สถานีโทรทัศน์ซีซีทีวีของประเทศจีน ได้แพร่ภาพ ลาวส่งมอบ'หน่อคำ'โจรสลัดแม่น้ำโขงให้จีนสอบปล้นฆ่าลูกเรือ 13 ศพ
ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดเชียงราย เปิดเผยว่า เมื่อช่วงสายของวันที่ 9 พ.ค.ที่ผ่านมาสถานีโทรทัศน์ซีซีทีวีของประเทศจีน ได้แพร่ภาพการทำข้อตกลงระหว่างเจ้าหน้าที่ระดับสูงของจีนและ สปป.ลาว ณ นครเวียงจันทร์ สปป.ลาว เพื่อส่งมอบตัวนายหน่อคำหรือจายหน่อคำ หนึ่งในผู้ที่ถูกระบุว่าคือหัวหน้าโจรสลัดแม่น้ำโขงซึ่งก่อกวนด้วยการปล้น เรียกค่าคุ้มครองและยิงเรือสินค้าและเจ้าหน้าที่จีนในแม่น้ำโขงมาแล้วหลาย ครั้งในรอบ 1-2 ปีที่ผ่านมา โดยนายหน่อคำถูกเจ้าหน้าที่ สปป.ลาว ร่วมกับเจ้าหน้าที่ควบคุมยาเสพติดของจีน จับกุมพร้อมกับพรรคพวกอีกหลายคนได้ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งเขตเมืองมอม ซึ่งเป็นเมืองท่าในแม่น้ำโขงของแขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว ห่างจากสามเหลี่ยมทองคำ อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ประมาณ 15 กิโลเมตร เมื่อวันที่ 25 เม.ย.ที่ผ่านมา ก่อนถูกส่งตัวไปคุมขังที่เมืองห้วยทราย แขวงบ่อแก้ว และส่งไปยังนครเวียงจันทร์ในเวลาต่อมา รายงานข่าวแจ้งอีกว่า ในการส่งมอบตัวครั้งนี้ มีรายงานว่าทางสถานฑูตจีนประจำ สปป.ลาว ได้มีการเช่าเหมาลำเครื่องบิน เพื่อการรับมอบตัวนายหน่อคำเป็นการเฉพาะ โดยหัวหน้าเจ้าหน้าที่ ปปส.ของจีน ได้รับมอบตัวนายหน่อคำโดยมีการกระทรวงป้องกันความสงบ สปป.ลาว เป็นผู้ลงนามในการสงมอบ จากนั้นคณะจากประเทศจีนได้นำตัวนายจายหน่อคำขึ้นเครื่องบินไปยังประเทศจีน ต่อไป โดยมีการแพร่ภาพช่วงที่นายหน่อคำถูกควบคุมตัวขึ้นเครื่องบินด้วย โดยสภาพใบหน้ายังคงใกล้เคียงใบหน้าของนายหน่อคำในอดีต ซึ่งมีเผยแพร่สู่สาธารณชนในช่วงที่ผ่านมาน้อยมาก อย่างไรก็ตามยังไม่ชัดเจนว่าทางการจีนนำตัวนายหน่อคำไปดำเนินคดีที่ปักกิ่ง หรือคุนหมิง เมืองเอกของมณฑลหยุนหนัน ซึ่งเป็นมณฑลที่อยู่ใกล้ประเทศไทย ที่สุดเพียงประมาณ 250 กิโลเมตรติดชายแดน สปป.ลาว และพม่า
นอกจากนี้ทางการจีน ระบุว่า นายหน่อคำถือเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงและเศรษฐกิจในลุ่มแม่น้ำโขง-อาเซียน โดยมีสมุนอยู่ในสังกัดกว่า 100 คน และมีอาวุธครบมือ ทั้งปืนอาก้า เอ็ม16 บาซูการ์ และปืนกล และเชื่อว่าเป็นกลุ่มที่คอยก่อเหตุยิงเรือสินค้าจีนมาแล้วหลายครั้ง รวมทั้งพัวพันกับคดีการปล้นเรือสินค้าจีน 2 ลำ คือเรือบรรทุกกระเทียมและแอปเปิ้ล Hua Ping และเรือบรรทุกน้ำมันเชื้อเพลิง Yu Xing 8 Hao เมื่อวันที่ 5 ต.ค.2554 บริเวณชายแดนพม่า-สปป.ลาว ห่างจากสามเหลี่ยมทองคำ อ.เชียงแสน ประมาณ 25 กิโลเมตร จนเป็นเหตุให้ลูกเรือเสียชีวิตกว่า 13 ศพ และทางการไทยพบเรือลอยลำเข้ามาถึงบ้านสบรวก ม.1 ต.เวียง อ.เชียงแสน บนเรือพบศพและอาวุธปืนเล็กกลเอสเค 47 จำนวน 1 กระบอก ยาบ้าบนเรือทั้ง 2 ลำรวมกว่า 920,000 เม็ด แต่ต่อมาได้มีการดำเนินคดีกับทหารไทยจำนวน 9 นายในข้อหาฆ่าผู้อื่นและปิดบังซ่อนเร้นศพเพราะสงสัยว่าไปพัวพันกับกลุ่มของ นายหน่อคำด้วย ขณะที่ทางการไทยได้ตั้งเป็นศูนย์ปฎิบัติการป้องกัน และปราบปรามการกระทำผิดในแม่น้ำโขง (ศปปข.) มีศูนย์บัญชาการอยู่ที่ ภ.ภาค 5 และ ศปปข.ส่วนหน้าที่ท่าเรือเชียงแสน นอกจากนี้จีนยังรับเป็นธุระจัดหาเรือลาดตระเวณในแม่น้ำโขงให้พม่าและ สปป.ลาว ประเทศละ 1 ลำ โดยที่ผ่านมามีการร่วมมือกันฝึกกำลังหลายครั้ง และยังมีการบุกเข้าโจมตีฐานที่มั่นเดิมของนายจายหน่อคำที่บ้านสามพู ประเทศพม่า เกาะกลางแม่น้ำโขง และฝั่งตรงกันข้ามคือบ้านห้วยต่าง สปป.ลาว ที่ใช้เป็นสถานที่ซ่องสุมกลางแม่น้ำโขง หลังถูกปราบปรามอยู่พักใหญ่จึงถูกจับกุมได้ดังกล่าว
