ชาว เซินเจิ้นช็อครับสุดสัปดาห์! เหตุดินถล่มครั้งใหญ่ในเขตนิคมอุตสาหกรรมทางตะวันตกเฉียงเหนือ ทุบทำลายและสูบตึกจมธรณี รวม 22 หลัง หน่วยกู้ภัยเร่งค้นหาผู้สูญหายเกือบครึ่งร้อย รายงานข่าว (20 ธ.ค.) กล่าวว่าตำรวจได้รับแจ้งเหตุการณ์ซึ่งเกิดขึ้นที่นิคมอุตสาหกรรมหลิวซี เขตก่วงหมิงใหม่ของนครเซินเจิ้น มณฑลก่วงตง (กวางตุ้ง) ทางจีนตอนใต้ เมื่อราว 11.40 น. ตามเวลาท้องถิ่นวันนี้ โดยสำนักข่าวซินหวาเผยยอดผู้สูญหายล่าสุดอยู่ที่อย่างน้อย 41 รายแล้ว แถลงการณ์จากหน่วยกู้ภัย สังกัดกระทรวงพิทักษ์สันติราษฎร์ ระบุว่าก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่สามารถช่วยชีวิตผู้ประสบภัย 8 ราย ซึ่งหนึ่งรายได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ส่วนปัจจุบันเจ้าหน้าที่กู้ภัยอีกกว่า 1,500 นาย กำลังออกปฏิบัติหน้าที่ค้นหาผู้รอดชีวิตที่อาจติดค้างอยู่ใต้ซากปรักหักพัง สถานีโทรทัศน์กลางแห่งชาติจีน (ซีซีทีวี) รายงานว่า กลุ่มอาคาร 22 หลัง ที่ต่างพังทลาย ถูกถอนรากถอนโคนจนล้มระเนระนาด และถูกสูบจมดิน จนกลายเป็นลานกว้างขนาด 20,000 ตารางเมตรนั้น มีหอพักคนงานรวมอยู่สองหลัง ขณะเดียวกันพื้นที่ติดกับนิคมอุตสาหกรรมฯ ก็เป็นย่านอาคารที่พักอาศัยของประชาชน นายเริ่น จี้กวง รองหัวหน้าสำนักงานพิทักษ์สันติราษฎร์นครเซินเจิ้น ให้สัมภาษณ์กับซีซีทีวีว่า เจ้าหน้าที่สามารถอพยพประชาชนราว 900 คน ไปยังพื้นที่ปลอดภัยได้ทันเวลาก่อนหายนะจะบังเกิด แต่ก็ยังมิอาจไว้วางใจได้ว่าจะไม่มีผู้โชคร้ายถูกฝังอยู่ใต้ดิน นอกจากนั้นซีซีทีวีรายงานว่า เกิดเหตุท่อส่งก๊าซธรรมชาติสายตะวันตก-ตะวันออกของทางการจีน ซึ่งวางแนวอยู่ใกล้กับที่เกิดเหตุดินถล่ม ปะทุระเบิดขึ้นมาอีกด้วย หนังสือพิมพ์เป่ยจิง ยูทธ์ เดลี อ้างชาวบ้านท้องถิ่นรายงานว่า มวลดินตัวการก่อหายนะเป็นของเสียจากโครงการก่อสร้าง ซึ่งถูกขุดขึ้นมากองสุมสูงกว่า 100 เมตร อยู่ข้างนิคมอุตสาหกรรมฯ ตลอดสองปีที่ผ่านมา ด้านหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น เซินเจิ้น สเปเชียล โซน เดลี อ้างเจ้าพนักงานแผนกตรวจสอบความปลอดภัยของเขตก่วงหมิงใหม่ระบุว่า สาเหตุดินถล่มมาจากการล้นทะลักของ “โคลน” ในกองดิน ซึ่งถูกจัดการอย่างไม่ถูกต้องตามกฎระเบียบข้อบังคับ คนงานชายของบริษัทท้องถิ่นแห่งหนึ่งเผยกับสื่อฮ่องกง เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ ว่าช่วง 2-3 ปี มานี้ มีการขนถ่ายดินโคลนมากองทิ้งไว้ข้างนิคมอุตสาหกรรมฯ อย่างต่อเนื่อง โดยเขาเสริมว่า “ชาวบ้านร้องเรียนปัญหามานานแล้ว แต่ก็ไม่เคยมีการแก้ไขอะไร”
CHINA MADE ທຸກສິ່ງທຸກຢາ່ງ ບໍ່ໄດ້ ມາດຕະຖານ
ບິງທາດຫລວງ ປັດຈຸບັນນີ້ຈີນກຳລັງກໍ່ສ້າງຕຶກສຸງຫລາຍຊັ້ນ
ໃນອານາຄົດອາດຖະຫລົ່ມລົງໄດ້ເໝືອນກັນ
wrote:CHINA MADE ທຸກສິ່ງທຸກຢາ່ງ ບໍ່ໄດ້ ມາດຕະຖານບິງທາດຫລວງ ປັດຈຸບັນນີ້ຈີນກຳລັງກໍ່ສ້າງຕຶກສຸງຫລາຍຊັ້ນໃນອານາຄົດອາດຖະຫລົ່ມລົງໄດ້ເໝືອນກັນ
ບໍ່ຕ້ອງຫ່ວງເດີບຶງທາດຫຼວງເພາະຜູ້ນຳລາວ 11 ຄົນມີແຕ່ຜູ້ກ້າວກຶງຄໍເປັນໜຳບໍ່ຕ່າງຫຍັງກັບຄວາຍຊົນ
ແຖມກະດູກເຫຼັກອີກ,ຖ້າມັນຈະຖະຫຼົ່ມລົງມາພວກຄໍຄວາຍໜຳເອົາບ່າໄປຄຶງໄວ້ກໍ່ປອດໄພແລ້ວ.
