ลาวหนีเข้าเมือง ตั้งตัวเป็นมาเฟียสยาม
9 ก.ย.58 เมื่อเวลา 11.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น. พล.ต.ต.ชยพล ฉัตรชัยเดช ผบก.น.6 พ.ต.อ.จารุต ศรุตยาพร ผกก.สน.ปทุมวัน แถลงผลการจับกุมนายวีระพัน หรือเฒ่า อินทะวง สัญชาติลาว อายุ 38 ปี ผู้ต้องหาในข้อหาเป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยไม่ได้รับอนุญาต และข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่น หลังถูกจับกุมตัวได้ที่บริเวณทางขึ้นรถไฟใต้ดินสถานีสุทธิสาร เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (8 ก.ย.58)
พ.ต.อ.จารุต กล่าวว่า ผู้ต้องหารายนี้เป็นคนลาว และเป็นบุคคลหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย โดยมีพฤติกรรมอ้างตัวเป็นมาเฟีย และได้ก่อเหตุข่มขู่ทำร้ายร่างกาย น.ส.วัลลภา ตระกูลแพร่หลาย อายุ 23 ปี ที่สถานีรถไฟฟ้าใต้ดินสถานีหัวลำโพง เมื่อวันที่ 4 ก.ย. 2558 ที่ผ่านมา ต่อมาผู้เสียหายได้นำคลิปภาพเหตุการณ์ไปเผยแพร่ในโลกโซเชียลมีเดีย กระทั่งมีประชาชนจำนวนมากเข้ามาแสดงความคิดเห็น พร้อมแจ้งเบาะแสว่าคนร้ายรายนี้เคยก่อเหตุในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะบริเวณสยามสแควร์ จนได้รับฉายาจากโลกโซเชียลมีเดียว่า "มาเฟียสยาม" และจากการสืบสวนคดีย้อนหลังพบว่า ผู้ต้องหารายนี้เคยก่อคดีลักทรัพย์ในพื้นที่ สน.พญาไท เมื่อวันที่ 10 ส.ค. 2558 และคดีทำร้ายร่างกาย ที่โรงภาพยนตร์ ศูนย์การค้าสยามพารากอน เมื่อวันที่ 12 ส.ค. 2558 ที่ผ่านมา
ด้านผู้ต้องหา รับสารภาพทั้งน้ำตาว่า ได้ทำร้ายผู้เสียหายบนรถไฟจริง โดยอ้างว่า ไม่พอใจที่ผู้เสียหายเหยียบเท้าและมองหน้าอย่างดูถูก จึงด่าทอ และทำร้ายร่างกาย ด้วยการต่อยไปที่ใบหน้า หลังเกิดเหตุ ผู้เสียหายได้กระโดดลงรถที่สถานีสามย่าน จึงถีบซ้ำ พร้อมขู่ฆ่า แต่ให้การปฏิเสธในคดีลักทรัพย์ นอกจากนี้ผู้ต้องหารับสารภาพอีกว่า เป็นคนอารมณ์ร้อน ควบคุมตนเองไม่ได้ และยืนยันว่า ไม่ได้เป็นมาเฟีย แต่ที่อ้างเพราะต้องการข่มขู่เท่านั้น ก่อนจะยกมือไหว้ขอโทษผู้เสียหาย
