ซูจี’นำพรรคชนะ กวาดไปได้56ที่นั่ง

กกต.เมียนมา ทยอยประกาศผลเลือกตั้งแล้ว พรรคเอ็นแอลดีของนางอองซาน ซูจี คว้าชัยถล่มทลาย โดยในย่างกุ้งกวาด ส.ส. 56 ที่นั่ง ขณะที่รักษาการประธานพรรคยูเอสดีพียอมรับความพ่ายแพ้โดยดี เตรียมเรียกประชุมสมาชิกหารือประเมินสถานการณ์ระหว่างรอผลเลือกตั้งเป็นทาง การ ด้านประธานาธิบดีเต็ง เส่ง ยังเก็บตัวเงียบ

สำนักข่าวต่างประเทศทั้งเอพี เอเอฟพี และรอยเตอร์ ติดตามรายงานผลการเลือกตั้งเมียนมาซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 8 พ.ย.ที่ผ่านมา โดยนายทิน อาย ประธานคณะกรรมการจัดการการเลือกตั้ง (กกต.) เมียนมา ประกาศผลเลือกตั้งอย่างเป็นทางการรอบแรก ซึ่งเป็นการสรุปผลการนับคะแนนเลือกตั้งทั้ง 16 เขต ของนครย่างกุ้ง เมืองใหญ่ที่สุดของเมียนมา เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 9 พ.ย. ตามเวลาท้องถิ่น ปรากฏว่า พรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (เอ็นแอลดี) ฝ่ายค้าน ซึ่งมีนางออง ซาน ซูจี เป็นหัวหน้าพรรค ได้รับชัยชนะไปอย่างถล่มทลาย โดยตัวแทนพรรคเอ็นแอลดีได้รับเลือกตั้งเข้าไปในสภาผู้แทนราษฎรทั้งหมด 12 ที่นั่ง และสภาสูงอีก 3 ที่นั่ง ขณะที่ตัวแทนพรรคสหภาพ สามัคคี และการพัฒนา (ยูเอสดีพี) หรือพรรครัฐบาลเมียนมาได้รับเลือกเข้าไปในสภาสูงเพียง 1 ที่นั่ง ทั้งนี้ กกต.จะทยอยประกาศผลสรุปการนับคะแนนในเขตอื่นๆทั่วประเทศภายใน 48 ชม.ต่อจากนี้

ด้านนายวิน เต็ง โฆษกพรรคเอ็นแอลดี แถลงต่อประชาชนนับพันคนที่มารวมตัวกันที่ด้านหน้าที่ทำการพรรคเอ็นแอลดีใน นครย่างกุ้ง ตั้งแต่ช่วงบ่ายวันที่ 8 พ.ย. ถึงช่วงสายวันที่ 9 พ.ย. เพื่อติดตามผลการนับคะแนนเลือกตั้ง โดยระบุว่าเอ็นแอลดีชนะเลือกตั้งแล้วประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์ทั่วประเทศ แต่ยังต้องรอการประกาศผลยืนยันอย่างเป็นทางการจาก กกต.อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งประชาชนที่มารอฟังผลได้ร่วมกันร้องเพลงประจำพรรคพร้อมกันด้วยความยินดี

ขณะที่นางออง ซาน ซูจี ผู้นำพรรคเอ็นแอลดี กล่าวปราศรัยต่อประชาชนที่มารวมตัวกันหน้าที่ทำการพรรคในช่วงสายวันที่ 9 พ.ย. ว่า อาจเร็วเกินไปที่จะแสดงความยินดีต่อสมาชิกพรรคเอ็นแอลดี ในฐานะผู้คว้าชัยในการเลือกตั้งครั้งนี้ แต่เชื่อว่าประชาชนคงคาดเดาได้แล้วว่าผลที่ออกมาจะเป็นอย่างไร ทั้งนี้ นางซูจียังได้เรียกร้องให้ผู้สนับสนุนพรรคเอ็นแอลดียอมรับผลการเลือกตั้งใน กรณีที่ตัวแทนพรรคเป็นฝ่ายแพ้ พร้อมขอความร่วมมือผู้สนับสนุนพรรคงดแสดงความเห็นยั่วยุ หรือทำให้ผู้สนับสนุนพรรคฝ่ายตรงข้ามรู้สึกไม่ดี

ด้านนายเทย์ อู รักษาการประธานพรรคยูเอสดีพี พรรครัฐบาลเมียนมา ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวรอยเตอร์ โดยยอมรับว่าพรรคยูเอสดีพีเป็นฝ่ายแพ้การเลือกตั้งครั้งนี้ ไม่เว้นแม้กระทั่งเมืองฮินทาดา บริเวณสามเหลี่ยมปากแม่น้ำอิรวดี ซึ่งเคยเป็นฐานที่มั่นของผู้สนับสนุนพรรคยูเอสดีพี สิ่งที่เกิดขึ้นถือเป็นเรื่องน่าผิดหวัง และพรรคจะต้องสืบหาสาเหตุ โดยพรรคจะเรียกประชุมสมาชิกมาหารือถึงสถานการณ์ต่างๆ ในระหว่างรอผลสรุปการนับคะแนนอย่างเป็นทางการทั่วประเทศจาก กกต.

ส่วนนายฉ่วย มาน ประธานสภาผู้แทนราษฎรเมียนมาและอดีตประธานพรรคยูเอสดีพี เผยแพร่ข้อความผ่านเฟซบุ๊กเพื่อแสดงความยินดีต่อพรรคเอ็นแอลดีในฐานะผู้ชนะ การเลือกตั้งในครั้งนี้ พร้อมทั้งประกาศยอมรับความพ่ายแพ้ของตน แต่ประธานา-ธิบดีเต็ง เส่ง มิได้ปรากฏตัวให้สัมภาษณ์สื่อแต่อย่างใด

อย่างไรก็ตาม แม้พรรคเอ็นแอลดีจะเป็นฝ่ายชนะในการเลือกตั้งครั้งนี้อย่างถล่มทลาย แต่นางซูจี ซึ่งเป็นที่เคารพรักของประชาชนเมียนมาก็ไม่สามารถดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี ได้ เพราะรัฐธรรมนูญของเมียนมาห้ามบุคคลที่มีคู่สมรสหรือบุตรเป็นชาวต่างชาติรับ ตำแหน่งดังกล่าว ขณะที่อดีตสามีและลูกชายทั้งสองคนของนางซูจีเป็นชาวอังกฤษ แต่นางซูจีได้ประกาศล่วงหน้าไว้แล้วว่าพร้อมจะบริหารประเทศโดยอยู่เหนือ ประธานาธิบดี