ເຫັນໄດ້ຈາກລາຍງານຄວາມສາມາດຜູ້ນຳປະທານປະເທດກ້າວຕໍ່ກອງປະຊຸມຜູ້ອະວຸໂສທີ່ຕ້ອງມາອ້າປາກ
ຮັບຟັງດ້ວຍຄວາມຈຳເປັນ,ຈຳໃຈ(ບອກໄປແລ້ວໃຫ້ມາຟັງ,ໃຜບໍ່ມາຮັບຜິດຊອບເອົາເອງ)
ວ່າ:ກ່ອນໜ້ານີ້ 40 ປີ ຄາວເພິ່ນມາປົດປ່ອຍ,ເມືອງລາວເປັນເມືອງທີ່ອຸດົມສົມບຸນເຕັມໄປດ້ວຍພູຜາ
ປ່າໄມ້,ສັດປ່ານາໆພັນຮວມທັງໝາຈິງຈອກ.ຖະໜົນຫົນທາງບໍ່ມີ,ທາງປູຍາງຍິງເປີ.ເຖິງມີກໍ່ບໍ່ເຖິງຫຼັກ
ກິໂລພຽງລໍ້ໃຈໃຫ້ປະຊາຊົນມາປ່ອນບັດເພື່ອໄດ້ເປັນຜູ້ແທ່ນແລ້ວກະລືມໄປຊຶ່ງມັນຜິດກຳຍຸກປະຈຸບັນ
ທີ່ຜູ້ແທນພັກປະຊາຊົນປະຕິວັດລາວທີ່ເພິ່ນເປັນເລຂາທິການໃຫຍ່ແຕ່ງໃຫ້ລົງສະມັກບໍ່ຈຳເປັນຈະໄປ
ສ້າງຖະໜົນຫົນທາງ,ສຸກສາລາ,ໂຮງໝໍ,ໂຮງຮຽນ ລໍ້ໃຈປະຊາຊົນຫັຽງເລີຍ ພຽງບອກໃຫ້ເຂົາມາເລືອກ
ເອົາຜູ້ແທ່ນພັກສົ່ງ.ໃຜບໍ່ມາຮັບຜິດຊອບເອົາເອງແຄ່ນີ້ກໍ່ໄດ້ຜົນ 100% ແລ້ວ.
ແຕ່ຟັງແລ້ວກະຄືຄວາມຈິງອີກຫຼີ.ແຕ່ມີສິ່ງໜຶ່ງທີ່ເພິ່ນບໍ່ກ້າວເຖິງຈະໂດຽເຈຕນາ ຫຼື ລືມກະບໍ່ຊາບ
ເພາະປ່າໄມ້ທີເຄີຍອຸດົມສົມບຸນເມື່ອ 40 ປີກ່ອນທີ່ໝາຈິງຈອກໄດ້ອາໃສນັ້ນໝົດຈາກດິນລາວໄປແລ້ວ
ຈົນໝາຈິງຈອກໄດ້ເຂົ້າມາຮາວີອາໃສເຖິງໃນທີ່ຊຸມຊົນໜາແໜ້ນໃນນະຄອນຫຼວງ ແລະ ຫົວເມືອງຕ່າງໆ
ເຮັດໃຫ້ປະຊາຊົນລາວທັງໝົດຫວາດກົວໝາຈິງຈອກ.ຄຽງຄູ່ຄວາມຫວາດກົວກໍ່ຄິດຫາທາງກຳຈັດໝາ
ຈິງຈອກ.ແຕ່ກໍ່ສົງສານສັດທີ່ບໍ່ມີປ່າຈະອາໃສອີກແລ້ວ.ແຕ່ເຂົາຄົງບໍ່ລືອກເອົາໄດ້ທັງສອງແນວທີ່ຂັດກັນເພາະ
ຕາມຫຼັກທຳມະດາມັນກໍ່ເປັນໄປບໍ່ໄດ້.