ລາວໂຮມລາວ ເພື່ອປະຊາທິປະໄຕ

Members Login
Username 
 
Password 
    Remember Me  
Post Info TOPIC: ລາຄາເນັດລາວກ້າວໜ້າ ແຕ່ຄວາມລ້າຊ້າຍັງເທົ່າເດີມ
Anonymous

Date:
ລາຄາເນັດລາວກ້າວໜ້າ ແຕ່ຄວາມລ້າຊ້າຍັງເທົ່າເດີມ
Permalink   
 


ລາຄາເນັດລາວກ້າວໜ້າແຕ່ຄວາມລ້າຊ້າຍັງເທົ່າເດີມ

ສະໃຫມ່ນີ້ທຸກສິ່ງທຸກຢ່າງຕ້ອງໄດ້ເພິ່ງພາອາໃສອິນເຕີເນັດຫມົດ ເຊັ່ນວ່າ: ການຮຽນ, ການສຶກສາກໍ່ຕ້ອງໄດ້ຄົ້ນຫາຂໍ້ມູນຂ່າວສານຕ່າງໆນາໆຫລາຍໆແນວມາຈາກເນັດ ຖ້າຫາກຄ່າເນັດຍັງແພງ( ຖ້າທຽບໃສ່ລາຍຮັບລາຍຈ່າຍແມ່ນຝືດເຄືອງຫລາຍ), ກໍ່ປານວ່າປິດຫູ ປິດຕາ ບໍ່ໃຫ້ໂອກາດຜູ້ທີ່ຢາກສະແຫວງຫາຄວາມຮູ້ ໄດ້ຮັບຮູ້ເລື່ອງພາຍນອກ ແລະ ສິ່ງໃຫມ່ໆທີ່ທັນສະໃຫມໄດ້.
ຖ້າເປັນແນວນີ້ຢາມໃດປະເທດເຮົາຈະໆເລີນຮຸ່ງເຮືອງ ແລະ ຫລຸດພົ້ນອອກຈາກປະເທດດ້ອຍພັດທະນາໄດ້.



__________________
Anonymous

Date:
Permalink   
 

ພີ່ນ້ອງລາວ ທັງປະເທດ  ຖືກ ບັກເຮັັຽ ພົມະຈັນຫລອກຕົ້ມ

ມັນບອກວ່າ: ຖ້າປະເທດເຮົາມີ Satellite ລາຄາ ຄ່າ Phone/Internet ຈະຖືກລົງແລະການໃຊ້ບໍຣິການວອ່ງໄວ, 5555555

40A.jpg



Attachments
__________________
Anonymous

Date:
Permalink   
 

 31A.jpg

13A.jpg

ແມ່ນໆລຸງເທິ....ຄັນປຽບທຽບບ້ານອື່ນເມື່ອງອື່ນນະ ທັງຖືກທັງໄວ...ບາດຂອງບ້ານເຮົາຕີ ຊ້າບໍ່ພໍຍັງມາຂື້ນລາຄາອີກ ຄັນຂື້ນລະໄວກ່ອນເກົ່າກະບໍ່ວ່າດອກ ປານຫອຍຖາກຂີ່ເຕົ່າ...

ເວົ້າມາລະໂອຍ..... ເຮັດວຽກແຕ່ລະມື້ກະຍັງບໍ່ພໍສິຈ່າຍຄ່ານ້ຳຄ່າໄຟລະ ຄ່າອິນເຕີເຮັດກະຍັງມາແພງຂື້ນອີກ ກັບເມື່ອລ້ຽງຄວາຍຊ່ວຍອິພໍ່ສິບໍ່ດີກ່ອນບໍ...ຢູ່ໃນເມື່ອງຄືມາຢູ່ທຸກຢູ່ຍາກແທ້!!

....................................................

ເຫັນດ້ວຍວາເປັນຫັຍງຄືບໍມືນຕາເບີງປະເທດອື່ນແດ່ ແຮງຊີທຸກລົງແລະຄົນລາວ

ທຸກຢ່າງແພງແບບລັບຫູລົບຕາ ຄ່າແຮງພັດຖືກ ຊີຈະເລີນໄດ້ຢູ່ບໍປະຊາຊົນ ພາຍໃນປິ 2020

....................................................

