ຢ່າຫຼົງກົນພວກແກວນີ້ຢ່າງເດັດຂາດ ທີ່ອອກມາຕົວະຍົວະໄປຮັບໃຊ້ມັນ
มุกดาหาร - ทหารพรานที่ 2110 สนธิกำลังปกครอง นรข. ตชด.234 ศุลกากร และ กอ.รมน. จับแร่ทองแดงดิบลักลอบนำเข้าจาก สปป.ลาว จำนวน 7 ตัน 219 กระสอบ พร้อมผู้ต้องหา 2 คน รถยนต์กระบะ 1 คัน เรือกีบเพลายาว 1 ลำ มูลค่ากว่า 350,000 บาทรายงานข่าวแจ้งว่า วันนี้ (2 ธ.ค.) เวลา 04.00 น. ร.ท.พรพิทักษ์ กุลงามกิ่ม ผบ.ร้อยทหารพรานที่ 2110 มุกดาหาร ได้รับรายงานจากสายว่าจะมีการลักลอบขนแร่ทองแดงดิบจากประเทศเพื่อนบ้านแล้วมาขึ้นที่บริเวณท่าน้ำริมฝั่งแม่น้ำโขงทางทิศเหนือบ้านบางทรายใหญ่ ตำบลบางทรายใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร จึงได้สั่งการให้ จ.ส.อ. ประสิทธิ์ แสนลา นายสิบยุทธการและการข่าว ประสาน นายกนก ศรีวิชัยนันท์ นายอำเภอเมืองมุกดาหาร นายสมศักดิ์ บุญจันทร์ จ่าจังหวัดมุกดาหาร นรข. ตชด.234 ศุลกากร กอ.รมน. และเจ้าหน้าที่หน่วยความมั่นคงในพื้นที่จังหวัดมุกดาหาร ลงพื้นที่ตามที่ได้รับแจ้งดังกล่าวจนกระทั่งพบกลุ่มชายประมาณ 6-7 คนกำลังขนกระสอบใส่ท้ายรถกระบะบรรทุก ยี่ห้อทาทา สีขาว หมายเลขทะเบียน บต 1242 มุกดาหาร และใช้รางเลื่อนเพื่อขนส่งกระสอบจากริมน้ำโขงขึ้นมาข้างบน เจ้าหน้าที่ได้เข้าแสดงตัวเพื่อตรวจสอบ กลุ่มชายดังกล่าวได้วิ่งหนีและอาศัยความชำนาญในพื้นที่และความมืดหลบหนีไปได้
บ้านหลังดังกล่าวด้านหลังเป็นโกดัง ด้านหน้ามีประตูปิดมิดชิด ต่อมาได้มีนายธนา วรโชติไพศาล อายุ 45 ปี บ้านเลขที่ 138 ถนนวิวิทสุรการ ตำบลมุกดาหาร อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร รับเป็นเจ้าของบ้านและเจ้าของแร่ทองแดงดิบดังกล่าว นับได้จำนวน 219 กระสอบ รวม 7 ตัน มูลค่ากว่า 350,000 บาทตรวจสอบกระสอบท้ายรถกระบะเป็นกระสอบแร่ทองแดงดิบ และได้จับกุม ท้าววิไลสอน พิมมะสาน อายุ 31 ปี ชาวเมืองไกรสอนพรมวิหาร แขวงสะหวันนะเขต สปป.ลาว เป็นคนขับเรือ และมีกระสอบแร่ทองแดงดิบบางส่วนอยู่ในรางเลื่อน อีกส่วนอยู่ในเรือกีบเพลายาวที่ริมแม่น้ำโขง ต่อมา จ.ส.อ.ประสิทธิ์ แสนลา ได้สอบถามผู้ต้องหา บอกว่า ตนได้เคลียร์เจ้าหน้าที่ไปหลายหน่วยงานแล้ว และจากการสอบถามท้าววิไลสอน พิมมะสาน ให้การว่า ตนได้รับจ้างขับเรือมาส่งของที่ฝั่งไทย โดยได้ค่าจ้าง 200 บาท ตนไม่ทราบชื่อเจ้าของแร่ทองแดงดิบ และเรือกีบเพลายาวลำดังกล่าวจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้นำตัวนายธนา วรโชติไพศาล และท้าววิไลพอน พร้อมของกลางแร่ทองแดงดิบ และเรือกีบเพลายาว ส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองมุกดาหาร เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไ.