"ประวิตร" ขอ ทางการลาว ส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน

"ประวิตร" แย้มคนในให้ข้อมูลบุกยึดอาวุธสงครามเครือข่ายโกตี๋ เหตุไม่อยากเห็นความรุนแรง ซัดกลับแดงปทุมฯ ใครจัดฉากกันแน่ สั่งประสานทางการลาวขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน โวทหารเก่าผ่านสงครามมาเยอะ ไม่กลัวโดนลอบสังหาร "ตร." เร่งขยายผลฟันผู้บงการเบื้องหลัง "ดีเอสไอ" พร้อมรับเป็นคดีพิเศษ

เมื่อวันจันทร์ ปฏิบัติการตรวจค้นติดตามอาวุธสงคราม วัตถุระเบิด และสิ่งของผิดกฎหมายของเครือข่ายนายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ หรือโกตี๋ แกนนำเสื้อแดงปทุมธานี ยังคงดำเนินต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารกว่า 300 นายเข้าตรวจค้นลานเก็บตู้คอนเทนเนอร์ที่ยังเปิดไม่ครบกว่า 1,000 ตู้ จากจำนวนกว่า 4,000 ตู้ บริเวณลานเก็บ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ โดยมีการทำประวัติ ควบคุมส่วนของตู้ที่ตรวจค้นแล้ว เช็กยอด และยังมีการเปิดตู้รถทุกคันที่จะออกจากลาน โดยเจ้าหน้าที่จะตรวจตู้ทุกใบจำนวน 2,203 ตู้ หลังผ่านการตรวจจะมีการจดบันทึกไว้เป็นหลักฐาน

ทั้งนี้ ตั้งแต่เริ่มปฏิบัติการจนถึงขณะนี้ยังไม่พบสิ่งผิดกฎหมายใดๆ โดย 2 วันที่ผ่านมาสามารถตรวจค้นตู้คอนเทนเนอร์ได้เพิ่มอีก 573 ตู้ รวมทั้ง 2 วันสามารถตรวจค้นไปได้แล้วจำนวน 1,128 ตู้

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม (รมว.กลาโหม) กล่าวถึงการตรวจยึดอาวุธสงครามจำนวนมากจากบ้านพักของเครือข่ายนายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ (โกตี๋) แกนนำเสื้อแดงปทุมธานี ภายในบริษัท ไทยแม็กซ์กรุ๊ป จำกัด เลขที่ 1/1 หมู่ที่ 6 ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี และบ้านปูน 2 ชั้นว่า การดำเนินการดังกล่าวเราพยายามติดตามมาโดยตลอด ซึ่งพื้นที่นี้เจ้าหน้าที่ได้เข้ามาตรวจแล้วครั้งหนึ่งแต่ไม่พบอาวุธสงคราม จากนั้นก็มีการเคลื่อนย้ายอาวุธกลับเข้ามาอีก โดยชุดข่าวของตนได้ติดตามพฤติกรรมของกลุ่มนี้ รวมทั้งมีข่าวข้างในมา เพราะมีคนไม่ต้องการให้เกิดความรุนแรงได้ให้การข่าวตรงกัน จนเป็นที่มาของการตรวจค้นแล้วจับกุม ไม่ใช่อยู่ดีๆ จะเดินเข้าไปจับเลยแบบนั้นไม่ได้

พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า การข่าวต้องติดตามทุกเรื่อง ไม่เช่นนั้นประเทศก็ไม่สงบ ตนตามข่าวนี้มานาน ตามมาตลอด ไม่ต้องกลัวในเรื่องความมั่นคง เราตามทุกเรื่องจำไว้ ที่นายโกตี๋ออกข่าวมีการจัดฉาก ก็นายโกตี๋จัดฉากนั่นอย่างไร ก็ว่ากันไป ตอนนี้เอาตัวให้รอดเถอะ

ถามว่า มีข่าวอาวุธดังกล่าวจะนำมาลอบสังหารผู้นำ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า เจ้าหน้าที่ก็ต้องสืบสวนข้อเท็จจริงต่อไป เรื่องดังกล่าวนายโกตี๋เป็นคนพูดและประกาศลั่นเลย แถมมีคนรับลูก ซึ่งมีแนวทางว่าจะมาทำงานกันในแถวนั้น ซึ่งพวกคุณคิดดูแล้วกันว่าจะไปก่อเหตุที่ใด จะใช่แถววัดพระธรรมกายหรือไม่ ตนไม่รู้เพราะยังไม่เกิดขึ้น