ອິນເຕີນິດກູໂຄດຊ້າຫ່າມັນນິ ເບີ່ງຄິບນີ້ແຕ່ 8ໂມງເຊົ້າ ຈົນ 11ໂມງ

................................................................................

17760051_195629677598774_194305587569139

 

ສູງສຸດແມ່ນປາຍບັກພ້າວ ມັນປີນຂື້ນໄປຫາ ສັນຍານ 3G



Attachments
__________________
Anonymous

Date:
RE: ລາຄາເນັດລາວກ້າວໜ້າ ແຕ່ຄວາມລ້າຊ້າຍັງເທົ່າເດີມ
Permalink   
 


ตร.ล่าตัวชายชาวจีน-จ้าง6สาวอุ้มบุญ กลับจากคลินิกที่ลาว ถูกจับด่านหนองคาย

p0109220560p1-696x495.jpg

 

ศุลกากรหนองคาย ด่านสะพานมิตรภาพไทย-ลาว ตรวจเข้มสกัดแก๊งอุ้มบุญ หลังจับหนุ่มขับรถพา 6 สาวไทย ข้ามแดนมาจากฝั่งลาว ตรวจพบไปทำอุ้มบุญในคลินิกที่นครหลวงเวียงจันทน์ พบสมุดบันทึกระบุชัดเจน ใครทำแล้วติด หรือหลุด หรือบางคนรอฝังตัวอ่อน รับสารภาพมีผู้ชายชาวจีน อายุ 35 ปี อยู่กรุงเทพฯ เป็นผู้ว่าจ้าง มีหญิงสาวชาวไทยเป็นผู้ประสานงานติดต่อ ได้ค่าจ้างตั้งแต่ 1-4 แสนบาท แฉเป็นขบวนการเดียวกับกลุ่มที่ลักลอบนำน้ำเชื้ออสุจิออกนอกประเทศเมื่อเม.ย.ที่ผ่านมา

 

เมื่อวันที่ 21 พ.ค. ที่ด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 1 อ.เมือง จ.หนองคาย นายนิมิตร แสงอำไพ นายด่านศุลกากรหนองคาย และเจ้าหน้าที่ศุลกากรร่วมกันเพิ่มความเข้มงวดตรวจสอบรถยนต์ส่วนบุคคลที่ผ่านเข้าออกประเทศ โดยเรียกตรวจรถ ภาชนะสิ่งของที่ติดมากับรถ สืบเนื่องจากเมื่อเย็นวันที่ 20 พ.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ศุลกากรจับกุมนายนิคม สีมารัตน์ ขับรถยนต์พาหญิงสาว 6 คน กลับจากประเทศลาว และนำถังไนโตรเจนเปล่า พร้อมอุปกรณ์ที่เชื่อว่าเกี่ยวข้องทางการแพทย์กับการทำอุ้มบุญ จากการสอบสวนทั้งหมดรับสารภาพว่าได้รับจ้างผู้ชายชาวจีนอายุ 35 ปี อยู่ที่กรุงเทพฯ ให้มาอุ้มบุญที่คลินิกในนครหลวงเวียงจันทน์ ประเทศลาว

นายนิมิตรกล่าวว่ารถยนต์คันที่นายนิคม ขับพาหญิงสาวมานั้น ตรวจสอบทราบว่าเคยผ่านเข้าออกประเทศ 6 ครั้ง สอดคล้องกับสมุดบันทึกที่ผู้หญิงซึ่งเป็นผู้ประสานงานหญิงสาวไปทำอุ้มบุญ ระบุว่าพาหญิงสาวไปทำอุ้มบุญตั้งแต่วันที่ 4 มี.ค. และวันที่ 26 มี.ค.2560 มีรายชื่อผู้หญิงที่ทำแล้วติด หรือหลุด หรือบางคนรอฝังตัวอ่อน

