งาช้างแอฟริกาจำนวน 511 กิ่ง น้ำหนักกว่า 3.1 ตัน มูลค่า 200 ล้านบาท ที่ลักลอบนำเข้ามาจากเมืองมอมบาซา ประเทศเคนย่า มีปลายทางที่สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวซึ่งกรมศุลกากรสามารถตรวจจับได้ที่ท่าเรือแหลมฉบังเมื่อวันที่ 25 เมษายน โดยม พลเอก ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมแถลงข่าวนายสมชัย สัจจพงศ์ อธิบดีกรมกรมศุลกากร ระบุว่า หลังเจ้าหน้าที่ได้รับรายงานจากสายข่าว และพบพิรุธจากบริษัทอินโดจีน อินเตอร์กรุ๊ป จำกัด ที่ระบุในใบตราส่งว่า เป็นผู้ขนส่งผ่านแดนที่แจ้งว่าบริษัทตนเองไม่เคยได้รับการติดต่อหรือว่าจ้างจากบริษัท Soupha Song Import-Export จำกัด สปป.ลาว และสำแดงใบสินค้าเป็นใบชาจำนวนกว่า 11,000 กิโลกรัม ก่อนทำการตรวจสอบตู้คอนเทนเนอร์ด้วยการเอ็กซเรย์ พบมีการซุกซ่อนงาช้างมากับใบชาจำนวนมากในตู้คอนเทนเนอร์เส้นทางการลำเลียงคือ นำงาช้างใส่ตู้คอนเทนเนอร์ที่เมืองมอมบาซา มาลงเรือจากนั้นแวะโคลัมเบีย ศรีลังกา แวะพอร์ทกลัง มาเลเซีย ถึงท่าเรือสิงคโปร์ ก่อนส่งต่อไป สปป.ลาว แต่ถูกจับได้ก่อน โดยคาดว่า หากงาช้างล็อตนี้ไปถึง สปป.ลาว จะถูกนำมากระจายจำหน่ายให้ประเทศใกล้เคียงอย่าง เวียดนาม ไทย จีนสำหรับการจับกุมงาช้างครั้งนี้ถือว่าเป็นการจับกุมครั้งใหญ่ที่สุดเป็นครั้งที่ 2 หลังครั้งแรกสามามารถจับกุมและยึดของกลางเป็นงาช้างกว่า 4 ตัน เมื่อวันที่ 18 เมษายนที่ผ่านมาอย่างไรก็ตามในปี 2557 กรมศุลกากรจับกุมงาช้างไปแล้ว 11 คดี รวมประมาณ 50 ชิ้น น้ำหนัก 103.27 กิโลกรัม มูลค่า 19,688,154 บาท และในรอบปี 2558 จับกุมจำนวน 3 คดี รวมประมาณ 1,302 ชิ้น น้ำหนักรวม 2,079.25 กิโลกรัม มูลค่า 205,000,000 บาท
ບໍຣິສັດພວກນີ້ມີເຈົ້າໜ້າທີ່ຂັ້ນສູງ ພັກລັດຫລາຍຄົນຢູ່ເບື້ອງຫລັງ