ໃນ ມື້ວານ ນີ້ ປະຊາຄົມ ສາກົນ ແລະ ກຸ່ມ ປົກປ້ອງ ສິດທິ ມະນຸດ ໄດ້ກົດດັນ ໃຫ້ ຣັຖບານລາວ ໃຊ້ຄວາມ ພຍາຍາມ ເພີ້ມຕື່ມ ໃນການ ຊອກຫາ ທ່ານ ສົມບັດ ສົມພອນ ທີ່ ຫາຍສາບສູນ ໄປໄດ້ 2 ປີ ແລ້ວ.
ທ່ານ JOHN BAIRD ຣັຖມົນຕຣີ ກະຊວງ ຕ່າງ ປະເທດ ການາດາ ກ່າວວ່າ ປະເທດ ການາດາ ຍັງມີ ຄວາມເປັນຫ່ວງ ໃນການ ຫາຍ ສາບສູນ ຂອງ ທ່ານ ສົມບັດ ສົມພອນ ໃນຣະຍະ 2 ປີ ທີ່ຜ່ານມາ ຊື່ງ ຣັຖບານ ລາວ ຍັງບໍ່ ສາມາດ ໃຫ້ຂໍ້ມູນ ການ ຫາຍສາບສູນ ຂອງ ທ່ານໄດ້. ທາງການ ການາດາ ຂໍຮຽກຮ້ອງ ໃຫ້ ຣັຖບານ ລາວ ເຄົາຣົບ ນັບຖື ສົນທິ ສັນຍາ ກ່ຽວກັບ ສິດທິມະນຸດ ທີ່ ຕົນໄດ້ ລົງນາມ ຮ່ວມກັບ ນາໆຊາດ ແລະ ໃຫ້ຂໍ້ມູນ ຢ່າງ ແຈ່ມແຈ້ງ ກ່ຽວກັບ ການສືບສວນ ການ ຫາຍສາບສູນ ຂອງທ່ານ ສົມບັດ ສົມພອນ ຕໍ່ຊາວ ໂລກ.
ໃນຂນະ ດຽວກັນ ກຸ່ມ ຕົວແທນ ຈາກ 82 ອົງກອນ ດ້ານ ສິດທິມະນຸດ ກໍ່ໄດ້ຮ່ວມກັນ ອອກ ຖແລງການ ປະນາມ ຣັຖບານ ລາວ ປະຕິເສດ ທີ່ຈະໃຫ້ ຂໍ້ມູນກ່ຽວກັບ ການ ຫາຍສາບສູນ ຂອງ ທ່ານ ສົມບັດ ສົມພອນ. ອົງການ ດັ່ງກ່າວ ຍັງໄດ້ ຮຽກຮ້ອງ ສະມາຄົມ ອາຊຽນໃຫ້ ໃຊ້ ມາຕການ ທີ່ ສຳຄັນ ແລະ ຈຳເປັນ ໃນ ການກົດດັນ ຣັຖບານ ລາວ ໃນການສືບຫາ ທ່ານ ສົມບັດ ສົມພອນ.
ສຳລັບ ອົງການ ສີ້ງຊອມດ້ານ ສິດທິມະນຸດ ສາກົນ ກໍເວົ້າວ່າ ການສືບສວນ ຊອກຫາ ທ່ານ ສົມບັດ ສົມພອນ ຂອງ ທາງການ ລາວ ເປັນການ ອັບອາຍ ຂາຍຫນ້າ ຫລາຍກວ່າ ເພາະຂາດ ຂໍ້ມູນ ແລະ ຄວາມຈິງ ກໍຍັງມີ ການປີດບັງ ໄວ້ຢູ່.
ກຸ່ມ ດັ່ງກ່າວ ເວົ້າວ່າ ຕັ້ງແຕ່ ເລີ້ມຕົ້ນ ຊາວໂລກ ກໍ ຮູ້ແລ້ວວ່າ ເປັນການ ບີບບັງຄັບ ໃຫ້ ຫາຍສາບສູນ ເພາະ ສີ່ງທີ່ ເກີດຂຶ້ນ ນັ້ນ ແມ່ນຢູ່ ປ້ອມຍາມ ຂອງ ເຈົ້າຫນ້າທີ່ ຕຳຣວດ ແຕ່ ທາງການ ລາວ ກໍຍັງ ປະຕິເສດ ຕໍ່ຄວາມ ຮັບຜິດຊອບ ຂອງຕົນ ຢູ່.
