในครั้งนี้สื่อทั่วโลกจับตามองไปที่ โจชัว หว่อง เด็กชายแว่นร่างผอมบางคนหนึ่งที่หาญกล้ายืนอยู่หน้าขบวนปลุกให้ชาวฮ่องกงลุกฮือเรียกร้องประชาธิปไตย
โจชัว หว่อง เด็กวัยรุ่นอายุแค่ 17 ปี เป็นผู้ก่อตั้งกลุ่มสกอลาร์ลิซึ่ม เข้ามาสู่วงจรแกนนำผู้เรียกร้องทางการศึกษาตั้งแต่อายุ15ปี ถูกทางการจีนหมายหัวตั้งฉายาว่าเป็นพวกหัวรุนแรง
เมื่อปี 2012 โจชัว หว่อง ได้ปลุกระดมคนหนุ่มสาวกว่าหนึ่งแสนสองหมื่นคนออกมาเรียกร้องให้ผู้บริหาร เกาะฮ่องกงยกเลิกแผนส่งเสริมความรักชาติจีนบรรจุลงในหลักสูตรภาคบังคับของ ฮ่องกง ซึ่งก็ถือว่าเป็นการเรียกร้องที่ประสบความสำเร็จเพราะในที่สุด นายเหลียง ชุนอิง ผู้บริหารเกาะฮ่องกงก็ยอมที่จะล้มเลิกแผนนั้น
หลังจากประเด็นเรียกร้องทางการศึกษาเมื่อ2ปีก่อน โจชัว หว่อง เชื่อว่าเป็นการสิ้นสุดยุคสายลมแสงแดดของหนุ่มสาวชาวฮ่องกงและหันมาสนใจการ เมืองมากยิ่งขึ้น ซึ่งในปีนี้หลังจากที่รัฐบาลจีนผิดคำมั่นสัญญาว่าจะให้ชาวฮ่องกงสามารถเลือก ผู้บริหารเกาะเองได้ ทำให้คนหนุ่มสาวลุกฮือขึ้นอีกครั้ง
โดยครั้งนี้ โจชัว หว่อง ได้เข้าร่วมเป็นหัวขบวนของกลุ่ม Occupy Central สร้างปรากฎการณ์ทางการเมืองที่ใหญ่ที่สุดอีกครั้ง โดยจากการเข้ายืดสถานที่ทำการรัฐบาลเมื่อวันที่ 26 ก.ย.ที่ผ่านมา ทางการได้เข้าปราบจราจล โจชัว หว่อง ถูกจับกุมในฐานะแกนนำม็อบถูกขังนาน40 ชั่วโมง ก่อนจะถูกปล่อยตัวและกลายเป็นเด็กหนุ่มไฟแรงที่เปรียบเป็นสัญลักษณ์การเรียก ร้องประชาธิปไตยของคนฮ่องกง
ผู้นำฮ่องกงขู่ใช้มาตรการเคลียร์พื้นที่ก่อนถึงวันจันทร์
เมื่อวันที่ 4 ต.ค. บีบีซีรายงานความคืบหน้าสถานการณ์การชุมนุมประท้วงที่ฮ่องกง ว่ายังไม่มีวี่แววว่าการเผชิญหน้าระหว่างกลุ่มผู้ชุมนุมกับรัฐบาลจะคลี่คลาย ลง หลังจากเกิดเหตุความรุนแรงในคืนวันศุกร์ที่ผ่านมาในย่านมงก๊กที่กลุ่มผู้คัด ค้านการชุมนุมและสมาชิกแก๊งอิทธิพลบุกทำร้ายผู้ชุมนุมประท้วงรัฐบาล
แม้ว่านายเหลียง ชุนอิง หัวหน้าคณะบริหารเขตปกครองพิเศษฮ่องกงจะออกทีวีกล่าวประณามการใช้ความรุนแรงดังกล่าว แต่ยืนกรานว่า ทางการและตำรวจจะต้องใช้มาตรการทุกอย่างที่จำเป็นให้พื้นที่ใจกลางฮ่องกงกลับมาเป็นปกติในเช้าวันจันทร์ที่ 6 ต.ค.นี้ เพื่อให้สำนักงานรัฐบาลและโรงเรียนเปิดทำการอีกครั้ง หลังชะงักไปนานกว่าสัปดาห์
หลังการแถลงดังกล่าว ผู้ชุมนุมยังตรึงพื้นที่บนท้องถนน และยังมีกลุ่มต่อต้านความรุนแรงออกมาชุมนุมสมทบอีกในเขตแอดมิรัลตี