ລັດຖະບານຈະກໍາຈັດ ພວກພະນັກງານລັດຖະກອນທີ່ສໍ້ໂກງ
ປັດຈຸບັນ ລັດຖະບານລາວ ໄດ້ມີຄຳສັ່ງ ໃຫ້ ທຸກແຂວງ ໃນທົ່ວປະເທດ ເພີ້ມເຂັ້ມງວດ ແກ້ໄຂ ບັນຫາ ການສໍ້ລາດ ບັງຫຼວງ ໃຫ້ຫຼາຍຂຶ້ນ ຍ້ອນວ່າມັນ ເປັນສິ່ງທີ່ ທ້າທາຍຕໍ່ ຄວາມກ້າວໜ້າ ຂອງ ປະເທດ. ໃນລະຍະ 5 ປີ ຜ່ານມາ ສາມາດ ກວດພົບການ ສໍ້ລາດ ບັງຫຼວງ ໄດ້ຫຼາຍກວ່າ 700 ເປົ້າໝາຍ ທີ່ສ້າງຄວາມ ເສຍຫາຍ ຫຼາຍຕື້ກີບ
ເຈົ້າໜ້າທີ່ ກ່າວວ່າ ໂດຍອີງໃສ່ ການຣາຍງານ ຂອງ ກອງປຸຊຸມໃຫຍ່ ຄັ້ງ ທີ 3 ຂອງ ອົງຄນະພັກ ຄນະກວດກາ ສູນກາງພັກ ໃນວັນທີ 28 ກັນຍາ ທີ່ຜ່ານມາ ຕອນນຶ່ງ ໄດ້ລາຍງານ ວ່າ 5 ປີ ຜ່ານມາ ໄດ້ ປະຕິບັດ ວິໄນ ສະມາຊິກພັກ ທີ່ໄປພົວພັນ ການສໍ້ລາດ ບັງຫຼວງ 1,800 ຄົນ, ໃນນັ້ນ ຖືກໄລ່ອອກ ຈາກການ ປະມານ 1,000 ຄົນ ໃຫ້ເປັນ ປະຊາຊົນ ທົ່ວໄປ ແລະ ຫ້າມບໍ່ໃຫ້ ກ່ຽວຂ້ອງ ວຽກງານ ການເມືອງ ອີກ ແລະ ສິ່ງນຶ່ງ ທີ່ຈະຕ້ອງ ແກ້ໄຂ ຕໍ່ໄປ ກໍຄື ແກ້ໄຂການໃຊ້ ລະບົບ ເສັ້ນສາຍ ໃນ ພັກ-ລັດ. ຊຶ່ງອົງການ ຄວາມໂປ່ງໄສ ສາກົນ ໄດ້ລາຍງານ ໃນປີ ທີ່ຜ່ານມາ ວ່າ ສປປ ລາວ ເປັນປະເທດ ທີ່ມີການ ສໍ້ລາດ ບັງຫຼວງ ທີ່ຕົກຢູ່ໃນ ອັນດັບທີ 139 ໃນຈຳນວນ ທັງໝົດ 167 ປະເທດ ໃນໂລກ.