ด้าน พล.ต.ต.ชยพล กล่าวว่า เบื้องต้นทราบว่านายวีนะพัน เข้ามาทำงานในประเทศไทย และเคยคลุกคลีอยู่ในบ่อนการพนัน โดยอ้างว่าเป็นลูกน้องของนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ แต่ยอมรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา ส่วนบางข้อที่ไม่ยอมรับนั้น ก็เป็นสิทธิส่วนบุคคล หากเจ้าหน้าที่มีหลักฐานก็จำดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนภาพจากคลิปที่ผู้ต้องกำลังก่อเหตุนั้น คาดว่าจะก่อเหตุในหลายพื้นที่ ทางเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างประสานไปยังเจ้าของพื้นที่นั้นๆ ว่าได้มีการแจ้งความร้องทุกข์เกี่ยวกับผู้ต้องหารายนี้หรือไม่ ส่วนการติดต่อไปยังแฟนสาวของผู้ต้องหานั้น ทางเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างดำเนินการเชิญตัวมาสอบสวนที่สน.ปทุมวัน จึงขอฝากประชาสัมพันธ์หากมีผู้เสียหายรายอื่นที่ถูกกระทำในลักษณะเดียวกัน หรือว่าถูกทำร้าย หรือถูกลักทรัพย์ ให้มาดูตัวผู้ต้องหาที่สน.ปทุมวัน ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ดำเนินคดีอย่างเด็จขาด เพราะเป็นนโยบายสำคัญของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่จะไม่อนุญาตให้ประกันตัวในชั้นศาล เนื่องจากว่าเป็นบุคคลต่างด้าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการแถลงข่าวได้มีกลุ่มผู้เสียหายจำนวนมาก มารอบริเวณโดยรอบของสถานที่แถลงข่าว และมีเจ้าหน้าที่ควบคุมผู้ชนกว่า 10 นาย เฝ้าดูแลความเรียบร้อย เมื่อเจ้าหน้าที่เชิญตัวผู้เสียหายมาชี้ตัว ก็ได้ตบเข้าที่หน้าผากผู้ต้องหา 3 ครั้ง ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเข้าห้ามปราม และหลังจากแถลงข่าวได้เกิดเหตุการชุลมุนอีกโดยมีกลุ่มผู้เสียหายเข้ามารุมทำ ร้ายร่างกายนายวีระพัน จนเจ้าหน้าที่รีบควบคุมตัว นายวีระพัน ขึ้นรถกลับไปที่ สน.ปทุมวัน ทันที
ພວກນີ້ທຳ ທຸລະກິດ ຄ້າໄມ້ເຖື່ອນ,
ພວກມັນລວຍ ຍອ້ນຂາຍສົມບັດຂອງຊາດ,ລັກຕັດໄມ້ດູ່ລາຍຂາຍ
ສິນບຸນໄປເລີຍນາມສະກຸນນີ.
Anonymous wrote:ສິນບຸນໄປເລີຍນາມສະກຸນນີ.
ນາມສະກຸນດັງບໍແພ້ໃຜໃນລະບອບເກົ່າ, ຊ່າງມາເຣັດໃຫ້ສິ້ນບຸນແທ້ໆເນາະນີ້.
ລູກຫລານເສດຖີວຽງຈັນ ເຈົ້າກົກເຈົ້າເຫລົ່າ ນະຄອນ ວຽງຈັນ ແທ້ໆ
ມາທຳໂຕເປັນນັກເລງອັນຕະພານ
ເບີ່ງຫນ້າກໍ່ກວນຕີນພໍແລ້ວເນາະ, ຕຳຣວດໄທ ໄສ້ຂີ້ມັນເລີຍ
ບໍ່ຕ້ອງເອົາໄວ້ ຄົນບໍ່ດີ ພວກມານສັງຄົມ
ແມ້! ພູດໄທເຢິສະເນາະເຣົາ ໄອ້ນັກເລງກະຈອກເອີຍ.
ເຮັດໃຫ້ຄົນລາວສົມນ້ຳຫນ້າມຶງທັງປະເທດ ບໍມີໃຜສົງສານມຶງແມ້ແຕ່ຄົນດຽວ
ບັກ ມາເຟຍຂີ້ປາທູເອີຍ. ມຶງຈະສະເຫວີຍສະຫວັນຢູ່ເຮືອນຈຳຫ້າດາວເມືອງໄທ
ຢ່າງຕ່ຳ ໓ ເຖິງ ໕ ປີແນ່ນອນ. ຫວັງວ່າລັດຖະບານລາວຄົງຈະບໍ່ຍື່ນມືເຂົາໄປຊ່ວຍ
ເຫລືອມາເຟຍອັນຕະພານໃຫ້ກັບມາແປະເປື້ອນເມືອງລາວອີກ ປ່ອຍໃຫ້ຕາຍຢູ່ທີ່
ປະເທດໄທນັນໂລດ.
