พรรคสันนิบาติแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย หรือ NLD ของนางอองซานซูจี มีคะแนนนำลิ่วในหลายเขตเลือกตั้งกรุงเก่าย่างกุ้ง ไกลออกไปจนนครมัณฑะเลยน์ทที่อยู่เหนือขึ้นไป จนถึงรัฐมอญทางภารคตะวันออกกับรัฐชาน ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ ทั้งนี้เป็นผลนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการจากหน่วยเลือกตั้งต่างๆ ที่รายงานผ่านเว็บไซต์หนังสือพิมพ์ของเอกชนพม่า ตัวเลขที่ออกมา สอดคล้องกับการแสดงความพึงพอใจของนายทินอู (Tin Oo) ผู้นำอาวุโส ซึ่งเป็นผู้ร่วมก่อตั้ง NLD กับนางซูจีน ที่กล่าวเมื่อตอนหัวค่ำว่า "ผลการเลือกตั้งออกมาดูดี" และ "NLD อยู่ในตำแหนงที่ดี" ตามรายงานของสำนักข่าวเอพี ผลการนับคะแนนผ่านเว็บไซต์ของกลุ่มอีเลฟเว่นมีเดีย ซึ่งเป็นเจ้าของหนังสือพิมพ์พ์รายวันที่ได้รับความนิยมอย่างสูงฉบับหนึ่งของ ประเทศ รวมทั้งสิ่งพิมพ์ประเภทสารสารอีกจำนวนมาก LND มีคะแนนนำหน้า พรรคสหภาพเพื่อสมานฉันท์และการพัฒนา หรือ USDP ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลที่มีกองทัพหนุนหลัง ในทุกหน่วยเลือกตั้ง และ เกือบทั้งหมดเป็นการนำแบบทิ้งห่าง
ผู้ร่วมก่อตั้งพรรคฝ่ายค้านของอองซานซูจีได้กล่าวต่อฝูงชนที่รวมตัวกันอยู่ ด้านนอกสำนักงานใหญ่พรรคว่าอย่าคาดหวังผลสรุปการเลือกตั้งทั่วไปครั้ง ประวัติศาสตร์ของประเทศในค่ำคืนนี้ แต่ว่าผลนับคะแนนดูเหมือนจะดีมาก ติน อู กล่าวขอบคุณประชาชนหลายพันคนที่เฝ้ารออยู่ภายนอกสำนักงานใหญ่พรรคสันนิบาต แห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (NLD) ที่ติดตั้งจอขนาดใหญ่ถ่ายทอดการนับคะแนนเลือกตั้งหลังการเลือกตั้งสิ้นสุดลง ในวันนี้ (8) ติน อู กล่าวว่า พรรคยังไม่สามารถประกาศผลได้ในตอนนี้ ทั้งหมดที่สามารถกล่าวได้คือพรรค NLD อยู่ในตำแหน่งที่ดีมาก ส่วนอองซานซูจีจะไม่ออกมากล่าวอะไรกับประชาชนในคืนนี้ และขอให้ผู้สนับสนุนกลับมาใหม่ในเช้าวันจันทร์ (9) ในตอนแรกพรรค NLD ระบุว่าพรรคคาดว่าจะประกาศการนับบัตรลงคะแนนเสียงชั่วคราวในช่วงค่ำวัน อาทิตย์หรือเช้าวันจันทร์ แต่ ติน อู กล่าวว่า การประกาศจะรอไปจนกว่าการนับคะแนนจะเสร็จสมบูรณ์ ซึ่งคณะกรรมการการเลือกตั้งยังไม่ได้ระบุว่าจะเสร็จสิ้นเมื่อใด.
ผู้สังเกตการณ์ทั้งที่เป็นคนท้องถิ่น และชาวต่างชาติรวมกว่า 10,500 คน ร่วมลงพื้นที่ตรวจสอบการเลือกตั้งทั่วไปวันที่ 8 พ.ย.ของพม่า ที่เริ่มเข้าสู่ช่วงนับถอยหลัง 5 วันสุดท้าย คณะกรรมการการเลือกตั้งสหภาพ (UEC) ระบุว่า ผู้สังเกตการณ์ 10,500 คน ประกอบด้วยนักการทูต และคณะสังเกตการณ์การเลือกตั้งระหว่างประเทศ 1,118 คน และผู้สังเกตการณ์จากองค์กรท้องถิ่น 9,406 คน นอกจากนั้น ยังมีบุคลากรด้านสื่อ 290 คน จากองค์กรสื่อต่างประเทศ 45 แห่ง จะร่วมรายงานการเลือกตั้งครั้งนี้ คำแถลงของ UEC ที่ออกในวันนี้ (3) เรียกร้องให้ผู้สังเกตการณ์ปฏิบัติตามข้อระเบียบปฏิบัติสำหรับผู้สังเกต การณ์ของ UEC และกฎหมายของประเทศเพื่อหลีกเลี่ยงความลำเอียงอคติ ศูนย์ข้อมูลผลการเลือกตั้ง 2 แห่ง มีกำหนดเปิดดำเนินการที่ศูนย์สันติภาพพม่าในนครย่างกุ้ง และที่สำนักงาน UEC ในกรุงเนปีดอ ซึ่งจะเริ่มดำเนินการตั้งแต่วันเลือกตั้งเป็นต้นไป UEC ระบุว่า มีผู้สมัครรับเลือกตั้งรวม 6,040 คน จากพรรคการเมือง 91 พรรค และที่เป็นผู้สมัครอิสระจะร่วมลงแข่งขันเพื่อชิงเก้าอี้มากกว่า 1,000 ที่นั่งในสภาแต่ละระดับแตกต่างกัน คณะกรรมการฯ ได้กำหนดเขตการเลือกตั้งรวม 1,163 เขตทั่วประเทศ โดยแบ่งเขตเลือกตั้งผู้แทนสภาเป็น 3 ระดับ ประกอบด้วย สภาผู้แทนราษฎร (สภาล่าง) วุฒิสภา (สภาสูง) และสภาเขต หรือรัฐที่เกี่ยวข้องต่อผู้แทนชาติพันธุ์ และจาก 1,163 เขตเลือกตั้ง เป็นการเลือกตั้งเพื่อเก้าอี้ในสภาผู้แทนราษฎร 330 ที่นั่ง สภาสูง 168 ที่นั่ง สภาเขตหรือรัฐ 636 ที่นั่ง และผู้แทนชาติพันธุ์ 29 ที่นั่ง จากคะแนนเสียงของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 32 ล้านคนในประเทศ. .