ทางการลาวแสดงตัวเลข ผลงานการปราบปรามฉ้อราษฎร์บังหลวง ในหมู่เจ้าหน้าที่ของพรรคและรัฐ ในระยะ 5 ปีที่ผ่านมา โดยระบุว่ามีการลงโทษ ให้พ้นจากการเป็นสมาชิกพรรคประชาชนปฏิวัติลาว ถึง 1,000 คน ลงโทษทางวินัยอีกเกือบ 2,000 ทั้งยุบหน่วยพรรค และ ส่งคำเตือนถึงระดับแขวง ระดับเมืองอีกหลายกรณี คณะกรรมการตรวจตราระดับศูนย์กลาง ยังเปิดเผยตัวเลขการค้นพบการตัดไม้ทำลายป่าอย่างผิดกฎหมาย ที่เกี่ยวพันกับเจ้าหน้าที่รัฐ เป็นปริมาตรมหาศาล ในปีที่รัฐบาลใหม่ สั่งหยุดการตัดไม้ทุกชนิด ห้ามส่งออกและห้ามการเคลื่อนย้าย ไม้ซุง รวมทั้งผลิตภัณฑ์ไม้ทุกชนิด อันเป็นเรื่องที่ไม่เคยปรากฎมาก่อน การให้พ้นจากสมาชิกพรรค เป็นการลงโทษรุนแรงในระบอบที่ปกครองโดยพรรคการเมืองพรรคเดียว เพราะผู้ถูกลงโทษ จะไม่สามารถดำรงตำแหน่งใดๆ ไม่สามารถเข้าร่วมกิจกรรมใดๆ กับพรรคประชาชนปฏิวัติลาวได้อีก อนาคตทางการเมืองและหน้าที่ต่างๆ ในรัฐบาล หมดไปอย่างสิ้นเชิง และ จะถูกดำเนินคดีติดตามมา ตามฐานความผิด การคอร์รัปชั่นทำให้รัฐสูญเสียเป็นเงินงบประมาณ ถึง 4,145.86 ล้านล้านกีบ กับอีก 70.77 ล้านดอลลาร์ เงินไทยอีก 381.68 ล้านบาท กับอีก 539,518 หยวน เงินสกุลจีน ผู้ที่ถูกลงโทษทางวินัย มีสมาชิกพรรคที่เป็นสตรีรวมอยู่ด้วย 173 คน มีการเปิดเผยเรื่องราวกับตัวเลขเหล่านี้ ระหว่างประชุมใหญ่พรรคสาขา คณะกรรมการตรวจตราศูนย์กลางพรรค ที่จั้ดขึ้นในนครเวียงจันทน์สัปดาห์ที่ผ่านมา นั่นคือผลงานในระยะ 5 ปี นับตั้งแต่ปี 2554 เป็นต้นมา ซึ่งเป็นช่วงการบริหารงานของรัฐบาลอดีตนายกรัฐมนตรีทองสิง ทำมะวง โดยทั้งหมดเกี่ยวข้องการการตรวจสอบการคอร์รัปชั่นรวม 734 กรณี นายบุนทอง จิตมะนี กรรมการกรมการเมืองอาวุโส รองนายกรัฐมนตรีคนที่ 1 ซึ่งเป็นประธานคณะกรรมการตรวจตราศูนย์กลางฯ เปิดเผยเรื่องนี้ ระหว่างปราศรัยต่อที่ประชุมใหญ่พรรคสาขา โดยระบุในตอนหนึ่งว่า หลังจากพรรคและรัฐบาล เอาใจใส่เพื่อแก้ปัญหาการฉ้อราษฎร์บังหลวงอย่างยจริงจัง เพื่อสร้างความเข้มแข็งภายในพรรค และปฏิบัติแผนพัฒนาเศรษฐกิจสังคมแห่งชาติฉบับที่ 7 (2011-2015) ให้บรรลุเป้าหมาย "ຄະນະກວດກາສູນກາງພັກໄດ້ ເຄື່ອນໄຫວຕິດຕາມກວດພົບ 734 ເປົ້າໝາຍທີ່ມີການສໍ້ລາດບັງຫລວງ.." ซึ่งสร้างความเสียหายแก่งบประมาณของรัฐ อย่างมหาศาล คณะกรรมการดังกล่าว ยังตรวจพบการตัดไม้และทำไม้อย่างผิดกฎหมาย เป็นปริมาตร 303,193,297 ลูกบาศก์เมตร ได้รับการร้องเรียน และ การเสนอแนะจากทั่วประเทศ รวมกว่า 3,600 กรณี แก้ไขได้ 2,719 กรณี ปัญหาโดดเด่นที่สุดได้แก่ ความขัดแย้งเกี่ยวกับที่ดินอยู่อาศัย ปัญหาในการดำเนินธุรกิจ กับความไม่พอใจเกี่ยวกับการตัดสินของศาล