สำหรับรายละเอียดในการจับกุมขบวน การรับจ้างอุ้มบุญเมื่อวันที่ 20 พ.ค.ที่ผ่านมานั้น เมื่อเวลา 17.30 น. ที่ด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย-ลาว จ.หนองคาย นายนิมิตร พร้อมด้วยนายสมบัติ ฆ้อนทอง หัวหน้าฝ่ายสืบสวนและปราบปรามด่านศุลกากรหนองคาย และเจ้าหน้าที่ศุลกากรร่วมกันตรวจสอบรถยนต์ยี่ห้อเชฟโรเลต เทรลเบลเซอร์ สีขาว ทะเบียน 3 กส 8296 กทม. ขับเข้ามาจากประเทศลาว

รถคันดังกล่าวมีนายนิคม สีมารัตน์ อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 6/25 ถนนเชื้อเพลิง แขวงช่องนนทรี เขตยานนาวา กทม. เป็นคนขับ มีหญิงสาว 6 คน อายุ 25-34 ปี นั่งโดยสารมาในรถ

จากการตรวจสอบภายในรถพบถังไนโตรเจนเปล่า 1 ใบ ไม่มีความเย็นหลงเหลืออยู่แล้ว กล่องโฟมปิดเทปกาวแน่นหนา เปิดดูพบว่าภายในมีหลอดพลาสติกรูปทรงกรวย ขนาด 2 เซนติเมตร จำนวน 42 หลอด บรรจุในกล่อง 1 กล่อง ด้านบนปิดแถบพลาสติกเขียนตัวอักษร yy / tj / yg แต่ละหลอดระบุ วันที่ไว้ด้วย เช่น 18/5/17, กล้องจุลทรรศน์ 1 ตัว พร้อมเครื่องสำรองไฟ 1 เครื่อง

เจ้าหน้าที่ศุลกากรแยกสอบสวนอยู่นาน กว่า 1 ชั่วโมง โดยตอนแรกต่างคนต่างให้การขัดแย้งกัน ข้อมูลไม่ตรงกัน ตรวจสอบหนังสือเดินทางของหญิงสาวบางคน พบว่าเพิ่งเดินทางออกนอกประเทศครั้งแรก จนกระทั่งเจ้าหน้าที่พบสมุดบันทึกเล่มเล็กอยู่ในกระเป๋าสะพายหญิงสาวชาว จ.อำนาจเจริญ พบจดบันทึกรายชื่อผู้หญิง 7 คน ที่ใส่ตัวอ่อน และผลการใส่ตัวอ่อนว่าใครใส่แล้วติด หรือใส่แล้วหลุด เป็นหลักฐานไว้ด้วย

 

นายนิมิตรกล่าวว่าหลังจากเมื่อวันที่ 20 เม.ย. ที่ผ่านมา ศุลกากรหนองคายจับกุมผู้ชายคนหนึ่งขณะจะนำถังไนโตรเจนภายในบรรจุเชื้ออสุจิเดินทางออกนอกประเทศ จนสืบทราบว่ามีขบวนการอุ้มบุญในประเทศไทย ไปใช้สถานที่ในประเทศเพื่อนบ้าน ระยะแรกยังเข้าใจว่าเป็นการให้หญิงต่างชาติเป็นคนฝัง ตัวอ่อน หรืออุ้มบุญ แต่ในครั้งนี้เป็นที่ชัดเจนแล้วว่า ขบวนการอุ้มบุญนี้ใช้ผู้หญิงไทย เป็นหลัก จากข้อมูลที่ได้พบว่าผู้ชายชาวจีน อายุ 35 ปี อาศัยอยู่กรุงเทพฯ เป็นคนว่าจ้าง ทุกคน ตั้งแต่ว่าจ้างนายนิคม ให้ขับรถรับส่ง ว่าจ้างหญิงสาวคนหนึ่งให้ช่วยหาผู้หญิงไทยที่มีสุขภาพร่างกายสมบูรณ์แข็งแรง และ ทุกคนมีสามี มีลูกแล้ว ให้ฝังตัวอ่อน ทำ อุ้มบุญ โดยเจรจาค่าอุ้มบุญให้ตั้งแต่ 100,000-400,000 บาท

