ลาวเดินหน้าสร้างเขื่อนยักษ์บนแม่น้ำโขงในสัปดาห์นี้
“หลังจากเตรียมการนาน 2 ปี รัฐบาลลาวจะทำพิธีวางศิลาฤกษ์ในวันที่ 7 พ.ย. และจะเริ่มก่อสร้างตัวเขื่อนในแม่น้ำโขงในสัปดาห์นี้” นายวีระพน วีระวง รัฐมนตรีช่วยกระทรวงพลังงานกล่าว โครงการเขื่อนไฟฟ้าไซยะบูลีมูลค่า 3,800 ล้านดอลลาร์ ที่ดำเนินการโดยกลุ่มบริษัท ช.การช่างของไทย ได้แบ่งแยกความเห็นของประเทศอนุภาคลุ่มน้ำโขง 4 ประเทศ คือ ลาว เวียดนาม กัมพูชา และไทย ที่ต่างพึ่งพาระบบแม่น้ำสายนี้ในการประมง และชลประทาน และการก่อสร้างถูกระงับนาน 18 เดือน เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม นายวีระพน กล่าวว่า รูปแบบเขื่อนบางส่วนถูกปรับเปลี่ยนเพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ประเทศเพื่อน บ้าน และยืนยันว่า การก่อสร้างจะเป็นไปตามกำหนดที่คาดว่าจะแล้วเสร็จในปลายปี 2562 เขื่อนขนาด 1,260 เมกะวัตต์ ที่เป็นเขื่อนแรกจากทั้งหมด 11 แห่งบนเส้นทางน้ำสำคัญสายนี้ จะกลายเป็นสัญลักษณ์ของความเสี่ยงจากโครงการไฟฟ้าพลังน้ำในภูมิภาค ลาว ที่เป็นหนึ่งในประเทศด้อยพัฒนาของโลกเชื่อว่าเขื่อนจะช่วยให้ลาวกลายเป็น “แบตเตอรี่ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้” จากการขายพลังงานไฟฟ้าที่ผลิตได้ให้แก่ประเทศเพื่อนบ้านที่ร่ำรวยกว่า ไทยเห็นชอบที่จะซื้อพลังงานไฟฟ้าส่วนใหญ่ที่ผลิตได้จากโครงการนี้ แต่กัมพูชา และเวียดนามวิตกว่าเขื่อนจะทำลายอุตสาหกรรมประมงและการเกษตรของประเทศ นักสิ่งแวดล้อมกล่าวว่า เขื่อนจะส่งผลกระทบต่อประชาชน 60 ล้านคนที่พึ่งพาแม่น้ำในการคมนาคม แหล่งอาหาร และเศรษฐกิจ นอกจากนั้น สายพันธุ์ปลาในแม่น้ำโขงจะเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ เนื่องจากสารอาหารสำคัญถูกดักไว้เหนือเขื่อน และปลาหลายสิบสายพันธุ์ไม่สามารถว่ายทวนกระแสน้ำขึ้นไปวางไข่เหนือเขื่อนได้ ในเดือน ก.ค. นายวีระพนกล่าวกับหนังสือพิมพ์เวียงจันทน์ไทม์สว่า เขื่อนแห่งนี้จะเป็นเขื่อนที่โปร่งใส และทันสมัยที่สุดแห่งหนึ่งในโลก แต่การก่อสร้างจะไม่คืบหน้าจนกว่าความวิตกกังวลของประเทศเพื่อนบ้านจะได้รับ การแก้ไข การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับโครงการจะจัดการกับประเด็นปัญหาสำคัญ 2 ประการ คือ การอพยพของปลา และการไหลของตะกอน ด้วยการรวมเส้นทางที่ทำให้ปลาประมาณ 85% สามารถว่ายไปตามแม่น้ำได้ และระบบจ่ายน้ำป้องกันตะกอนตกค้าง.