21 พ.ย.60 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 15.00 น. บริเวณหน้ากองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม นายสมชาย วิทย์ดำรงค์ ผวจ. พล.ต.ท.วิสนุ ปราสาททองโอสถ รรท.ผู้ช่วย ผบ.ตร.,พล.ต.ต.สุรชัย ควรเดชะคุปต์ รรท.ผบช.ภ.4 พล.ต.ต.สุวิชาญ ญาณกิตติกุล ผบก.ภ.จว. ว่าที่ รต.ภูมิศักดิ์ ขำปู่ นายอำเภอท่าอุเทน ร่วมกันแถลงข่าวการตรวจยึดยาบ้าล็อตมหึมาที่สุดในจังหวัดนครพนม จำนวน 4.6 ล้านเม็ด มูลค่าตามแนวตะเข็บชายแดน 920 ล้านบาท หากเล็ดลอดเข้าพื้นที่ชั้นในจะมีราคาสูงถึง 1,380,000,000 บาท พร้อมมอบรางวัลเป็นกำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดตรวจยึดจำนวนหนึ่ง
นายสมชาย เปิดเผยว่า ด้วยสถานการณ์การลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากประเทศเพื่อนบ้านเข้าสู่ประเทศไทยมีแนวโน้มสูงขึ้น โดยพบว่าขบวนการค้ายาเสพติดเปลี่ยนเส้นทางการนำเข้า จากภาคเหนือมายังพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากมีช่องทางธรรมชาติที่สะดวกแก่การลักลอบนำเข้ายาเสพติด ดังนั้นสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. จึงมีคำสั่งให้ หน่วยงานพื้นที่ชายแดนทุกแห่งเข้มงวดกวดขัน เพิ่มความเข้มในการสกัดกั้น การลำเลียงยาเสพติด ตามคำสั่งดังกล่าว พล.ต.ต.สุวิชาญ ญาณกิตติกุล ผบก.ภ.จว.นครพนม จึงสั่งการให้ ชุดปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติด ศอ.ปส. ภ.จว.นครพนม บูรณาการประสานการปฏิบัติกับทุกหน่วยงานในพื้นที่เพื่อทำการสกัดกั้น ลำเลียงยาเสพติด ในเขตพื้นที่ของจังหวัดนครพนม ซึ่งมีแนวลำน้ำโขงเป็นช่องทางธรรมชาติยาวตลอดแนวกว่า 170 กม.
จนกระทั่งเมื่อวันที่ 20 พ.ย.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจากสายข่าวว่า จะมีแก็งค้ายาเสพติดข้ามชาติจะลำเลียงยาบ้าจำนวนมากเข้ามาในประเทศไทย จึงได้ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกตรวจในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงในการนำเข้ายาเสพติด กระทั่งเวลาประมาณ 19.00 น. เจ้าหน้าที่พบชายต้องสงสัย 2 คน จอดรถยนต์อยู่ในมุมมืดข้าง อบต.พะทาย ต.พะทาย อ.ท่าอุเทน ซึ่งอยู่ใกล้กับโรงเรียนมัธยมบ้านพะทาย มีท่าทีพิรุธลุกลี้ลุกลน และที่ท้ายกระบะรถเหมือนบรรทุกสิ่งของต้องสงสัย เพราะใช้ผ้าใบยางคลุมมิดชิด จึงเข้าไปทำการตรวจสอบ แต่ปรากฏว่าชายทั้งสองคนดังกล่าวได้วิ่งเข้าป่าละเมาะข้างทางหลบหนีไปกับความมืด เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจสอบที่กระบะด้านท้ายรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า แค็บ ยกสูง รุ่นวีโก้แชมป์ สีบรอนซ์ทอง ไม่ปิดแผ่นป้ายทะเบียน