นายด่านศุลกากรกล่าวต่อว่า หลังคลอดเสร็จจะได้เงินค่าจ้างทั้งหมด โดยพบว่าเดินทางไปฝังตัวอ่อนแล้ว 2 ครั้ง เมื่อวันที่ 4 มี.ค. และวันที่ 26 มี.ค.60 ส่วนครั้งนี้หญิงสาวทั้ง 6 คน เดินทางไปประเทศลาวตั้งแต่วันที่ 17 พ.ค. โดยนายจ้างชาวจีนออกค่าเครื่องบินกรุงเทพฯ-อุดรธานี ทั้งขาไปและกลับ รวมทั้งค่าโรงแรมที่ประเทศลาวให้ทั้งหมด จากนั้นนายนิคมมารับหญิงสาวทั้ง 6 คน ไปพักที่โรงแรมแห่งหนึ่งในนครหลวงเวียงจันทน์ แล้วตรวจร่างกายที่สถานบริการแห่งหนึ่ง มีคนไม่ผ่านการตรวจร่างกาย 2 คน อีก 3 คนมีปัญหาขัดข้องบางประการ ทำให้ไม่มีใครได้ฝังตัวอ่อน

นายนิมิตรกล่าวอีกว่า ส่วนหญิงสาว ผู้ประสานงานนั้น เมื่อทำงานไม่สำเร็จจึง เดินทางกลับประเทศไทย ประกอบกับถัง ไนโตนเจนที่พบเป็นถังเปล่า ไม่มีเชื้ออสุจิ หรือตัวอ่อนอยู่ภายใน และยังไม่ทราบชัดเจนว่าภายในหลอดรูปทรงกรวยเป็นอะไร ถือว่าความผิดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็กที่เกิดโดยอาศัยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ พ.ศ.2558 ยังไม่สำเร็จ ศุลกากรจึงทำได้เพียงเปรียบเทียบปรับนายนิคม ในฐานความผิดลักลอบหนีศุลกากร เปรียบเทียบปรับ 89,880 บาท ยึดของกลางทั้งหมด แล้วปล่อยตัวทุกคนไป ส่วนเอกสารสมุดบันทึกจะส่งให้กองปราบปรามไว้เป็นหลักฐานประกอบ อาจใช้ร่วมกับคดีในครั้งที่แล้วก็ได้

จากการสอบสวนเบื้องต้น หนึ่งในหญิงสาวให้การว่า ได้รับการติดต่อจากหญิงสาว ผู้ประสานงานให้มาฝังตัวอ่อนและอุ้มบุญ ต้องการเงินจึงปรึกษาสามี จนตกลงทำ พอเป็นประจำเดือนก็จะโทรศัพท์บอก หลังจากนั้น ผู้ประสานงานจะให้กินยาบำรุงไข่ เป็นแผง เช้าเย็น เวลา 10 วัน แล้วจึงเดินทางไปประเทศลาว เมื่อไปถึงก็เข้าพักที่โรงแรม ฝนตกทั้งวันไม่ได้ออกไปไหน หากฝังตัวอ่อนสำเร็จจนคลอดก็จะได้เงิน 300,000 บาท

ส่วนหญิงสาวอีกคนให้การว่าตอนแรกที่ได้รับการติดต่อ ก็ปรึกษาสามี แต่สามีไม่ยอมให้ทำ จึงให้เหตุผลว่าบ้านจน เงินไม่พอเลี้ยงลูก สามีจึงยอม จึงได้เดินทางมาพร้อมกับทุกคน แต่ตนเองตรวจร่างกายไม่ผ่าน จึงไม่ได้ฝังตัวอ่อน

ขณะที่นายด่านศุลกากรกล่าวเพิ่มเติมว่า เชื่อว่าหลังจากนี้ขบวนการอุ้มบุญจะเปลี่ยน วิธีการ และอาจย้ายฐานการดำเนินการ เนื่องจากเจ้าหน้าที่เข้มงวดมากขึ้น และถูกจับตาเป็นพิเศษ เชื่อว่ามีความพยายามในรูปแบบอื่น ทางศุลกากรจะประสานกับด่านชายแดน ทั้งด้านประเทศลาวและประเทศกัมพูชาให้ติดตามเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด ในขณะที่ทางการลาวก็ให้ความสนใจกรณีนี้ แต่เนื่องจากว่าประเทศลาวไม่มีกฎหมายอุ้มบุญ ทราบจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงของลาว ว่ารัฐบาลลาวจะพิจารณาออกกฎหมายเกี่ยวกับการอุ้มบุญในเร็วๆ นี้



