อีก 2 ปีสหรัฐฯ ส่งเรือพิฆาต “ซูเปอร์ล่องหน" เข้าทะเลจีนใต้
นายพาเน็ตตาไม่ได้ระบุตรงๆ ว่าเป็นเรืออะไร แต่นักการทหารกล่าวในสัปดาห์นี้ว่า รมว.กลาโหมสหรัฐฯ หมายถึงเรือพิฆาตชั้นซุมวอลต์ (Zumwalt-Class Destroyer) ซึ่งมีกำหนดนำเข้าประจำการในกองทัพเรือ เดือน เม.ย..2557 ในแผนการสร้าง 3 ลำแรก นำโดยเรือ USS Zumwalt รหัส DDG-1000 ต่อซีรีส์ด้วยเรือไมเคิล มอนซูร์ (USS Michael Monsoor) กับเรือลินดอน บี จอห์นสัน (USS Lyndon B Johnson) ทั้งหมดใช้เทคโนโลยีที่เรียกว่า "ซูเปอร์สเตลธ์" (Super Stealth) หรือ "ซูเปอร์ล่องหน" ยากที่จะหาเทคโนโลยีใดตรวจจับความเคลื่อนไหวได้ในปัจจุบัน เว็บไซต์ International Defence อ้างคำกล่าวของแหล่งข่าวในกระทรวงกลาโหมสหรัฐ เรือพิฆาตชั้นซูมวอลต์ เรียกกันอีกชื่อหนึงว่า "เรือกระสุนเงิน" ซึ่งหมายถึงหัวกระสุนที่หล่อจากแร่เงินใช้ปราบผีดิบพวกแวมไพร์ทั้งหลายตาม ความเชื่อแต่โบราณ แต่เรือรุ่นนี้ไม่โบราณ หากเป็นเรือรบที่ "ก้าวหน้าที่สุดในประวัติศาสตร์" แหล่งข่าวกล่าว เรือ USS Zumwalt จะเป็นลำแรกที่แล่นเข้าสู่ทะเลจีนใต้ พร้อมกับกองเรือรบมหึมาของสหรัฐฯ ที่จะเข้าสู่ภูมิภาคนี้อย่างไม่เคยปรากฏมาก่อนในช่วงหลังยุคสงครามเย็น เรือพิฆาตชั้นซูมวอลต์จะเข้าแทนที่เรือพิฆาตติดขีปนาวุธนำวิถีชั้น อาร์ลีห์เบิร์ค (Arleigh Burke-Class) ซึ่งในช่วง 3 ทศวรรษที่ผ่านมา สร้างมาทั้งหมด 112 ลำจนถึงรหัส DDG-112 อันเป็นลำสุดท้ายของชั้นนี้ ปัจจุบันเรือชั้นอาร์ลีย์เบิร์คที่ออกแบบมาเป็นเรือรบเอนกประสงค์ ก็ยังเป็นเรือรบดีที่สุด มีเขี้ยวเล็บน่าสะพรึงกลัวมากที่สุด ยากที่จะหาเรือพิฆาตอื่นใดของชาติใดเปรียบได้ "แต่เรือซูมวอลต์ไปไกลยิ่งกว่านั้น" แหล่งข่าวของ International Defence กล่าว เรือพิฆาตรุ่นล่าสุดออกแบบเพื่อหลากหลายภารกิจ แต่เน้นการโจมตีเป้าหมายบนบกมากกว่าในทะเล ซึ่งจะเป็นภารกิจของเรือลาดตระเวน (Cruiser) กับเรือฟรีเกตหลากหลายชั้นที่กองทัพเรือสหรัฐฯ มีเหลือเฟือ และทั้งหมดล้วนเป็นเรือติดขีปนาวุธนำวิถีที่ทำลายเป้าหมายได้ทุกชนิด ทั้งในสงครามผิวน้ำและสงครามใต้น้ำ สหรัฐฯ ยังมีกองทัพเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ที่ใหญ่โตและทันสมัยที่สุดในโลก เรือดำน้ำรุ่นใหม่ทั้งหมดใช้พลังงานนิวเคลียร์ที่อยู่ใต้น้ำได้นานนับปี บางชั้นติดขีปนาวุธโจมตีข้ามทวีป ยิงทำลายเป้าหมายในระยะ 3,000 กิโลเมตรได้ทุกๆ ที่ และยังติดหัวรบนิวเคลียร์ได้อีกด้วย