เบื้องต้นทราบว่านายวีละพันธ์ได้เข้ามาทำงานในประเทศไทย และเคยคลุกคลีอยู่ในบ่อนการพนัน
โดยอ้างว่าเป็นลูกน้องของนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่
ຄົນມາຊີ້ຕົວເປັນ 10 ໂດນຄະດີຫນັກນະມຶງ " ມາເຟັຍສະຍາມ"
wrote: เบื้องต้นทราบว่านายวีละพันธ์ได้เข้ามาทำงานในประเทศไทย และเคยคลุกคลีอยู่ในบ่อนการพนัน โดยอ้างว่าเป็นลูกน้องของนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ຄົນມາຊີ້ຕົວເປັນ 10 ໂດນຄະດີຫນັກນະມຶງ " ມາເຟັຍສະຍາມ"
ເຂົາຊີ້ຫນ້າຊື່ໆ ມັນດີແລ້ວ ທີ່ເຂົາບໍ່ຖີບຫນ້າ
ຫາກບໍ່ແມ່ນຢູ່ຕໍ່ຫນ້າ ຕຳຣວດ ຢ້ານເຂົາກະທືບ
ມັນຂີ້ເພັ້ຽອອກປາກແລ້ວ
ໝໍນີ້ລັກໜີຄະດີອອກຈາກລາວເຂົ້າໄປປະເທດໄທມານານແລ້ວ, ທາງການລາວຍັງຕິດຕາມ
ຫາມັນຢູ່. ທີ່ຈິງແລ້ວມັນຢູ່ມືອງລາວບໍ່ໄດ້ຍ້ອນຄວາມເບັ່ງຄວາມຈອງຫອງຂອງມັນ ແລະ
ເສືອກໄປຢຽບຫາງລູກຫລານຜູ້ມີອິດທິພົນເຂົ້າ ຈຶ່ງຢູ່ເມືອງລາວບໍ່ໄດ້. ບາດນີ້ລະຊີວິດຂອງ
ມັນຈະຈົບລົງຢ່າງບໍ່ງາມ ຫລື ແບບພາສາໄທ ົຄນໄທມັກເວົ້າ: ມຶງຕາຍໄມ່ສວຍແນ່. ເຊື່ອ
ແນ່ວ່າທາງການໄທຕ້ອງສົ່ງມັນໃຫ້ລັດຖະບານລາວ ເພື່ອສົ່ງມັນໄປຕາຍ ດາບໜ້າ ເພາະໄທ
ບໍ່ໂງ່ທີ່ຈະໃຫ້ມັນກິນເຂົ້າຟຣີແລະນອນຄຸກຟຣີໃນປະເທດຂອງເຂົາ ແລະ ປ່ອຍໃຫ້ທາງການ
ລາວ ລົງດາບ ກັບມັນ.
10 ก.ย. 58 ที่ศาลแขวงปทุมวัน ถ.พระราม 4 พนักงานอัยการฝ่ายคดีศาลแขวงปทุมวัน ได้เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายวีระพัน หรือเฒ่า อินทะวง อายุ 38 ปี สัญชาติลาว เป็นจำเลย ในความผิดฐานทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ , ดูหมิ่นผู้อื่นซึ่งหน้าและข่มขู่ผู้อื่นให้เกิดความกลัว เข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง และฐานลักทรัพย์ รวม 4 สำนวน กรณีจำเลยได้ใช้กำลังประทุษร้ายข่มขู่ผู้เสียหาย ผู้เสียหายหลายรายย่านสยามสแควร์ ในพื้นที่ สน.ปทุมวัน กระทั่งวันที่ 8 ก.ย. เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมจำเลยได้
โดยศาลได้อ่านและอธิบายฟ้องให้จำเลยฟังแล้วสอบถาม ปรากฏว่า จำเลยให้การรับสารภาพโดยดี
ศาลพิเคราะห์แล้ว เห็นว่า จำเลยกระทำผิดตามฟ้องจริง คำพิพากษาให้ลงโทษสำนวนแรกความผิดพ.ร.บ.คนเข้าเมือง จำคุก 8 เดือน จำเลยให้การรับสารภาพ เหลือจำคุก 4 เดือน
สำนวนที่ 2 ความผิดฐานลักทรัพย์ จำคุก 12 เดือน จำเลยรับสารภาพ ลดโทษกึ่งหนึ่งเหลือ 6 เดือน
สำนวนที่ 3 ความผิดฐานทำร้ายร่างกายผู้อื่น จำคุก 2 เดือน จำเลยรับสารภาพ ลดโทษกึ่งหนึ่งเหลือจำคุก 1 เดือน
สำนวนที่ 4 ความผิดฐานทำร้ายร่างกายและดูหมิ่นซึ่งหน้า พิพากษาจำคุก 7 เดือน ลดโทษกึ่งหนึ่งเหลือจำคุก 3 เดือน 15 วัน รวมโทษจำคุกนายวีระพัน ทั้งสิ้น 14 เดือน 15 วัน
ต่อมาเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้นำตัวนายวีระพัน ไปควบคุมไว้ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ทันที
อย่างไรก็ตาม เมื่อนายวีระพัน พ้นโทษแล้วจะต้องถูกผลักดันออกจากประเทศไทยกลับลาวต่อไป
ຫຼາຍຄົນອາດບໍ່ຮູ້ບັກຊາດໝານີ້ແມ່ນຣັຖບານຊາດໝາ
ຄອມມີວນິດສົ່ງມັນໄປເປັນສາຍສືບແຕ່ຄົນມອງຂ້າມມັນໄປ
ເຖີງຢ່າງໃດກະຕາມມັນຢູ່ບໍ່ຮອດວັນພົ້ນໂທດດອກ
ນັກໂທດໄທຍຂ້າມັນຕາຍຄາຄຸກແນ່ນອນລໍຟັງໄປພີ່ນ້ອງ
ຈະແມ່ນຄວາມຈິງຫຼືບໍ່