การจัดตั้งสองหน่วยงานใหม่เมื่อปีที่แล้ว ซึ่งได้แก่กรมสืบสวนสอบสวนการฉ้อราษฎร์บังหลวง และ กรมติดตามตรวจตราการปฏิบัติผลการตรวจตรา ได้ทำให้การปฏิบัติงานระดับศูนย์กลาง ให้มีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น ดร.บุนทองกล่าว รายงานระบุว่า คณะกรรมการตรวจตราฯ ได้ส่งคำเตือนไปยังแขวง 1 แขวง เกี่ยวกับการฉ้อราษฎร์บังหลวง ตำหนิพรรคระดับสาขาเมือง (อำเภอ) อีก 7 แห่ง ตำหนิ 3 หน่วยพรรค กล่าวเตือนอีก 3 หน่วยพรรค และ ยุบการจัดตั้งอีก 3 หน่วยพรรค รายงานของ ดร.บุนทอง ไม่ได้ระบุรายละเอียดเกี่ยวกับเป้าหมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในคณะกรรมการพรรคแขวงที่ถูกตักเตือน ซึ่งทำให้เข้าใจกันว่าเป็นแขวงหัวพัน ฐานที่มั่นปฏิวัติเก่า ที่พัวพันกับการทุจริตคอร์รัปชั่น และ เคยตกเป็นข่าวใหญ่มาแล้ว เมื่อเจ้าหน้าที่การเงินแขวงเกือบ 60 คน ถูกจับกุมฐานยักยอกงบประมาณของรัฐ ไปเป็นของตนเองกับพรรคพวก เวลาต่อมามี 20 คน ในจำนวนดังกล่าวถูกดำเนินคดี แขวงนี้ตกเป็นข่าวใหญ่อีกครั้งหนึ่ง เมื่อมีการเผยแพร่รูปภาพภายในถ้ำปฏิวัติเมืองเวียงไซ ที่เคยใช้เป็นที่หลบซ่อนของนักรบฝ่ายปะเทดลาวในอดีต ได้ถูกดัดแปลงเป็นสถานบันเทิง โดยนักลงทุนจากเวียดนาม และ มีการแสดงเต้นของหญิงสาว นุ่งน้อยห่มน้อย ระหว่างการประชุมพรรคสาขาแขวงหัวพันเมื่อปีที่แล้ว ได้มีการเปลี่ยนแปลงตัวบุคคลใหม่ในทุกระดับ ตั้งแต่เลขาพรรคแขวง/เจ้าแขวง รองเลขาพรรค ผู้ตรวจตราพรรคแขวง โดยปราศจากคำอธิบาย น.พ.คำฮุ่ง เฮืองวงสี เลขาพรรคแขวง กรรมการศูนย์กลางพรรค ซึ่งก่อนหน้านั้นเป็นอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้พ้นจากทุกตำแหน่งในแขวงหัวพัน.
ທອງລຸນ ສີສຸລິດ ນາຍົກລັດຖະມົນຕີ ແຫ່ງ ສປປລາວ ສັ່ງຮື້ຖອນ ແລະ ຍົກຍ້າຍ ຮ້ານກິນດຶ່ມ, ຮ້ານບັນເທີງ ທີ່ຢູ່ໃກ້ສະຖານສຶກສາ. ໂດຍດ່ວນ!ຝ່າຝືນ ຈະຖືກລົງໂທດ ແລະ ລົງວິໄນ ຢ່າງໜັກ!
Anonymous wrote:ນາຍົກ ສັ່ງການຮື້ຖອນສະຖານບັນເທີງ-ຮ້ານກິນດື່ມ ທີ່ຢູ່ໃກ້ສະຖານສຶກສາດ່ວນ! ທອງລຸນ ສີສຸລິດ ນາຍົກລັດຖະມົນຕີ ແຫ່ງ ສປປລາວ ສັ່ງຮື້ຖອນ ແລະ ຍົກຍ້າຍ ຮ້ານກິນດຶ່ມ, ຮ້ານບັນເທີງ ທີ່ຢູ່ໃກ້ສະຖານສຶກສາ. ໂດຍດ່ວນ!ຝ່າຝືນ ຈະຖືກລົງໂທດ ແລະ ລົງວິໄນ ຢ່າງໜັກ!
ປະເທດຊາດພັງທະລາຍມາໄດ້ 40ກວ່າປີແລ້ວ ຫາກໍພາກັນຄິດໄດ້ບໍ່......?
ລູກຫລານລາວ ໄດ້ຮັບຜົລກະທົບໂດຍຕົງ ໃນການໂກງກິນຊາດ
ຂອງພະນັກງານ ພັກລັດ
ຖ້າພວກສະຫາຍບໍ່ຮັກສາ ດິນແດນລ້ານຊ້າງແຜ່ນນີ້
ພະເຈົ້າຟ້າງຸ່ມຈະບໍ່ໃຫ້ອະໄພ ແກ່ໂຄດເຊື້ອຂອງພວກສະຫາຍແນ່ນອນ...
ຖ້າຈະເຮັດຈິງ ກໍລົງມືເຮັດຈິງຈັງ
ຢ່າຢາກສ້າງແຕ່ພາບພົດທໍ່ນັ້ນ..............