ศึกการเมืองในพม่าร้อนระอุ ประธานาธิบดีเต็ง เส่ง ยึดอำนาจเงียบสกัดคู่แข่งชิงความเป็นใหญ่ก่อนการเลือกตั้ง 3 เดือนข้างหน้า ส่งกองกำลังความมั่นคงบุกเข้าที่ทำการพรรครัฐบาลในเมืองหลวง ปลด "ฉ่วย มาน" พ้นตำแหน่งประธานพรรค เผยประธานสภาผู้แทนฯ รายนี้แบะท่าผูกมิตร "ซูจี" ทั้งยังประกาศตัวพร้อมนั่งเก้าอี้ประธานาธิบดีสมัยหน้า
ฉ่วย มาน
สถานการณ์ทางการเมืองในพม่าได้รับการจับตามองว่ากำลังหวนกลับสู่ยุคระบอบ ทหารที่ใช้กองกำลังความมั่นคงในการจัดการความขัดแย้งทางการเมืองอีกหรือไม่ เมื่อการชิงอำนาจระหว่างประธานาธิบดีเต็ง เส่ง กับฉ่วย มาน ประธานสภาผู้แทนราษฎรซึ่งดำรงตำแหน่งประธานพรรคสหสามัคคีและการพัฒนา (ยูเอสดีพี) บานปลายเป็นความขัดแย้งอย่างเปิดเผยตั้งแต่วันพุธที่ผ่านมา โดยกองกำลังความมั่นคงทั้งทหารและตำรวจหลายคันรถยกกำลังมาปิดล้อมที่ทำการ พรรคในกรุงเนปยีดอในช่วงค่ำ
รายงานรอยเตอร์กล่าวว่า ภายหลังกองกำลังความมั่นคงควบคุมที่ทำการพรรค ซึ่งเป็นอาคารใหญ่โตแบบนีโอคลาสสิก มีกำแพงล้อมรอบ เท อู แกนนำพรรคที่เป็นพวกพ้องของเต็ง เส่ง ได้ประชุมแกนนำพรรคเฉพาะฝ่ายตนจนถึงเวลาราวตี 2 ครึ่ง ก่อนที่กองกำลังความมั่นคงจะถอนออกไป
คำแถลงสั้นของยูเอสดีพีเมื่อวันพฤหัสบดีกล่าวว่า ฉ่วย มานได้พ้นจากตำแหน่งประธานพรรคแล้ว เนื่องจากเขามีภารกิจยุ่งจากการทำหน้าที่ประธานสภาผู้แทนราษฎร โดยเต อู ขึ้นรับตำแหน่งประธานพรรคแทน นอกจากนี้ติน หน่าย เต็ง ผู้ช่วยใกล้ชิดเต็ง เส่ง อีกคน ขึ้นเป็นเลขาธิการพรรคคนใหม่ แทนที่หม่อง หม่อง เต็ง ซึ่งเป็นพวกพ้องของฉ่วย มาน แต่คำแถลงไม่ได้กล่าวถึงการดำเนินการของกองกำลังความมั่นคงเมื่อคืนวันพุธ
นอกจากนั้น จากรายงานคณะกรรมการบริหารส่วนกลาง (ซีอีซี) ชุดใหม่ เผยว่าพันธมิตรอีกหลายคนของฉ่วย มาน ก็ถูกปลดพ้นตำแหน่งระดับสูงของพรรคเช่นกัน อย่างไรก็ดี ตัน ตุน ประธานซีอีซีเผยว่า ฉ่วย มาน ยังคงเป็นประธานสภาผู้แทนราษฎรต่อไป และเขาจะลงสมัครรับเลือกตั้งวันที่ 9 พฤศจิกายนนี้
การพ้นตำแหน่งในพรรคของฉ่วย มาน ครั้งนี้เกิดขึ้นภายหลังเขาสร้างความขัดแย้งกับบรรดาอดีตนายทหาร ซึ่งได้ถ่ายโอนอำนาจให้รัฐบาลกึ่งพลเรือนภายใต้การนำของเต็ง เส่ง เมื่อปี 2554 แต่ยังคงกุมอำนาจชี้ขาดทางการเมืองไว้ผ่านสิทธิวีโตจากการได้โควตาผู้แทนกอง ทัพในสภา มีรายงานว่า ประธานยูเอสดีพี ซึ่งเป็นอดีตนายพลเช่นเดียวกับเต็ง เส่ง ได้สนับสนุนความพยายามแก้ไขรัฐธรรมนูญเมื่อเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา เพื่อจำกัดบทบาททางการเมืองของกองทัพ ทำให้คนในกองทัพโกรธแค้นเขา
มีข่าวลือด้วยว่า เขายังหารือสร้างพันธมิตรกับนางอองซาน ซูจี ผู้ที่รัฐธรรมนูญขัดขวางไม่ให้ขึ้นเป็นประธานาธิบดี แม้พรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (เอ็นแอลดี) ของนางมีวี่แววจะชนะการเลือกตั้งในอีก 3 เดือนข้างหน้าอย่างถล่มทลาย
การชิงสร้างอิทธิพลในพรรคยังสะท้อนให้เห็นจากการจัดรายชื่อผู้สมัครรับเลือก ตั้งของพรรค ซึ่งหมดเขตไปเมื่อวันพุธ โดยฉ่วย มาน ไม่สนับสนุนผู้สมัครที่เป็นพันธมิตรของประธานาธิบดี และยังไม่ยอมรับอดีตนายทหารที่กองทัพส่งมาด้วย
แหล่งข่าวในพรรคเผยว่า ในรายชื่อผู้สมัคร มีนายทหารที่เกษียณอายุราชการเพียง 59 นายจาก 159 นายเท่านั้น ไม่มีข้อมูลชัดว่าเหตุใดจึงมีอดีตนายทหารได้ลงเลือกตั้งแค่ 1 ใน 3 แต่เชื่อว่าการตัดสินใจดังกล่าวน่าจะทำให้พวกนายทหารและนักการเมืองที่ต้อง การคงอำนาจกองทัพไว้ไม่พอใจอย่างรุนแรง.
