ตำรวจพระนครศรีอยุธยา พร้อมเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ช่วยเหลือเด็กชาวลาว จำนวน
3 คน ที่ถูกนำตัวมากักขังทำงานในร้านทำทองรูปพรรณใน อ.เสนา โดยระบุว่าถูกใช้ให้ทำงานหนัก
และไม่ได้รับค่าจ้างตอบแทน ขณะที่ทางเจ้าของร้านแจงจ่ายค่าแรงให้เด็กวันละ 300 บาท
และไม่ได้กักขัง ด้านตำรวจเผยจะสอบสวนให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่า
เมื่อวันที่ 12 พ.ย. พล.ต.ต.เสริมคิด สิทธิชัยกานต์ ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วย พ.ต.อ.วิโรจน์ ข้าวบ่อ ผกก.สภ.เสนา นำกำลังตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) พระนครศรีอยุธยา บุกเข้าตรวจค้นภายในร้านทำทองรูปพรรณ เลขที่ 69/222-3 หมู่ 8 ต.สามกอ อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา ลักษณะเป็นอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น หลังจากก่อนหน้านี้ได้มีเด็กชาย 2 คน และเด็กหญิง 1 คน ทั้งหมดสัญาติลาว อายุระหว่าง14-15 ปี ได้หลบหนีออกมาขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ พม. พระนครศรีอยุธยา ว่า ถูกกังขังใช้แรงงานหนัก และไม่ได้รับเงินค่าจ้าง โดยการตรวจค้นมี นางสุมณธณี โอภาสสุวรรณ อายุ35 ปี เป็นผู้ดูแลพาเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบภายในห้องที่ทำทองรูปพรรณ และห้องพักของคนงาน พร้อมกับนำเอกสารและบัตรคนงานต่างด้าว พบว่ามีการเข้ามาทำงานอย่างถูกต้อง ซึ่ง นางสุมณธณี กล่าวว่า รับเด็กชาวลาวทั้ง 3 คนมาทำงานตั้งแต่เดือน ก.ค. ที่ผ่านมา โดยให้ค่าแรงวันละ 300 บาท และให้ทำหน้าที่ร้อยสร้อยทองคำ ตั้งแต่เวลา 09.00-17.00 น. มีพักรับประทานอาหารกลางวันตามปกติ พักอาศัยอยู่ด้วยกันไม่ได้มีการบังคับขู่เข็ญ ส่วนหรือไม่ยอมให้ออกไปไหน เนื่องจากเห็นว่าเป็นเด็กจึงไม่อยากให้ออกไป เพราะกลัวว่าจะถูกหลอกลวงไปในทางไม่ดี การดุด่าอาจจะมีบ้างเพราะเด็กยังมีความซุกซน เงินเดือนจะจ่ายให้ทุกวันที่ 15 ของเดือน
ด้าน พล.ต.ต.เสริมคิด เปิดเผยว่า ตำรวจร่วมกับ พม.พระนครศรีอยุธยา ดำเนินการไปตามข้อร้องเรียนของเด็กชาวลาวที่ได้หลบหนีออกมา และให้การกับเจ้าหน้าที่ว่าถูกให้ทำงานเกินเวลา กักขังไม่ให้ออกไปไหน ไม่ได้รับเงินเดือน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการสอบสวนให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย โดยเด็กทั้ง 3 คน ขณะนี้อยู่ในความดูแลของเจ้าหน้าที่ พม. โดยให้เจ้าร้านทำทองนำเอกสารต่างๆมาแสดง เบื้องต้นทางเจ้าของร้านไม่มีเอกสารเรื่องการจ่ายเงินมาแสดงกับเจ้าหน้าที่ ตำรวจ ขณะที่ ด.ญ.ปู (นามสมมุติ) อายุ 14 ปี กล่าวว่า ตนกับเพื่อนชาวลาวต้องตื่นแต่เช้ามืดทำความอาดร้านทั้งหมด จากนั้นเริ่มประกอบร้อยทองรูปพรรณโดยไม่ได้กินข้าวเช้า ทำจนเที่ยงจึงจึงได้กินอาหารกลางวัน และจะทำงานต่อจนถึงเย็นจึงหยุดพักกินอาหาร แล้วทำงานต่ออีกจนถึงเวลา 01.00 น.ของทุกวัน โดยถูกห้ามไม่ออกไปไหน ในครั้งแรกที่เริ่มเข้าทำงานมีการตกลงกันว่าจะให้จ่ายเงินให้เดือนละ4,000 บาท นับตั้งแต่เริ่มทำงานมาได้ 3 เดือน เพิ่งจะได้เงิน1,000 บาท จึงหลบหนีออกมา