__________________
Anonymous

Date:
Permalink   
 

ແມ່ຍິງລາວຖືກຊື້ໄປ ແຕ່ງດອງ ກັບ ຄົນຈີນ

5d83284e-74f0-4cb9-9209-2172e16db755.jpe

 

ແມ່ຍິງລາວອາຍຸ 16 ຫາ 19 ປີ 3 ຄົນ ຢູ່ເມືອງບໍລິຄັນ ແຂວງບໍລິຄໍາໄຊ ຖືກນາຍໜ້າ ຊາວລາວ ຊື້ຕົວ ບອກວ່າ ເອົາໄປແຕ່ງດອງ ກັບ ຄົນຈີນ ຢູ່ປະເທດຈີນ, ເມື່ອຕົ້່ນເດືອນ ພຶສພາ 2017 ນີ້.

ຊາວບ້ານຫລາຍຄົນສົງໃສວ່າ ແມ່ຍິງທັງ 3 ຄົງຈະຕົກເປັນ ຜູ້ເຄາະຮ້າຍ ຍ້ອນພວກ ຄ້າມະນຸດ ຍ້ອນບໍ່ໄດ້ ປະຕິບັດ ຕາມປະເພນີ ແລະ ຝ່າຍເຈົ້າບ່າວ ກໍບໍ່ໄດ້ ມາຂໍນໍາ ໃຫ້ແຕ່ນາຍໜ້າ ຄົນລາວ ຈາກຕ່າງແຂວງ ມາສູ່ຂໍເອົາໄປ. ຕາມການເປີດເຜີຍ ຂອງຊາວລາວ ທີ່ບໍ່ປະສົງ ອອກຊື່ ຕໍ່ RFA ໃນມື້ວັນທີ 19 ພຶສພາ ນີ້:

"ກະເປັນຂ່າວທີ່ຮືຮາກັນຫລາຍເລີຍ ຢູ່ແຖວເມືອງນີ້ນະ ຄົນຈີນຫັ້ນນະ ມາຕົວະຍົວະ ຫລືວ່າຈັ່ງໃດ ນີ້ແຫລະ ກໍບໍ່ທັນຮູ້ ວ່າເຂົາຈະເອົາໄປ ຮ້າຍໄປດີ ຫຍັງຫັ້ນນະເຂົາກໍພາ ເມືອແລ້ວດຽວນີ້ຫັ້ນນະ ເມືອຕັ້ງແຕ່ ຣະຫວ່າງວັນທີ 10 ລົງໄປນີ້ແຫລະ ມາຈ່າຍເງິນ ເອົາຫັ້ນນະ ຜູ້ລະ 20 ປາຍລ້ານ ບໍ່ມີໃຜ ຮູ້ເລີຍວ່າ ເພິ່ນເຮັດວຽກຫຍັງ ຢູ່ໃສຫັ້ນນະ ມີແຕ່ວ່າສິໄປ ເປັນເມັຽ ຄົນຈີນວ່າຊັ້ນ ຂະເຈົ້າມາຕົວະ ຫັ້ນນະ ແລ້ວກໍ ບໍ່ມີໃຜ ເຫັນໜ້າຂະເຈົ້າ ມີແຕ່ມາທາງນາຍໜ້າ ຫັ້ນແຫລະ ມາແຕ່ທາງ ຊຽງຂວາງ ພຸ້ນແຫລະ ມາເອົາ ກາງຄືນ".