ໃຜໄປກ້າເວົ້າວ່າລາວມີປະຊາທິປະໄຕ.ມັນຜເດັດການພັກໂທນ 1000% ໃນເອເຊຍໄປທຽບໄດ້ແຕ່ກັບ ເຈັກ,ແກວ,ໄທແລນ ທໍ່ນັ້ນລະ
ເພາະພວກນີ້ເຂົາແມ່ນຈຸມຜເດັດການຄືກັນ.
ປະເທດລາວສົມຄວນປ່ຽນຊື່ໃໝ່ແລ້ວ ຖ້າອິງຕາມຄຳຂັວນຫລືຊື່ປະທດທີ່ວ່າ: ສປປລ
ຫລື ສາທາລະນະລັດ ປະຊາທີປະໄຕ ປະຊາຊົນ ລາວ ເພາະວ່າປະຊຊົນບໍ່ມີ ປະຊາທິປະໄຕ
ດັ່ງທີ່ເປັນຊື່ຂອງປະເທດ. ການເລືອກຕັ້ງຢູ່ ສປປລ ສ່ວນຫລາຍຫຼືທັງໝົດຂອງ ສສ ຫລື ຜູ້
ແທນ ປຊຊ ນັ້ນ ກໍແມ່ນບຸກຄົນທີ່ສູນກາງພັກເປັນຜູ້ສົ່ງຊື່ເຂົ້າມາແລ້ວບັງຄັບໃຫ້ປະຊາຊົນເຂົ້າມາ
ປ່ອນບັດເອົາ.
ສປປລ ເປັນປະເທກຜະເດັດການພັກດຽວແລະກໍເປັນຜະເດັດການ ຄມນ ອີກ ຊຶ່ງເອົາປາຍປືນຈີ້
ປາກຈີ້ຂະໝັບປະຊາຊົນບໍ່ໃຫ້ອອກສິດອອກສຽງຕໍ່ວ່າລັດຫລືສູນກາງພັກໄດ້ບໍ່ວ່າຈະເປັນທາງກົງ
ຫລືທາງອ້ອມ, ຖ້າໃຜຝືນແມ່ນມີໂທດຄິດຄຸກຍາວຫລືຫາຍສາບສູນເທົ່ານັ້ນ.
ສປປລ ຄວນປ່ຽນຊື່ມາເປັນ ສຜຄລ ຫລື: ສາທາລະນະລັດ ຜະເດັດການ ຄອມມຸຍນິດ ລາວ
ຈະສົມຄວນກ່ອນ.
ຖືວ່າລາວມີຜເດັດການໃຫຍ່ກວ່າພະມ້າ 15 ປີ ຈາກຕົວເລຂ 40-25 =15 ປີ. ເພາະ
ລາວຢູ່ໄຕ້ລະບອບຜເດັດການ ຄມ ໂດຽທະຫານຄຸມອຳນາດມາຕລອດ 40 ປີ.
ເຖິງວ່າລັດຖະບານທະຫານພະມ້າບໍ່ສະຫຼາດສ່ອງໃສ່ເທົ່າກັບ ພັກ-ລັດ ທະຫານລາວ
ກໍ່ຕາມ.ແຕ່ເຂົາກໍ່ຮູ້ຫັນປ່ຽນຕາມຍຸກສະໄໝ ຊຶ່ງຜິດກັບການນຳລາວຮູ້ແຕ່ເວົ້າວ່າ
ກົງລໍ້ປະຫວັດສາດບໍ່ຖອຍຫຼັງ ແຕ່ກັບໄປຂວາງລໍ້ ແລະ ພຍາຍາມເຮັດໃຫ້ມັນຖອຍຫຼັງ.
ຄືແນວນີ້ຈຶ່ງມີຄວາມເປັນຫ່ວງຢ້ານພວກຜເດັດການທະຫານລາວຖືກກົງລໍ້ປະຫວັດສາດ
ຢຽບແອວຫັກຕາຍປະລູກເມຍ ແລະ ສົມບັດທີ່ກົງຊາດ ແລະ ປະຊາຊົນມາດ້ວຍຄວາມ
ບໍ່ຊອບທັມ.ອາເມັນ!!!