วันที่ 22 พ.ค. เว็บไซต์ซีเอ็นเอ็นรายงานว่า ระหว่างการประชุมของตำรวจกับเจ้าหน้าที่ด้านยาเสพติดในกรุงเนปิดอว์ ประเทศเมียนมา สำนักงานป้องกันยาเสพติดและปราบปรามอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติหรือยูเอ็นโอดีซีเตือนว่าการผลิตและลักลอบค้ายาบ้าในแถบสามเหลี่ยมทองคำ ลุ่มแม่น้ำโขงในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพิ่มขึ้นจนถึงจุดน่าตกใจ
พื้นที่ลุ่มแม่น้ำโขงมีประวัติอื้อฉาวจากทั้งฝิ่นและเฮโรอีนมายาวนาน โดยเฉพาะสามเหลี่ยมทองคำ พรมแดนรอยต่อระหว่างสปป.ลาว เมียนมาและไทย
ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าแก๊งอาชญากรรมลงทุนกับยาบ้าเพราะตอบสนองความต้องการของตลาดและง่ายที่จะซุกซ่อนและเคลื่อนย้ายฐานผลิต
นายพลออง โซ รมช.กระทรวงมหาดไทยเมียนมากล่าวว่า จำเป็นต้องใช้แนวทางระดับภูมิภาคที่ลดหรือกำจัดตัววัตถุดิบสำหรับการผลิตยา
“งานสำคัญลำดับแรกสำหรับเมียนมาคือกลยุทธ์กำจัดสารตั้งต้นในระดับภูมิภาค จะทำให้การผลิตสารเคมีและตัวยาสำหรับการผลิตยาเสพติดในพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำช้าลง”นายพลออง โซกล่าว
สำหรับประเทศที่ยึดยาบ้าได้ในจำนวนมหาศาลในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ได้แก่ ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น นิวซีแลนด์ มาเลเซียและอินโดนีเซีย
ด้านพม่าและไทยทุบสถิติยึดยาบ้าในปีนี้ ขณะที่เจ้าหน้าที่ในออสเตรเลียยึดยาบ้าได้ 1.2 ตันในเดือนธ.ค. ปีที่แล้ว ซึ่งเชื่อว่าส่งมาจากประเทศจีน
“การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญหลายอย่างในตลาดค้ายาในภูมิภาคกำลังดำเนินต่อไปเป็นเวลาหลายปี” นายเจเรมี ดักลาส ผู้แทนยูเอ็นโอดีซีประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กล่าวและว่า การตอบสนองต่อสถานการณ์นั้นต้องการการยอมรับถึงความจริงที่ทรหดและเห็นด้วยกับวิธีการใหม่ในยุทธศาสตร์ระดับภูมิภาค
ຍຸກຂຸນຊ່າແມ່ນຜົງຂາວ ຍຸກນີ້ແມ່ນຍຸກໃຜຈຶ່ງນິຍົມຢາບ້າ?