ທ່ານເວົ້າວ່າແມ່ຍິງລາວ ທັງ 3 ຄົນ ຊຶ່ງຕອນນີ້ບໍ່ຮູ້ຊະຕາກັມ ເປັນແນວໃດນັ້ນ 2 ຄົນ ເປັນຄົນບ້ານ ສີສວາດ ແລະ ອີກຜູ້ນຶ່ງ ເປັນຄົນບ້ານ ໂພນທອງ. ທັງ 3 ຍັງຮຽນຢູ່ຊັ້ນ ມັທຍົມປີທີ 4 ແລະ 5.

ການແຕ່ງດອງຄັ້ງນີ້ ນາຍໜ້າຄົນລາວ ຊຶ່ງອ້າງວ່າເດີນທາງ ມາຈາກແຂວງ ຊຽງຂວາງ ເວົ້ານໍາຄອບຄົວ ຝ່າຍຍິງ ວ່າມີຄົນຈີນ ໃຫ້ມາສູ່ຂໍ ແຕ່ງດອງ ເພື່ອພາໄປ ເປັນເມັຽ ຄົນຈີນ ຢູ່ຈີນ ໂດຍໃຫ້ຄ່າດອງ ຄົນລະ 20 ປາຍລ້ານກີບ.

ເມື່ອທາງຄອບຄົວ ເຫັນດີນໍາ ນາຍໜ້າກໍມາຮັບ ຕົວແມ່ຍິງ ທັງ 3 ຄົນໄປໃນຕອນຄໍ່າ ຊຶ່ງເຮັດໃຫ້ ຊາວບ້ານ ຕ່າງກໍສົງໃສ ວ່າໜ້າຈະເປັນ ການຕົວະຍົວະ

"ຄືສິມີຄວາມສ່ຽງຫລາຍ ແລະເປັນໄປໄດ້ ຫລາຍທີ່ສຸດແຫລະ ສັງເກດເບິ່ງຫລາຍໆ ຂໍ້ສັງເກດ ນີ້ເປັນຫຍັງ ຕ້ອງວ່າຈັ່ງຊັ້ນ ຄັນວ່າມາເອົາ ແບບຖືກ ກົດໝາຍ ກໍຕ້ອງມາຂໍ ຢູ່ບ້ານ ຢູ່ເຮືອນ ຕາມປະເພນີ ກົດໝາຍ ຂອງລາວ ຫັ້ນເນາະ ອັນນີ້ແບບເລັ່ງລັດ ຕັດຕອນ ແບບມາ ແບບຟ້າວໆ ຈັ່ງຊີ້ນະ ແລ້ວມາເອົາ ກໍມາເອົາ ແບບຟ້າວໆ ກໍບໍ່ເຄີຍເຫັນ ຈັກເທື່ອ ທີ່ວ່າເປັນ ແບບນີ້ ຫັ້ນນະ".

ກ່ຽວກັບເຣື່ອງນີ້ RFA ໄດ້ຖາມໄປຍັງ ເຈົ້າໜ້າທີ່ ກ່ຽວຂ້ອງ ພາກສ່ວນ ປ້ອງກັນ ການຄ້າມະນຸດ ໄດ້ຮັບຄໍາຕອບວ່າ ໄດ້ຊາບເຣື່ອງແລ້ວ ສ່ວນວ່າຈະ ດໍາເນີນການ ແນວໃດນັ້ນ ກໍຕ້ອງຄອຍຖ້າ ຕໍ່ໄປ.

ໃນຣະຍະຜ່ານມາ ຢູ່ສປປລາວ ເກືອບທຸກແຂວງ ມັກມີຄົນຈີນ ເຂົ້າມາຕົວະຍົວະ ແມ່ຍິງລາວ ຊຶ່ງສ່ວນໃຫຍ່ ແມ່ນຈາກຄອບຄົວ ທຸກຍາກ ໄປປະເທດຈີນ ນໍາ. ເມື່ອໄປແລ້ວ ກໍບັງຄັບ ໃຫ້ຂາຍ ບໍຣິການ ຕາມຊ່ອງ ຫລືບັງຄັບໃຊ້ ແຮງງານ ໜັກໜ່ວງ.



__________________
Page 1 of 1  sorted by
 
Quick Reply

Please log in to post quick replies.



Create your own FREE Forum
Report Abuse
Powered by ActiveBoard