ญี่ปุ่นจะประกาศให้เงินกู้พม่า $615 ล้าน ส่งเสริมการลงทุน
พม่าที่สิ้นสุดการปกครองระบอบเผด็จการทหารที่ยาวนานเกือบครึ่งศตวรรษ เมื่อปีก่อน และความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในประเทศอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ชาติต่างๆ ยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรอย่างกว้างขวาง และช่วงชิงที่จะเข้าไปยังตลาดที่สร้างกำไรแห่งนี้ นายกรัฐมนตรีโยชิฮิโกะ โนดะ ของญี่ปุ่น จะประกาศการจัดสรรเงินกู้ยืมจำนวนดังกล่าวเมื่อเข้าหารือกับประธานาธิบดี เต็งเส่งนอกรอบการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนในกัมพูชา วันนี้ (19 พ.ย.) ตามการระบุของหนังสือพิมพ์นิคเคอิ ของญี่ปุ่น นับเป็นเงินกู้ยืมดอกเบี้ยต่ำระยะยาวครั้งแรกที่ญี่ปุ่นจัดสรรให้แก่ พม่าในรอบเกือบ 3 ทศวรรษ ที่จะช่วยสนับสนุนบริษัทของญี่ปุ่นที่เข้าไปดำเนินกิจการในพม่า และถ่วงดุลอำนาจของจีนที่แผ่ขยายอิทธิพลในพม่า หนังสือพิมพ์นิคเคอิรายงานว่า ญี่ปุ่นจะจัดมอบเงินกู้ยืมดังกล่าวให้ในปีงบประมาณหน้าที่จะเริ่มขึ้นใน เดือน มี.ค. 2556 ขณะที่ธนาคารโลก ธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย และประเทศเจ้าหนี้รายใหญ่ต่างๆ คาดว่าจะประกาศยกเลิกหนี้ค้างชำระของพม่าในเดือน ม.ค. เงินกู้ยืมจำนวน 50,000 ล้านเยน จะนำไปใช้ใน 3 โครงการ ที่รวมทั้งโครงการระบบโครงสร้างพื้นฐานของเขตเศรษฐกิจพิเศษทิลาวา (Thilawa) ที่ญี่ปุ่นเข้าลงทุนพัฒนาชานนครย่างกุ้ง โดยมีบริษัทมิตซูบิชิ บริษัทซูมิโตโม และบริษัทมารุเบนิ ถือหุ้นส่วนใหญ่ ส่วนอีก 2 โครงการ คือ งานซ่อมแซมโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนใกล้นครย่างกุ้ง และโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานใน 14 เขต เพื่อลดปัญหาความยากจน ญี่ปุ่นที่เศรษฐกิจของประเทศพึ่งพาการส่งออกกำลังมองหาการส่งเสริม การเติบโตในภูมิภาคลุ่มน้ำโขงที่ร่ำรวยด้วยทรัพยากร และกำลังถูกปกคลุมด้วยอิทธิพลของจีน ญี่ปุ่นดำเนินนโยบายต่างไปจากชาติตะวันตกอื่นๆ โดยยังคงความสัมพันธ์ทางการค้า และการหารือกับพม่า และได้กล่าวเตือนว่า ความแข็งกร้าวต่อรัฐบาลเผด็จการทหารพม่าอาจผลักดันให้พม่ามีความสัมพันธ์ ใกล้ชิดกับจีนมากยิ่งขึ้น ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา รัฐบาลญี่ปุ่นได้มอบเงินกู้ยืมดอกเบี้ยต่ำระยะยาวลักษณะคล้ายกันนี้ให้แก่ ประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชีย รวมทั้ง เวียดนาม และอินเดีย ในเป้าหมายที่หวังจะส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจ และในเดือน เม.ย. ที่ผ่านมา ญี่ปุ่นเห็นชอบที่จะยกหนี้ จำนวน 300,000 ล้านเยน จากทั้งหมด 500,000 ล้านเยน ให้แก่พม่า.