"ในภาวะสงครามจีนจะเป็นเป้าหมายที่จะป้องกันตัวเองลำบากที่สุด เพราะการโจมตีจะไปจากทุกทิศทุกทาง และเป็นอันตรายต่อจีนมากที่สุดในวันข้างหน้ายังรวมทั้งเรือพิฆาตซูเปอร์ สเตลธ์ด้วย” เว็บไซต์เดียวกันอ้างคำพูดของนักวิเคราะห์กลาโหม ผู้เชี่ยวชาญด้านอาวุธอีกคนหนึ่ง "เรือซูมวอลต์จะสะท้อนเรดาร์เป็นเพียงจุดเล็กๆ เท่ากับเรือหาปลาลำหนึ่ง เป็นการยากฝ่ายข้าศึกจะแยกแยะในสถานการณ์ที่ไม่ปรกติ โดยไม่ต้องพูดถึงระบบเรดาร์เก่าๆ ที่จะไม่สามารถตรวจจับได้" นายพาเน็ตตากล่าวระหว่างการประชุมในสิงคโปร์ว่า สหรัฐฯ จะโยกย้ายกำลังทางเรือเข้าสู่เอเชียคิดเป็นสัดส่วน 60 ต่อ 40 กับทางด้านยุโรป ซึ่งเป็นสัดส่วนที่ตรงข้ามกับในปัจจุบัน ที่เน้นคงกองกำลังในย่านตะวันออกกลางกับทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ไม่กี่ปีข้างหน้าสหรัฐฯ จะมีกองเรือบรรทุกเครื่องบินโจมตีประจำในย่านเอเชียถึง 6 กอง ประกอบด้วยเรือบรรทุกเรื่องบิน 6 ลำ เรือลาดตระเวน เรือพิฆาต เรือฟรีเกต เรือคอร์แว็ต เรือดำน้ำ เรือโจมตียกพลขึ้นบก กับเรือสนับสนุนอื่นๆ รวมแล้วนับร้อย ลำ เมื่อเดือนที่แล้วกองทัพเรือสหรัฐฯ ประกาศจะส่งเรือฟรีดอม (Freedom) LCS-1 ซึ่งเป็นเรือจู่โจมชายฝั่ง (Littoral Combat Ship) รุ่นใหม่ล่าสุดเข้าประจำการในสิงคโปร์ต้นปีหน้า จะเป็นครั้งแรกที่เรือ LCS ของสหรัฐฯ เข้าสู่ย่านนี้ เพื่อดูแลช่องแคบมะละกากับภารกิจรักษา "เส้นทางเดินเรือเสรีทะเลจีนใต้" อย่างไรก็ตามสหรัฐฯ ยังจะต้องทำอีกมากเพื่อรองรับการเคลื่อนกองกำลังทางเรืออันใหญ่โตเข้าสู่ภูมิภาคนี้ ระหว่างไปเยือนเวียดนามเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นายพาเน็ตตาได้ไปเยือนอ่าวกามแร็ง ฐานทัพเก่าในสมัยสงครามด้วยและได้เจรจากับฝ่ายเวียดนาม เพื่อขอใช้เป็นแหล่งซ่อมบำรุงของกองเรือรบอีกแห่งหนึ่ง นอกจากอ่าวซูบิคในฟิลิปปินส์ ฐานทัพเรือชางงีในสิงคโปร์ กับฐานทัพเรือในอินโดนีเซียและในประเทศไทย ปัจจุบันกองเรือบรรทุกเครื่องบินโจมตีของสหรัฐฯ อย่างน้อย 3 กอง หมุนเวียนแล่นเข้าออกน่านน้ำทะเลจีนใต้เป็นระยะเพื่อภารกิจต่างๆ โดยใช้ฐานทัพโยโกสุกะในญี่ปุ่นกับฐานทัพเก่าในเกาหลีเป็นแหล่งซ่อมบำรุงและ ยังมีเรือพิฆาตสหรัฐฯ อย่างน้อย 1 ลำจอดประจำกาในทะเลซูลู ฟิลิปปินส์ ซึงอยู่ใกล้กับหมู่เกาะสแปร็ตลีย์ ดินแดนพิพาทระหว่างจีนกับอีกหลายฝ่ายในย่านนี้ นอกจากนั้นเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ของสหรัฐฯ ที่ไม่อาจจะนับจำนวนได้ยังคงเคลื่อนไหวอยู่ในย่านนี้อย่างลับๆ ทุกลำติดอาวุธโจมตีร้ายแรง รวมทั้งจรวดร่อนโทมาฮอว์ค .