"ผมจะขอตัวนายโกตี๋จากทางการลาวอยู่แล้ว เพราะมีคดีอาญาเรื่องคดีอาวุธสงครามในประเทศไทย ผมอยากได้ตัวเขา ซึ่งก็จะทำเรื่องขอตัวผู้ร้ายข้ามแดน อะไรที่ทำให้เกิดความวุ่นวายเราจะต้องทำให้สงบ โกตี๋เองควรเห็นใจประเทศไทยเพราะว่าเป็นคนไทย เวลานี้คนไทยต้องการความสงบ อยากให้ไปย้อนดูในอดีตว่านายโกตี๋เป็นใคร ทำอะไรมาบ้าง อย่างไรก็ตามผมย้ำว่าเหตุการณ์ดังกล่าวไม่ได้ทำให้ผมหวั่นไหวใดๆ เลย เพราะผ่านศึกสงครามมาเยอะ เราทำเพื่อรับใช้ชาติ ตอนนี้อายุเยอะแล้ว" พล.อ.ประวิตรกล่าว

รองนายกฯ กล่าวว่า การจับอาวุธสงครามได้จำนวนมากมองได้หลายอย่าง ทั้งมือที่สามและผู้จะเข้ามาก่อเหตุ ตอนนี้ตนได้สั่งการให้เจ้าที่ติดตามเรื่องนี้ให้ถึงที่สุดไม่หยุดเพียงเท่านี้

"จะมีผู้บงการอยู่เบื้องหลังหรือไม่ ผมไม่ทราบและไม่เคยว่าใคร การที่แกนนำ นปช.ออกมาพูดผมก็ไม่เคยพาดพิงไปถึง ซึ่งจะใช่หรือเปล่าไม่รู้ นายโกตี๋จะเป็นเสื้อแดงปลอมก็ได้ เราไม่โทษใคร" รองนายกฯ กล่าว

ถามว่า การจับกุมในครั้งนี้จะกระทบต่อการสร้างความปรองดองหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ไม่เกี่ยวกัน เราเอาประชาชนเป็นตัวตั้ง ไม่ใช่นักการเมือง

ซักว่า เหตุใดอาวุธถึงมีจำนวนมากและเข้ามาช่องทางใด พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ช่องทางธรรมชาติในประเทศมีเยอะมาก และชนกลุ่มน้อยก็มี ดังนั้นการลักลอบอาวุธเข้ามาในประเทศจึงสามารถทำได้

ขณะที่ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า ขณะนี้ผู้ต้องหาทั้ง 9 คนที่ถูกควบคุมตัวหลังปฏิบัติการตรวจค้นแหล่งสะสมอาวุธสงคราม 9 จุดในพื้นที่ 7 จังหวัด ซึ่งเป็นเครือข่ายโกตี๋ อยู่ระหว่างเจ้าหน้าที่ทหารทำการซักถาม จากนั้นจะส่งตัวให้ตำรวจดำเนินการต่อ

พล.ต.อ.ศรีวราห์กล่าวว่า ในการตรวจสอบที่มาของอาวุธปืนสงครามที่ตรวจยึด ได้สอบถามจากกองทัพและทราบว่า ปืนบางกระบอกเป็นปืนที่หายไปตั้งแต่เหตุการณ์ชุมนุมปี 2553 ส่วนปืนที่เหลือส่งมอบให้กองพิสูจน์หลักฐานกลางตรวจสอบ แต่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ยักยอกปืนที่ค่าย ตชด.จ.อุดรธานีเมื่อปี 2554

รอง ผบ.ตร.กล่าวว่า การสอบสวนดำเนินคดีอยู่ในความรับผิดชอบของกองบังคับการปราบปราม แต่หากบางกรณีเข้าข่ายตามประกาศของกรมสอบสวนคดีพิเศษ สำนวนคดีก็จะถูกโอนไปให้ดีเอสไอรับผิดชอบได้ ซึ่งเครือข่ายโกตี๋นอกเหนือจาก 9 รายนี้แล้ว จะมีมากน้อยแค่ไหนต้องรอให้กองทัพสอบสวนก่อน แต่โดยวัตถุพยานที่ปรากฏบ่งชี้ว่ามีความผิดชัดเจน

"ยืนยันไม่ได้มีการจัดฉากกลั่นแกล้ง จะไปหาซื้อปืนเอ็ม 16 ที่ไหนมาแจกจ่าย โดยเฉพาะปืนบางชนิดไม่มีใช้ในราชการ กองทัพ หรือสำนักงานตำรวจฯ ด้วยซ้ำ บุคคลเหล่านี้อย่าไปเรียกว่าเป็นกลุ่มคนเสื้อแดงเลย แต่ถ้าเรียกว่าเป็นกลุ่ม red radio ก็ถือว่าใช่" รอง ผบ.ตร.กล่าว