เมื่อจนท.เปิดผ้าใบปกคลุมออกดูพบกระสอบปุ๋ย สีดำ รัดด้วยเทปกาวอย่างแน่นหนา จำนวนทั้งสิ้น 12 กระสอบ ตรวจสอบแต่ละกระสอบ เจ้าหน้าที่ถึงกับผงะเพราะเป็นยาบ้าทั้งหมด โดยแต่ละกระสอบจะมียาบ้าบรรจุอยู่กระสอบละประมาณ 400,000 เม็ด ซึ่งห่อด้วยกระดาษฟอยด์สีเหลืองกันน้ำอย่างดี ประทับด้วยตัวเลข 999 พร้อมสัญลักษณ์รูปมือยกนิ้วโป้ง มีภาษาอังกฤษ GOOD ปริมาณรวมทุกกระสอบ มียาบ้าทั้งสิ้น ประมาณ 4,600,000 เม็ด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงร่วมกันทำการตรวจยึดยาบ้าจำนวนดังกล่าวไว้ และจะได้สืบสวนขยายผลติดตามจับกุมเครือข่ายผู้กระทำผิดในครั้งนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
24 พ.ย.60 พ.ต.อ.ถวาย บูรณรักษ์ รรท.ผบก.ภ.จว.อำนาจเจริญ สั่งการให้ พ.ต.อ.สุรโชค เจษฎาเดช (สารวัตรแรมโบ้) ผกก.สส.ภ.จว.อำนาจเจริญ ,พ.ต.ท.ไมตรี บุญมาศ หน.ชป.ปส.ภ.จว.อำนาจเจริญ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจำนวนหนึ่ง เดินทางไปที่รีสอร์ทดัง ในตัวเมืองอำนาจเจริญ เนื่องจากได้รับรายงานจากสายลับว่า สามารถติดต่อล่อซื้อยาบ้าจากเจ้าของห้องพักในรีสอร์ทได้ เมื่อไปถึงรีสอร์ทดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจ มีการกระจายกำลัง แอบซ่อนตัวอยู่รอบๆ ห้องพัก ต่อมา สายลับ เข้าทำการล่อซื้อ 15 ถุง ราคา 140,000 บาท จากนั้น หญิงทราบชื่อภายหลังคือ นางพุด มะหาทิลาด อายุ 35 ปี บ้านท่าแพง เมืองสองคอน แขวงสะหวันเขต สปป.ลาว นำยาบ้ามามอบให้กับสายลับ เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงแสดงตัวเข้าจับกุม พร้อมยาบ้า จำนวน 3,000 เม็ด ในข้อหา จำหน่ายฯ,มียาเสพติดให้โทษประเภท 1(ยาบ้า)ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย พร้อมโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง หนังสือเดินทาง 1 เล่ม ซึ่งผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ
นางพุด มะหาทิราด (ผู้ต้องหา) สารภาพว่า เมื่อ 6 เดือนที่ผ่านมา สามี (ชาวลาว) ก็ถูกจับกุมคดียาเสพติด โดยติดคุกอยู่เรือนจำเขาพริก คลองไผ่ จ.นครราชสีมา ยังไม่พ้นโทษ ซึ่งตนต้องรับภาระหนักเลี้ยงลูก 3 คน ส่วนการทำนาปีนี้น้ำก็ท่วมต้นข้าวเสียหายหมด ไม่รู้จะหาเงินอย่างไรเลี้ยงลูก เพราะสามีก็ติดคุก ต่อมา เพื่อนสามีติดต่อให้ขนยาบ้าไปส่งให้ลูกค้าในพื้นที่ จ.อำนาจเจริญ จำนวน 3,000 เม็ด โดยให้ค่าจ้างเป็นเงิน 20,000 บาท ซึ่งนั่งเรือจาก สปป.ลาว.ข้ามแม่น้ำโขง ขึ้นที่ท่าเรือ อ.เขมราฐ จ.อุบลราชธานี จากนั้น มาพักที่รีสอร์ทในตัวเมืองอำนาจเจริญ รอมอบยาให้กับลูกค้า รอมา 3 วันแล้ว กระทั่ง ถูกจับในวันนี้ เพิ่งทำครั้งแรก นางพุด หญิงลาว รับสารภาพ
จากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่งผู้ต้องหา ให้กับ ร้อยเวร สภ.เมืองอำนาจเจริญ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ສ້າງຜົນງານເທິງຄວາມທຸກຂອງປະຊາຊົນ.