. อย่างน้อยมี 1 ลำ คือ เรือดำน้ำนอร์ธแคโรไลนา (SSN North Carolina) โผล่ให้เห็นที่ฐานทัพเรือซูบิคเก่า ในสัปดาห์กลางเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา และอยู่ที่นั่นเป็นเวลา 5 วัน ในช่วงที่เรือตรวจการณ์ฝั่งของฟิลิปปินส์กำลังเผชิญหน้ากับเรือจีนนับสิบลำ ที่เกาะปะการังแห่งหนึ่ง ห่างจากฝั่งฟิลิปปินส์ราว 200 กม. แต่อยู่ไกลจากฝั่งทะเลของจีนถึง 1,200 กม. นั่นคือเรือดำน้ำโจมตีเร็วชั้นเวอร์จิเนีย (Virginia-Class) ซึ่งเป็นเรือรุ่นใหม่และทันสมัยที่สุด 1 ในจำนวน 9 ลำที่ประจำการในขณะนี้ ในแผนการที่จะนำเข้าประจำการทั้งหมด 30 ลำ เพื่อแทนที่เรือดำน้ำชั้นลอสแอนเจลีส ที่สหรัฐทยอยปลดประจำการ เพียงไม่นานหลังจากเรือ SSN North Carolina แล่นออกไป เรือพิฆาตรณ (ISN Rana) ของกองทัพเรืออินเดียก็เข้าจอดที่นั่นพร้อมกับเรือฟรีเกต เรือคอร์แว็ต และเรือเติมน้ำมันรวม 4 ลำ ติดๆ กันในสัปดาห์ปลายเดือนเรือพิฆาตญี่ปุ่นอีก 2 ลำ ก็แล่นเข้าอ่าวซูบิคอีก เพื่อเยือนสันถวไมตรีฟิลิปปินส์ ถึงแม้โฆษกกองทัพเรือฟิลิปปินส์จะแถลงว่า ทั้งหมดนี้ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับความขัดแย้งและการเผชิญหน้ากับจีนก็ตาม แต่นักสังเกตการณ์ทางทหารมองว่า เป็นการแสดงพลังครั้งสำคัญในเชิงสัญลักษณ์ของสหรัฐฯ กับพันธมิตรในภูมิภาค ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าย่านนี้จะเต็มไปด้วยเรือรบสหรัฐฯ แม้จะไม่ใช่การกลับคืนสู่ยุคฐานทัพเช่นในช่วงทศวรรษที่ 1960-1970 ก็ตาม แต่ก็เป็นแสนยานุภาพที่จีนไม่อาจจะเทียบได้ทั้งในด้านจำนวนและอานุภาพ เป้าหมายของสหรัฐฯ ในการกลับสู่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้นั้นชัดเจน นายพาเน็ตตาบอกกับ พล.อ.ฝุ่งกวางแทง (Phung Quang Thanh) รัฐมนตรีกลาโหมเวียดนาม สัปดาห์ที่แล้วว่า เมื่อมีจีนก็จะต้องมีสหรัฐฯ อยู่ด้วย ภูมิภาคนี้จึงจะมีเสถียรภาพ.
ເທ໊ກໂນໂລຍີ້ ຂອງ ເມຣິກາ ຂອ້ຍເຫັນແລ້ວ ຂົນຫົວຮຸກ ພໍ່ອາວເອີຍ
ສົມເປັນເຈົ້າພໍ່ໂລກ ອີ່ລີ
Anonymous wrote:ມັນກະລຸກແຕຊູຫັນແລວ ພວກຫົວແບນເອີຍ
ມັນກະລຸກແຕຊູຫັນແລວ ພວກຫົວແບນເອີຍ
ບັກຫ້າ ລູກຊອດແກວ ຜູ້ນຳມຶງເປັນຄວາຍ ມຶງກະເປັນຄວາຍຄືກັນກັບ
ຜູ້ນຳມຶງນັ້ນລະ
wrote:Anonymous wrote:ມັນກະລຸກແຕຊູຫັນແລວ ພວກຫົວແບນເອີຍ ບັກຫ້າ ລູກຊອດແກວ ຜູ້ນຳມຶງເປັນຄວາຍ ມຶງກະເປັນຄວາຍຄືກັນກັບຜູ້ນຳມຶງນັ້ນລະ-- Edited by buckhumnoy on Sunday 10th of June 2012 05:47:19 PM
-- Edited by buckhumnoy on Sunday 10th of June 2012 05:47:19 PM
ປະເທດເຂົາຈະເຮີນ ເຂົາເອົາຣົດແກ່ຄວາຍ
ກົງກັນຂ້າມກັບຜູ້ນຳ ສປປລາວ ເອົາຄວາຍແກ່ຣົດ
ຮ້າໆ, ຮ້າໆ,
ກູລະເບືອພວກບ້າສົງຄາມນີເດຈັກປານໃດມັນສິຕາຍຫມົດ ໂລກຈັງສິສະງົບ