อุบลราชธานี - แรงงานจังหวัดออกโรงเตือน ระวังนายหน้าหางานเถื่อนหลอกไปทำงานสร้างเขื่อน ทำรถไฟทางคู่ และสนามบินนานาชาติในลาว ระบุไม่มีโครงการก่อสร้าง แนะตรวจความถูกต้องตำแหน่งงานว่างที่สำนักงานจัดหางานดีที่สุด น.ส.ปัทมพร ผุดเพชรแก้ว จัดหางานจังหวัดอุบลราชธานี เปิดเผยว่า ขณะนี้มีการชักชวนคนหางานในพื้นที่และจังหวัดใกล้เคียงให้สมัครไปทำงานก่อ สร้างเขื่อนไฟฟ้าขนาดใหญ่ สนามบินนานาชาติ และสร้างรถไฟทางคู่ มูลค่าหลายแสนล้านบาทใน สปป.ลาว โดยอ้างว่าบริษัทของตนได้รับสัมปทานก่อสร้างโครงการ ต้องการคนงานในตำแหน่งโฟร์แมน แม่ครัว ช่างก่ออิฐ ช่างปูกระเบื้อง ช่างไม้ ช่างผูกเหล็ก ช่างประปา ช่างเชื่อม ช่างทาสี ทั้งนี้ มีเงื่อนไขว่าผู้สนใจจะไปทำงานต้องจ่ายค่านายหน้าใช้ดำเนินการคนละ 20,000 บาท และจะได้ค่าจ้างเดือนละ 30,000-45,000 บาท ซึ่งจากการตรวจสอบในระบบจัดหางานของกรมแรงงานแล้วปรากฏไม่มีโครงการก่อสร้าง ดังกล่าว และไม่มีบริษัทใดประกาศหาคนงานไปทำงานใน สปป.ลาว จึงขอเตือนแรงงานอย่าได้หลงเชื่อกลุ่มนายหน้าเถื่อน เพราะไม่สามารถจัดส่งคนงานไปทำงานตามที่อ้างได้จริง หากมีข้อสงสัยหรือต้องการทราบตำแหน่งงานที่ว่างและต้องการคนงาน ให้มาตรวจสอบกับสำนักงานจัดหางานจังหวัดอุบลราชธานี ที่ถนนเลี่ยงเมือง ต.แจระแม อ.เมือง โทร. 0-4520-6226 เพื่อจะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อและสูญเสียเงินให้กลุ่มผู้หลอกลวง
เมื่อเวลา 20.30 น.วันที่ 16 ธ.ค. ร.ต.ท.เสฏฐวุฒิ กลีบการะเกตุ พงส.สน.บางชัน รับแจ้งมีผู้ถูกฆ่าตายภายในห้องเช่า เลขที่ 7 ซอยสวนสยาม 12 แยก 2 แขวงคันนายาว เขตคันนายาว จึงไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.วีรชัย โพธิปัตชา ผกก. พ.ต.ท.พิพันฐน์ เต็งถาวร สว.สส. แพทย์นิติเวช รพ.ตำรวจ เจ้าหน้าที่ตรวจพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) และอาสาสมัครกู้ภัยป่อเต็งตึ๊ง ที่เกิดเหตุเป็นอพาร์ทเม้นท์ให้เช่า ที่เกิดเหตุเป็นห้องเช่า เลขที่ 7 ชั้น 3 ของอพาร์ทเม้นท์ดังกล่าว พบศพนางรัตน์ ไม่ทราบนามสกุล อายุ 30 ปี ชาวสะหวันเขต สปป.ลาว ลูกจ้างร้านขายของชำ มีบาดปแผลถูกแทงด้วยอาวุธมีดเข้าที่หน้าท้อง ที่ใบหน้าถูกปิดด้วยหมอน นอนหงายเสียชีวิตจมกองเลือด โดยมือข้างหนึ่งกุมมีดคาอยู่
สอบ สวนเบื้องต้น นายประสิทธิ์ สุระ อายุ 42 ปี เพื่อนร่วมงานผู้ตาย ให้การว่า ผู้ตายเป็นคนชอบเที่ยว กินเหล้า เข้าสังคม และอยู่กินกับนายพันธ์ อายุประมาณ 38 ปี ซึ่งทำงานเป็นรปภ.ของหมู่บ้านแห่งหนึ่งใกล้ละแวกที่เกิดเหตุ กระทั่งมีลูกด้วยกัน 2 คน ก่อนเกิดเหตุเมื่อวันที่ 14 ธ.ค. ที่ผ่านมา หลังจากนายพันธ์กลับมาจากสปป.ลาว ได้นัดแนะกับนางรัตน์ว่าจะไปเที่ยวพัทยา ก่อนที่นางรัตน์จะหายหน้าไป 2 วัน ตนเห็นผิดสังเกตจึงขึ้นไปตรวจสอบที่ห้องพักแต่เมื่อขึ้นมาได้แค่ชั้น2 ของอพาร์ทเม้นท์กลับได้กลิ่นเหม็นเน่าจึงตัดสินใจปีนระเบียงด้านหน้าห้อง ขึ้นไปดูก็พบว่านางรัตน์เสียชีวิตแล้ว ด้านเจ้าหน้าที่ กล่าวว่าขณะนี้ได้เก็บหลักฐานต่างๆในห้องรวมถึงมีดที่อยู่ในมือผู้ตายส่งให้ เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานตรวจสอบรอยนิ้วมือแฝง และได้สอบปากคำพยานแวดล้อมโดย คาดว่าผู้ก่อเหตุเป็นแฟนของผู้ตายและจะจำกุมคนร้ายได้ไม่ยาก ส่วนสาเหตุนั้นน่าจะมาจากแรงหึงห่วงก่อนนำศพผู้เสียชีวิตส่งชันสูตรต่อที่ สถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจต่อไป.
