อีกไม่นานจะได้เห็น MQ-1 “เพรเดเตอร์” นักฆ่าเลือดเย็น
สหรัฐฯ จะกลับคืนสู่เอเชียอย่างเป็นขบวนการ ทั้งทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ กลับมาพร้อมเขี้ยวเล็บต่างๆ เต็มอัตราศึก และต่างไปจากเมื่อหลายทศวรรษก่อน สหรัฐฯ กลับมาอย่างไฮเทค ซึ่งสิ่งต่างๆ เหล่านี้ได้เปลี่ยนรูปโฉมการทำสงครามไปอีกขั้น สิ่งหนึ่งที่ไม่เคยปรากฏให้เห็นในย่านนี้มาก่อน อย่างน้อยก็อย่างเป็นทางการ นั่นก็คือ ยานบินไร้คนบังคับที่สหรัฐฯ มีใช้หลากหลายรุ่น รวมทั้ง MQ-1 Predator ที่เชื่อว่าผู้คนแถบนี้จะได้เห็นกันชินตาในอนาคตอันใกล้ แม้ว่าพักหลังๆ นี้จะมีการถกเถียงในแง่ศีลธรรมเกี่ยวกับปฏิบัติการของมันอย่างหนาหูมากขึ้น ก็ตาม นับตั้งแต่ปี 2538 ที่ออกงานแรก MQ-1 เพรเดเตอร์ “นักล่า” ตัวนี้ได้กลายเป็นเครื่องมือหลักของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ในสงครามกับกลุ่มก่อการร้าย (ในความหมายของสหรัฐฯ) ถึงปัจจุบัน ยานรุ่นนี้ผ่านการใช้งานมาเป็นระยะทางกว่า 1 ล้านไมล์ มีประวัติปฏิบัติการในหลายประเทศ จากตะวันออก และแอฟริกา ไปจนถึงบอสเนีย และในสงครามโคโซโว จากภารกิจบินลาดตระเวน ตั้งแต่ปี 2544 เป็นต้นมา เพรเดเตอร์กลายเป็นยานโจมตีที่น่าเกรงขาม เมื่อพัฒนาให้ติดจรวดเฮลไฟร์ (Hellfire) หรือ “ไฟนรก” “นักล่า” ยังคงปฏิบัติภารกิจหลักในการไล่ล่าโจมตีทำลายที่ตั้งกองโจรอัลกออิดะ ทั้งในอัฟกานิสถาน และในปากีสถาน หน่วยงานที่ใช้มากที่สุดนอกจากกองทัพอากาศแล้ว ก็ยังรวมทั้งองค์การประมวลข่าวกลางหรือ “ซีไอเอ” ด้วย ยานเพรเดเตอร์ยังอยู่เบื้องหลังการลอบสังหารผู้นำอัลกออิดะคนสำคัญ จำนวนหนึ่ง คนเหล่านั้นถูกปลิดชีพโดยไม่รู้ตัวขณะเดินทางไปในกองคาราวานลับ หรือในรถยนต์ส่วนตัวบนท้องถนน หลายคนเสียชีวิตในเวลากลางคืน และว่ากันว่า เพรเิดอร์อยู่เบื้องหลังการสังหารประธานาธิบดีมูอัมมาร์ กัดดาฟี ผู้นำลิเบียเมื่อต้นปีนี้
และนี่คือ "นักบิน" ซึ่งทำงานคนเดียว แต่สามารถควบคุมสั่งการ MQ-1 เพรเดเตอร์ได้ครั้งละหลายๆ ลำ
ในหลายจุดปฏิบัติการได้พร้อมๆ กัน แม้จะอยู่ไกลออกไปกว่า 700 กม. และนำพวกนั้นกลับมายังฐานแห่งนี้.
ສຸດຍອດ ພຮະຄຳພີ ເຈົ້າພໍ່ໂລກ
ພວກ ຄອມມູນິດທັງຫລາຍຕ້ອງເອີ້ນວ່າ Dady ກັບມາແລ້ວ, 55555555555
Anonymous wrote:ສຸດຍອດ ພຮະຄຳພີ ເຈົ້າພໍ່ໂລກພວກ ຄອມມູນິດທັງຫລາຍຕ້ອງເອີ້ນວ່າ Dady ກັບມາແລ້ວ, 55555555555
the time for america was runnig out longs ago for making the new war in Asia... stupid America..!